Bloggang.com : อุ้มสี : แจ้งข่าว การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี ๒๕๖๖ ส่งผลงานประกวดจนถึง ๙ เม.ย.๒๕๖๖

แจ้งข่าว การประกวดวรรณกรรมรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี ๒๕๖๖ ส่งผลงานประกวดจนถึง ๙ เม.ย.๒๕๖๖

สำนักงานเลขาธิการผู้แทนราษฏร โดย คณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖๖
จัดการประกวดวรรณกรรมพานแว่นฟ้า ประจำปี ๒๕๖๖
ประเภทเรื่องสั้นและบทกวี
เพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย
โดยเปิดรับผลงานเข้าประกวดตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๖

ด้วยสำนักงานเลขาธิการผู้แทนราษฏร โดย คณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี ๒๕๖๖
จัดการประกวดวรรณกรรมพานแว่นฟ้า ประจำปี ๒๕๖๖
ประเภทเรื่องสั้นและบทกวี เพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย
โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

๑.เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมืองการปกครองระบอประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
๒.เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย
ทั้งในเรื่องสิทธิ หน้าที่ ความเสมอภาค และความรับผิดชอบต่อสังคม
อันเป็นพื้นฐานสำคัญของความเป็นประชาธิปไตย ผ่านวรรณกรรม
๓.เพื่อสนับสนุนและยกย่องผลงานวรรณกรรมไทยที่ทรงคุณค่า
ให้พัฒนาไปพร้อมกับสำนึกความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย
๔.เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ และความสามัคคีของประชาชนในประเทศชาติ

ประเภทผลงานที่ส่งเข้าประกวด มีดังนี้
๑.เรื่องสั้น
๒.บทกวี

เรื่องสั้น ลักษณะของผลงานที่จะส่งเข้าประกวด มีดังนี้
๑.เป็นผลงานวรรณกรรมเพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย
๒.เรื่องสั้น เป็นวรรณกรรมประเภทเรื่องสั้น ต้นฉบับผลงานต้องเป็นภาษาไทย
และพิมพ์ลงในกระดาษ A๔ จำนวนไม่เกิน ๘ หน้า
หากพิมพ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ใช้ตัวอักษรขนาด ๑๖ ตัวพิมพ์ (๑๖ พอยท์)
ในกรณีที่ผู้ส่งผลงานเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำหรือฑัณฑสถาน
อนุโลมให้เขียนด้วยลายมือตัวบรรจง จำนวนไม่เกิน ๑๐ หน้า

บทกวี เป็นวรรณกรรมประเภทบทกวี
๑.หากเป็นบทกวีฉันทลักษณ์ ขนาดความยาว ๖-๑๒ บท
๒.ถ้าเป็นบทกวีรูปแบบอื่น (กลอนเปล่าหรือรูปแบบคำประพันธ์ที่สร้างขึ้นใหม่)
ขนาดความยาวไม่เกิน ๒ หน้ากระดาษ
โดยพิมพ์หรือเขียนลงในกระดาษ A๔ หากพิมพ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ใช้ตัวอักษรขนาด ๑๖ ตัวพิมพ์ (๑๖ พอยท์)
๓.หากเขียนด้วยลายมือให้เขียนตัวบรรจง

จากบทกวีส่งประกวดจำนวน ๕๑๓ บท
รางวัลชนะเลิศเ คือ
บทกวี ผีถ้วยแก้วโดย : อร่าม อิ่มพุ่ม

บทกวี “ผีถ้วยแก้ว” ที่ได้ชนะเลิศของพานแว่นฟ้าปี ๒๕๖๕
มีคำวิจารณ์สั้นๆ ของคณะกรรมการน่าสนใจดังนี้ คือ

“…บ้านผีถ้วยแก้ว ซึ่งดูเผินๆ ก็เหมือนบ้านที่ขลังและศักดิ์สิทธิ์
ร่มเย็นน่าอยู่ด้วยป้ายชื่อ
แต่พอเอาเข้าจริงกลับมีปัญหาสำคัญคือ มีมือที่มองไม่เห็นที่กำลังฟาดฟันกันเอง
หรือบางทีก็มีปัญหาการไม่พยายามไม่มองจากมุมของคนอื่น
มองแต่มุมของตัวเองฝ่ายเดียว…”

คนเคยเล่นผีถ้วยแก้วหรือรู้จักการเล่นผีถ้วยแก้ว อาจงุนงงว่า
ถ้วยแก้วมันเขยื้อนได้อย่างไร
ในเมื่อหลายมือที่ร่วมกันแตะก้นถ้วยคว่ำนั้นต่างก็ไม่ได้ผลักให้ถ้วยเขยื้อนเคลื่อนไหวเลย
เหมือนว่าถ้วยมันเคลื่อนไปยังตัวอักษรจนประกอบเป็นถ้อยคำได้เอง
ชวนขนลุกได้เลย
กวีบทนี้จบลงดังเป็นคำตอบสุดท้ายว่า

....ยื่นข้อความถามที ผีถ้วยแก้ว

วางมือแล้วมือใครลากไปถึง

ผียืนมองมือทั้งนั้นต่างดันดึง

เห็นมือซึ่งดึงดันฟาดกันเอง

กวีเล่นคำว่า “ดันดึง-ดึงดัน” ได้ดีนักจนผีงงไปเลย

กวีบท “ผีถ้วยแก้ว” นี้เป็นสัญลักษณ์สะท้อนภาวะของสังคมไทยได้อย่างลุ่มลึก
น่าสนใจตรงที่ “เสาบ้าน” เป็น “เสาที่ค้ำหลังคาและฝาบ้าน
คือรากฐานตรึงไว้ไม่เขยื้อน” แถมมีฤกษ์ยามเป็นอาคม
พร้อมทั้งมี “เครื่องเซ่นไหว้บูชาตามวาระ” อีกด้วย
จากความเชื่อค่อยคลี่คลายเป็นความสงสัย
กระทั่งแบ่งฝักฝ่ายระหว่างความเชื่อกับความไม่เชื่อ
จนถึง “ทั้งพระภูมิเทวดาก็มาพลอย ค่อยทยอยทิ้งวิมานบ้านมนุษย์”

และสุดท้าย “เห็นหรือเปล่าเสาเดิมที่เริ่มทรุด”
แน่นอน
ความเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาย่อมมีในทุกสิ่ง ทุกที่ และทุกสภาวะ
นี่เป็นกฎธรรมชาติ
ผู้ไม่ประจักษ์ในสัจธรรมดังกล่าว
ก็จะโทษผีโทษเทวดาตามความงมงายไสยศาสตร์ด้วยอำนาจของ “ความไม่รู้” เป็นธรรมดา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่ในสังคมเรา
เป็นสนิมเขรอะคร่ำของแผ่นดิน

บทกวี “ผีถ้วยแก้ว” จึงเสมือน “ยาผีบอก” แก่สังคมไทย
ที่สะท้อนเหตุให้เห็น “มือที่ดันดึง” และ “มือที่ดึงดัน”
ซึ่งต่าง “ฟาดกันเอง” อยู่นี้
ที่สุดคือสภาพของความไม่เป็นประชาธิปไตย อันยังดำรงอยู่ในสังคมไทยเรานี่เอง
เป็นมุมมองหนึ่งของกวี
ซึ่งบรรดากวีทั้งหลายในเวทีพานแว่นฟ้า
ต่างสะท้อนทัศนวิสัยที่มีต่อประชาธิปไตยกันหลากหลายน่าสนใจทั้งสิ้น

เรื่องสั้นเรื่อง ความกระจ่างที่ระนะทาง ๔๑,๐๕๗ กิโลเมตร
โดย : วิชญวิญญ์
ในปี พ.ศ.๒๕๖๕ มีเรื่องสั้นส่งประกวดจำนวน ๓๓๑ เรื่อง
ชนะเลิศรางวัลพานแว่นฟ้าปีพ..ศ.๒๕๖๕

รางวัลพานแว่นฟ้า ๑.ประเภทเรื่องสั้น
๑.๑ รางวัลชนะเลิศ ๑ รางวัล
ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้าและเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา
และเงินรางวัล ๖๐,๐๐๐ บาท
๒.๑ รางวัลรองชนะเลิศ ๒ รางวัล
ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้าและเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา
และเงินรางวัล ๔๐,๐๐๐ บาท
๓.๑ รางวัลชมเชย ๑๐ รางวัล
ได้รับเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา
และเงินรางวัลๆ ละ ๒๐,๐๐๐ บาท

รางวัลพานแว่นฟ้า ๒.ประเภทบทกวี
๒.๑ รางวัลชนะเลิศ ๑ รางวัล
ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้าและเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา
และเงินรางวัล ๖๐,๐๐๐ บาท
๒.๒ รางวัลรองชนะเลิศ ๒ รางวัล
ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้าและเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา
และเงินรางวัล ๔๐,๐๐๐ บาท
๒.๓ รางวัลชมเชย ๑๐ รางวัล
ได้รับเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา
และเงินรางวัลๆ ละ ๒๐,๐๐๐ บาท

ผลงานที่ผ่านการพิจารณารอบกลั่นกรองทั้งประเภทเรื่องสั้นและบทกวีที่ไม่ได้รับรางวัล
จะได้รับเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา

สนใจส่งผลงานเข้าประกวด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
กลุ่มงานเผยแพร่ประชาธิปไตยและกิจกรรมสภาสภาผู้แทนราษฏร
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร
โทร.๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ ต่อ ๕๔๙๒-๙๔
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกีบรางวัลได้ที่
https://www.parliament.go.th/phan
และเฟชบุ๊ค #รางวัลพานแว่นฟ้า

ดังนี้เวทีประกวดวรรณกรรมพานแว่นฟ้าของรัฐสภาดังมีมากว่าสองทศวรรษนี้
นอกจากปลุกสำนึกจิตวิญญาณของประชาธิปไตยแล้ว
ยังท้าทายความสามารถเชิงสร้างสรรค์งานวรรณกรรมอีกด้วย
พานแว่นฟ้าสัญลักษณ์ของรัฐสภาไทยจึงเท่ากับทำหน้าที่สำคัญอีกประการ
นั่นคือ แว่นส่องวรรณกรรมไทยอีกทางหนึ่งด้วย

ขอขอบคุณ : สำนักงานเลขาธิการผู้แทนราษฏร

เพลง : ลมเหนือ / อัลบั้ม ศิลปินป่า : จรัล มโนเพ็ชร
BG : คุณลักกี้ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat
โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย
ของแต่ง BLOG : คุณชมพร & น้องญามี่ & คุณเนยสีฟ้า

Create Date : 31 มีนาคม 2566

Last Update : 31 มีนาคม 2566 23:50:17 น.

12 comments

Counter : 999 Pageviews.