happy memories
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
23 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๔๑




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto









'เลิศศาสตร์เลิศศิลป์'ศิลปาชีพบางไทร


เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาทั้งในประเทศและระดับนานาชาติสำหรับหลากผลิตภัณฑ์เด่นของศูนย์ศิลปาชีพบางไทรในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นสถาบันแห่งการสร้างสรรค์งานศิลปาชีพ จนเป็นที่ยอมรับทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายในการสร้าง “สกุลช่างศิลปาชีพบางไทร” และผลิตภัณฑ์ของศูนย์ไม่ว่าในสาขาใดต้องมีความงดงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้เป็นที่ประจักษ์ได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของสกุลช่างศิลปาชีพบางไทร และสามารถไว้วางใจในคุณภาพที่มีมาตรฐานระดับสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาดในอาเซียนและขยายสู่ตลาดโลกต่อไป


จนเป็นที่มาของงาน "เลิศศาสตร์เลิศศิลป์ ศิลปาชีพบางไทร” โดยศูนย์ศิลปาชีพบางไทรในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ร่วมกับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จัดแสดงสุดยอดผลงานด้านศิลปหัตถกรรมอันทรงคุณค่าอย่างยิ่งใหญ่ในรอบปีระหว่างวันที่ ๒๑-๒๓ มิถุนายนนี้ ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ ๒ ชั้น ๕ ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมอวดโฉมงานศิลปหัตกรรม ๓o ผลงานชิ้นเอกเพื่อสืบสานและผลักดัน "แบรนด์ศิลปาชีพ" ให้คงอยู่และเป็นที่รู้จักในระดับสากล





คุณธานินทร์ กรัยวิเชียร



ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรีและประธานกรรมการบริหารศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร แถลงถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อความกินดีอยู่ดีของราษฎรมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนมุ่งเน้นให้กลุ่มบุคคลที่สนใจและบุคคลทั่วไปเข้าถึงและตระหนักถึงความสำคัญของงานศิลปหัตถกรรมและศิลปาชีพไทย และเพื่อให้ความรู้ในเรื่องของความก้าวไกลของงานศิลปาชีพไทยที่กำลังก้าวสู่อาเซียน


"งานศิลปาชีพไทยเป็นงานภูมิปัญญาไทยที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของแต่ละชุมชนในแต่ละภูมิภาคที่มีความแตกต่างกันซึ่งอาจจะแสดงออกถึงความแตกต่างกันทั้งทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรมและความเป็นอยู่ ซึ่งอาจจะมีลักษณะเฉพาะหรือจุดเด่นที่ต่างกันได้หลายรูปแบบและเอกลักษณ์เฉพาะเหล่านั้นจะถูกแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดเจนจากงานฝีมือ” องคมนตรีกล่าว





คุณวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์



ขณะที่ วีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวเสริมว่า หลังจากที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ก่อตั้งขึ้นตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่จะจัดหาอาชีพเสริมให้ราษฎรทำ เพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้เพียงพอแก่การยังชีพ และเป็นการอนุรักษ์ศิลปะโบราณให้คงอยู่ตลอดไปบนพื้นที่กว่า ๑,ooo ไร่ในเขต ส.ป.ก. โดยจัดการฝึกอบรมงานศิลปาชีพให้แก่ลูกหลานเกษตรกรไทยทั้งชาวไร่ ชาวนา ตลอดจนผู้ยากไร้ผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการทุพพลภาพให้มีโอกาสฝึกอาชีพด้านศิลปหัตถกรรมไทย อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติที่มีคุณค่าอันยิ่งใหญ่


โดยเฉพาะงานช่างฝีมือด้านศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านในแขนงต่างๆ โดย ส.ป.ก.เป็นหน่วยกลางในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งเป็นตัวแทนของศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ในการรับสมัครและคัดเลือกเกษตรกรและราษฎรผู้ยากไร้จากทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งปัจจุบันศูนย์ได้เปิดการฝึกอบรมอาชีพให้แก่ราษฎรและเกษตรกรผู้ยากไร้แผนกต่าง ๆ อาทิ แผนกช่างทอผ้าลายตีนจก แผนกช่างเขียนภาพลายไทย แผนกช่างบาติก แผนกช่างเป่าแก้ว แผนกช่างเครื่องเคลือบดินเผา รวมทั้งสิ้น ๓๑ แผนก






ด้าน พรพจน์ มะนิยม กรรมการบริหารและรองผู้อำนวยการศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร กล่าวถึงกิจกรรมภายในงานว่าส่วนแรกเป็นการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กับงานศิลปาชีพไทย และพระราชกรณียกิจด้านการเกษตรและโครงการตามพระราชดำริต่างๆ ส่วนที่สองเป็นการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับงานศิลปาชีพด้านต่าง ๆ โดยได้นำอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญแผนกต่างๆ มาให้ความรู้ด้านงานด้านศิลปาชีพ ได้แก่ แผนกช่างประดิษฐ์หัวโขน แผนกช่างประติมากรรม แผนกช่างบาติก แผนกช่างจิตรกรรมประยุกต์ แผนกช่างวาดภาพสีน้ำมัน


"ที่ถือเป็นไฮไลท์ของงานก็จะเป็นการจัดแสดงผลงานชิ้นเอกของศูนย์ทั้งที่ได้รับรางวัลและบางชิ้นก็มีชิ้นเดียวในประเทศไทยมาจัดแสดงให้ได้ชมกัน รวมถึงผลิตภัณฑ์แผนกต่าง ๆ ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดผลงานการเขียนกระเบื้องระดับโลก ณ ประเทศอิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา มาให้ชมกันด้วย" พรพจน์กล่าวทิ้งท้าย



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net













"ละลานตา 'ศตวรรษา ผ้าโบราณไท'”


คุณค่าของ “ผ้าโบราณ” นอกจากเรื่องของความงดงามและการบอกเล่าถึงเรื่องราวทางภูมิปัญญาของบรรพบุรุษแล้ว ในแต่ละผืนยังมีลวดลายเฉพาะตัว ที่จะช่วยเล่าขานถึงเรื่องราวในวิถีชุมชนท้องถิ่นนั้นๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้นเพื่อเผยแพร่คุณค่าของผ้าทอในอดีตแก่คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ พร้อมสื่อให้เห็นถึงความวิริยะอุตสาหะของบรรพบุรุษ ซึ่งถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ พิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) จึงได้ร่วมมือกับ อ.เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าและนักสะสมผ้าโบราณ จัดนิทรรศการเอกลักษณ์ผ้าโบราณ ภายใต้ชื่อ “ศตวรรษา ผ้าโบราณไท” ขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นประธานเปิดงาน ณ บริเวณชั้น ๒ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันก่อน


พิมพาพรรณ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า เพื่อให้ความรู้ เผยแพร่คุณค่าของผ้าทอในอดีตแก่คนรุ่นหลังพร้อมทั้งสื่อให้เห็นถึงความวิริยะอุตสาหะ และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยที่มีมายาวนานกว่า ๑oo ปี ซึ่งถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ เป็นสมบัติอันทรงคุณค่าในการเก็บรักษาไว้ โดยผ้าที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้บางชิ้นมีอายุกว่าหลายร้อยปี และบางชิ้นยังเป็นเครื่องแต่งกายของบุคคลชั้นสูงในสมัยต่าง ๆ จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ผ้าซึ่งมีอายุเก่าแก่ยาวนานเหล่านี้จะได้รับการเผยแพร่ออกสู่สายตาของสาธารณชนในวงกว้าง


ด้านเจ้าของผ้าทอโบราณกว่า ๑๕o ชิ้น ที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ อ.เผ่าทอง เปิดเผยว่า เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่คุณค่าของผ้าทอในอดีตกาลของกลุ่มชนที่ใช้รากภาษาไท หรือ ไต ทั้ง ไทย จีนตอนใต้ อินเดีย พม่า ลาว เขมร ที่มีอายุตั้งแต่ ๑oo ปีขึ้นไปจนถึงกว่า ๒oo ปี โดยไม่มุ่งเน้นเฉพาะแค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่เน้นไปที่เรื่องคุณค่าของผ้าให้แก่ผู้สนใจศึกษาลายผ้าโบราณได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการทอผ้าต่างๆ ซึ่งหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว หรืออาจจะเคยเห็นแต่เพียงในตำรา เช่น เทคนิคการยกมุก เทคนิคบาติก ซึ่งนิยมในผ้าของจากราชสำนักอินเดีย เทคนิคการเกาะ หรือ ล้วง ได้แก่ ผ้าลายน้ำไหล ของกลุ่มชนไทลื้อในเมืองน่าน รวมถึงเทคนิคการทอแผ่ลวด ซึ่งหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว งานนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นจากของจริง


“สำหรับนิทรรศการครั้งนี้ได้แบ่งออกเป็น ๓ องค์ประกอบหลัก ได้แก่ นิทรรศการพระราชกรณียกิจในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ด้านงานผ้า นิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการการแต่งกายในยุคสมัยรัตนโกสินทร์ และชุดไทยพระราชนิยม ทั้ง ๘ ชุด และการแสดงผ้าโบราณในอดีตที่มีอายุกว่า ๑oo ปี โดยจำแนกได้เป็น ๓ กลุ่ม คือ ผ้าราชสำนัก อย่าง ฉลองพระองค์ครุย รัชกาลที่ ๕ เสื้อยศเสนาบดีครั้งรัชกาลที่ ๔ เสื้อครุยของเจ้าครองนครรัฐฉาน ผ้ากลุ่มตามวัฒนธรรมเผ่าพันธุ์ต่างๆ อาทิ ไทยลื้อ ไทยพวน ฯลฯ และ ผ้าโบราณจากต่างประเทศ อาทิ ประเทศพม่า ประเทศภูฏาน เป็นต้น


ทั้งนี้ นิทรรศการ “ศตวรรษา ผ้าโบราณไท” เปิดให้ผู้สนใจได้เข้าชมแล้วตั้งแต่วันนี้เรื่อยไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา o๘.๓o - ๑๖.๓o น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net












รางวัลช้างเผือก ชื่อศิลปิน นายชัชวาลย์ วรรณโพธิ์ ชื่อภาพ น้ำ ชีวิต ธรรมชาติ
ขนาด ๑๗๒ x ๒๓๘ ซม. เทคนิค สีน้ำมันบนผ้าใบ



"ยลหน้าตาศิลปะ “รางวัลช้างเผือก” คว้าเงิน ๑ ล้าน”


หลังจากที่หลายคนได้ทราบข่าวกันไปบ้างแล้ว ว่าผลงานศิลปะชิ้นใดที่ได้รับรางวัลใหญ่ “รางวัลช้างเผือก” พร้อมเงิน 1 ล้านบาท จากการประกวด “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 2” ในหัวข้อ “น้ำ เพื่อ ชีวิต” จัดโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)


ก่อนที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการ และพระราชทานถ้วยรางวัล ในวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ขณะนี้ผลงานที่ได้รับรางวัล ในอันดับต่างๆ ไล่เรียงไปตั้งแต่ รางวัลช้างเผือก , รางวัลชนะเลิศ, รางวัลรองชนะเลิศ และรางวัลชมเชย พร้อมด้วยผลงานที่ถูกคัดเลือก ได้ถูกนำมาจัดแสดงให้ผู้สนใจได้เข้าชมล่วงหน้าแล้ว ระหว่างวันนี้ - ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ณ บริเวณ ชั้น 8 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมวัน (ปิดวันจันทร์)





รางวัลชนะเลิศ ชื่อศิลปิน นายศรชัย คงวุ่น ชื่อภาพ ถึงบ้าน
ขนาด ๒๓๙ x ๒o๗ ซม. เทคนิค สีอะคริลิคบนผ้าใบ






รางวัลรองชนะเลิศ ชื่อศิลปิน นายชัยรัตน์ แสงทอง ชื่อภาพ พลังแห่งชีวิต
ขนาด ๒๒๗ x ๑๘o ซม. เทคนิค สีอะคริลิคบนผ้าใบ






รางวัลรองชนะเลิศ ชื่อศิลปิน นายสุพร แก้วดา ชื่อภาพ น้ำคือชีวิต หมายเลข 1
ขนาด ๒oo x ๒๔๕ ซม. เทคนิค ดินสอไขบนผ้าใบ






รางวัลรองชนะเลิศ ชื่อศิลปิน นายสุรเดช วัฒนาประดิษฐ์ชัย ชื่อภาพ ละครน้ำเน่า
ขนาด ๑๕๙ x ๒oo ซม. เทคนิค สีอะคริลิค




ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th













"งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ ๓๗”


เมื่อเวลา ๑๓.oo น. วันที่ ๒o มิ.ย. ที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ศาสตราจารย์ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.ต่างประเทศ เป็นประธานเปิดงาน หวนวันหวาน “แรกรถ แรกรัก” กับรถโบราณหายากนับร้อย ในงานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ ๓๗ โดยมีนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย กล่าวรายงาน คณะผู้บริหารของศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตพร้อมคณะให้การต้อนรับ






นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า งานประกวดรถโบราณครั้งที่ ๓๗ จัดขึ้นยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ ๒o-๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ ภายใต้แนวความคิด “แรกรถ แรกรัก” เนื่องจากนักเล่นรถโบราณมักจดจำรถโบราณคันแรกของตนเองได้ทั้งนี่ห้อ รุ่นและรายละเอียดต่างๆ บางคนซื้อมาบูรณะจากซากเศษเหล็กจนกลับฟื้นคืนสภาพอีกครั้งนับเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเช่นเดียวกับรักครั้งแรก






นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย เช่น การจัดโซนแสดงรถยนต์จากละคร “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ประกวดถ่ายภาพกับรถ โดยโพสต์ผ่าน Fanpage Futurepark Society กิจกรรม Work Shop ของสมาชิก Teen Club เพื่อสร้างสีสันให้แก่คนรุ่นใหม่ที่เข้าชมงานตลอดจนเลือกซื้อสินค้าสไตร์เรโทรในตลาดย้อนยุค ซึ่งผู้ที่สนใจห้ามพลาดโดยสามารถเข้าชมฟรีตลอดทั้งงาน ณ Alive Park Hall ชั้นG ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต



ภาพและข้อมูลจากเวบ
dailynews.co.th













'เนาวรัตน์' คว้ารางวัลสุนทรภู่ เผยโฉม ๑o กวีชาติ-ปราชญ์อาเซียน


ประเทศไทยในมิติประวัติศาสตร์มีกวีเอกหลายต่อหลายคน ในสมัยกรุงศรีอยุธยา กวีที่มีชื่อเสียงในช่วงที่ร้อยกรองเจริญรุ่งเรืองมากสมัย "สมเด็จพระนารายณ์มหาราช" คือ "พระโหราธิบดี" ผู้แต่งหนังสือจินดามณี ศรีปราชญ์ ผู้แต่งเรื่องกำสรวลศรีปราชญ์ เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ทรงนิพนธ์ร้อยกรองประเภทกาพย์ห่อโคลงและกาพย์เห่เรือ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีการปรับปรุงร้อยกรองให้ดีขึ้นทุกประเภท โดยเฉพาะกลอนสุภาพได้พัฒนาด้วยการเพิ่มสัมผัสลงไป กวีที่มีชื่อเสียงด้านกลอนสุภาพ คือ "สุนทรภู่" ซึ่งได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากยูเนสโก ในปีพุทธศักราช ๒๕๒๙ ในฐานะบุคคลสำคัญของโลก


ดังนั้น หนึ่งในโครงการสำคัญของแผนปฏิบัติการภายใต้ "โครงการพัฒนาความร่วมมือทางศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมกับกลุ่มประเทศอาเซียน" คือ "โครงการรางวัลสุนทรภู่" โดยความคิดริเริ่มจากกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติความสามารถด้านกวีนิพนธ์ของกวีผู้สร้างสรรค์ในอาเซียน สร้างความตระหนักและความเข้าใจในประเพณีนิยมด้านกวีนิพนธ์ของประเทศต่างๆในอาเซียน และสนับสนุนบทบาทของประเทศไทยในอาเซียน






โดยมีเป้าหมายสุดท้ายให้เป็นรางวัลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและยกย่อง ในแวดวงกวีทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก สร้างเกียรติภูมิและความสง่างามให้แก่ประเทศไทยในฐานะประเทศเจ้าภาพผู้ก่อตั้งรางวัลสุนทรภู่ โดยได้เปิดโครงการเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ มีคณะกรรมการดำเนินงานสำคัญๆ ประกอบด้วย นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม นายประยอม ซองทอง และนายอดุล จันทรศักดิ์ ศิลปินแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษา มีนางสาวิตรี สุวรรณสถิตย์ อดีตรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานกรรมการ


นายสนธยา เปิดเผยว่า ล่าสุดกระทรวงวัฒนธรรมมีหนังสือประสานการดำเนินงานกับกระทรวงวัฒนธรรมและศิลปะของประเทศต่างๆ ในอาเซียนให้เสนอชื่อกวีผู้มีผลงานโดยองค์รวมแสดงความเชี่ยวชาญเชิงวรรณศิลป์และมีคุณธรรมเหมาะสมที่จะเป็น "กวีของชาติ" เป็นผู้สร้างสรรค์ มีพัฒนาการที่ต่อเนื่องและโดดเด่นเป็นที่ยอมรับในวงการกวีนิพนธ์ของประเทศ เป็นกวีรางวัลสุนทรภู่ ประเทศละ ๑ คน รวมทั้งสิ้น ๑o คน บัดนี้จึงมีความยินดีที่จะประกาศรายชื่อกวีรางวัลสุนทรภู่ ประจำปี ๒๕๕๖ ดังต่อไปนี้






๑. Awang Haji Hashim bin Haji Abdul Hamid จากประเทศบรูไนดารุสซาลาม ๒.Ven Son จากประเทศกัมพูชา ๓. Agus R. Sarjono จากประเทศอินโดนีเซีย ๔. Dara Kanlagna (Duangchampa) จากประเทศลาว ๕. Zurinah Hassan จากประเทศมาเลเซีย ๖. U Saw Lwin (Maung ThwayThit) จากประเทศพม่า ๗. Merlie M. Alunan จากประเทศฟิลิปปินส์ ๘. Edwin Nadason Thumboo จากประเทศสิงคโปร์ ๙. Tran Dang Khoa จากประเทศเวียดนาม ๑o. เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ จากประเทศไทย


"งานร้อยกรองเป็นศิลปะที่มีอิทธิพลและบทบาทต่อสังคมเป็นอย่างยิ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นรากฐานแห่งความมั่นคงและเอกราชของชาติไทย เพราะผลงานด้านร้อยกรองสะท้อนการดำรงชีวิต ความเชื่อ ศาสนา ปรัชญา การเมืองการปกครอง ดังจะเห็นได้ว่า สุภาษิตต่างๆ ตำรายา ตำราช้าง ตำราม้า ตำราพิชัยสงคราม ล้วนเขียนด้วยร้อยกรองทั้งสิ้น นอกจากนี้ ร้อยกรอง เป็นผลดีต่อจิตใจของผู้แต่งคือ ทำให้มีจิตใจละเมียดละไม อ่อนโยน งดงาม ช่วยให้เข้าใจผู้อื่น เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เกิดความรักต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างกว้างขวาง จึงใช้สายใยนี้เชื่อมโยง ๑o ประเทศอาเซียนเข้าไว้ด้วยกัน" นายสนธยากล่าว






กวีรางวัลสุนทรภู่จะได้รับรางวัลและผลประโยชน์ ได้แก่ โล่รางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย และวิศิษฏศิลปิน และยังสนับสนุนให้กวีรางวัลสุนทรภู่และผู้ติดตามจากกลุ่มประเทศอาเซียน ๙ ประเทศ เดินทางมาทัศนศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมร่วมกับกวีไทยและสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ระหว่างวันที่ ๒๕-๓o มิถุนายน ๒๕๕๖ กวีนิพนธ์ของกวีรางวัลสุนทรภู่ ๑o ประเทศ ทั้งภาษาประจำชาติและบทแปลเป็นภาษาอังกฤษได้รับการพิมพ์เผยแพร่ รวมทั้งเผยแพร่ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์และมัลติมีเดีย


ทั้งนี้ พิธีมอบโล่รางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กำหนดจัด ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันสุนทรภู่ ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน (ของทุกปี) ๒๕๕๖ พร้อมกับมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การสัมมนาวิชาการ "เปิดฟ้าอาเซียนจากสุนทรภู่และเปิดโลกเปิดโลกกวีอาเซียน" กิจกรรมทัศนศึกษา ตามรอยสุนทรภู่ ไปบ้านเกิดที่วังหลัง พระบรมมหาราชวัง และบ้านบิดาที่ จ.ระยอง เป็นต้น โดยต่างถือว่า การสนับสนุนผลงานด้านวรรณกรรมของ ๑o ประเทศครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมของสังคมไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ ภายใต้แนวคิดของ "การสร้างอัตลักษณ์อาเซียน" ร่วมกัน



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net













"แกะแผน(ที่)ความคิด Mind Map Life Map”


อุทยานการเรียนรู้ TK park จัดนิทรรศการ แกะแผน (ที่) ความคิด MIND MAP LIFE MAP
ชวนน้องๆ มาแกะรอยแผนที่ความคิด แผนที่ชีวิต กับ Mind map หรือการบันทึกถ่ายทอดความคิดด้วยข้อความภาพ และเส้นสีโยงใย ผ่านอุปกรณ์ไฮเทคอย่างแท็บเล็ต สมาร์ตโฟน และแอพพลิเคชั่นดีๆ พร้อมพบวิวัฒนาการของการเขียนจากอดีตสู่ปัจจุบัน กิจกรรมเสวนาจากคนดัง เกมแสนสนุก พร้อมลุ้นของรางวัลมากมาย


มารู้จัก Mind Map Mind Life เขียนแผนที่ชีวิตกับอาชีพในฝันของตัวเอง และสัมผัสประสบการณ์คนดังที่นำ Mind Map มาใช้ในการเรียนและการทำงานอย่างน่าทึ่ง รวมทั้งรู้จักนักพัฒนาแอพพิเคชั่นมืออาชีพ ที่จะมาแชร์ให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้และเตรียมพร้อมกับอาชีพในฝันอย่าง “นักพัฒนาแอพ” เป็นต้น


อย่าพลาดกิจกรรมดี ๆ กับนิทรรศการแกะแผน (ที่) ความคิด MIND MAP LIFE MAP
ในวันเสาร์ – วันอาทิตย์ที่ ๒๒ – ๒๓, ๒๙ – ๓o มิถุนายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๑.oo – ๑๗.oo น. บริเวณลานสานฝัน อุทยานการเรียนรู้ TK park ชั้น ๘ Dazzle Zone ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ tkpark.or.th และโทร. o-๒๖๔๒-๓๔oo ต่อ ๓๑oo



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thailandexhibition.com













"คอนเสิร์ต "จันทร์กลางฟ้า" ”


‘มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค’ จัดคอนเสิร์ต ‘จันทร์กลางฟ้า : ทิพยสังคีตเครื่องสายจีน’ ระดมทุนทำงานเพื่อผู้บริโภค เป็นคอนเสิร์ตเพื่อการบริโภคศิลปะอย่างสร้างสรรค์ เชิญ ‘อาจารย์หลี่ หยาง’ ศิลปินกู่เจิงมือรางวัล ขึ้นเวทีบรรเลงเพลงโซนาตากู่เจิงคลาสสิค พร้อม ‘อาจารย์หลี่ฮุย’ ศิลปินเอ้อร์หู และนักแต่งเพลงแถวหน้าจากปักกิ่ง นำเสนอเพลงแต่งใหม่ของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค


น.ส. สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลงว่า มูลนิธิฯ ได้รับความกรุณาจาก อาจารย์หลี่หยาง นักดนตรีกู่เจิงผู้เชี่ยวชาญ และอาจารย์หลี่ฮุย นักสีซอเอ้อร์หู หรือ ซอสองสาย ทั้งยังเป็นนักประพันธ์เพลงผู้มีผลงานเด่นในแวดวงละครเวที โทรทัศน์ และภาพยนตร์จากปักกิ่ง ในการจัดคอนเสิร์ตเพื่อหาทุนทำงานให้แก่มูลนิธิฯ คอนเสิร์ตนี้ให้ชื่อว่า ‘จันทร์กลางฟ้า : ทิพยสังคีตเครื่องสายจีน’ โดยจะจัดขึ้นที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย หอประชุมเล็ก ในค่ำวันจันทร์ที่ ๕ ถึงวันพฤหัสบดีที่ ๘ สิงหาคม ศกนี้ รวม ๔ คืน ๔ รอบ รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้แก่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค“มูลนิธิฯ มีความคิดเรื่องการจัดงานเพื่อระดมทุนมานานแล้ว เพราะมีความจำเป็นต้องหาทุนสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิฯ ที่ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง” น.ส. สารีกล่าว


เลขาธิการ ‘มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค’ กล่าวต่อไปว่า การทำงานของมูลนิธิฯ มีความก้าวหน้าในทุกด้าน โดยเฉพาะงานด้านการพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค การให้ข้อมูลผู้บริโภคผ่านนิตยสารฉลาดซื้อ และการสนับสนุนให้เกิดศูนย์คุ้มครองสิทธิเพื่อผู้บริโภคในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ “มีประชาชนขอรับบริการให้คำปรึกษาปัญหาการถูกละเมิดสิทธิของผู้บริโภคต่อมูลนิธิ ฯนับหมื่นรายต่อปี และกรณีที่ทางมูลนิธิฯ ให้การช่วยเหลือมีมากถึง ๑,๕oo-๒,ooo รายต่อปี กล่าวได้ว่า ยิ่งนับวัน ประชาชนก็ยิ่งรู้จักและเข้าใจบทบาทของมูลนิธิฯ เรามากขึ้น และต้องการใช้บริการของเราเพิ่มขึ้น จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องจัดเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับ การระดมทุนจึงเป็นเรื่องหลักเรื่องหนึ่งที่ทางมูลนิธิ ฯ จะต้องให้ความสำคัญ” เลขาธิการ ‘มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค’ กล่าว


น.ส. สารีกล่าวต่อไปว่า นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ทางมูลนิธิฯ ได้รับความกรุณาจาก อาจารย์หลี่หยางและอาจารย์หลี่ฮุย สองศิลปินดนตรีจีน ในการจัดคอนเสิร์ตคุณภาพครั้งนี้ จากการประสานงานของนางปนัดดา เลิศล้ำอำไพ กรรมการมูลนิธิฯ และผู้อำนวยการคณะละคร ‘สองแปด’ และอาจารย์รัศมี เผ่าเหลืองทอง ผู้เชี่ยวชาญการละคร และผู้ก่อตั้งคณะละคร ‘สองแปด’


นางปนัดดาชี้แจงว่า อาจารย์หลี่หยางและอาจารย์หลี่ฮุย เป็นสองนักดนตรีผู้มีฝีมือชั้นครู การจัดแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ นับเป็นการหวนคืนสู่เวทีในรอบสิบกว่าปีของอาจารย์ทั้งสองท่าน เพื่อนำความงดงามของศิลปะดนตรีจีนชั้นสูงมาแสดงแก่ชาวไทยในรูปแบบการแสดงสด อาจารย์ทั้งสองท่านจึงเตรียมนำเสนองานชิ้นเอกอย่างหลากหลาย


“อาจารย์หลี่หยางจะเปิดเวทีด้วยการเล่นกู่เจิงเดี่ยว เป็นเพลงชุดโซนาตากู่เจิงคลาสสิคยุคใหม่ ที่มีความไพเราะงดงาม เพลงชุดนี้มี ๔ เพลง นำโดยเพลง ‘เบิกอรุณ’ ส่วนเพลงเอกของการแสดงครั้งนี้ เป็นเพลงในธีมที่ว่าด้วย ‘พระจันทร์’ ถึง ๒ เพลง เราจึงตั้งชื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า ‘จันทร์กลางฟ้า’”


ผู้อำนวยการคณะละคร ‘สองแปด’ คณะละครเวทีคุณภาพกล่าวต่อไปว่า ไฮไลท์ของคอนเสิร์ตครั้งนี้ ยังมีอีกหลายช่วง เป็นต้นว่า อาจารย์หลี่ฮุยได้แต่งเพลงให้แก่ ‘มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค’ เป็นพิเศษ และยังมีเพลงที่แต่งขึ้นใหม่อีก ๒ เพลง มีเนื้อหาเกี่ยวโยงถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งจะนำเสนอเป็น ‘เวิลด์พรีเมียร์’ ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย“นอกจากนี้ ยังมีการแสดงกู่เจิงหมู่ โดยลูกศิษย์ของอาจารย์หลี่หยางหลายคน การขับร้องเพลงที่แต่งใหม่ และนำเสนอเพลงไทยเดิมในลีลาของเครื่องดนตรีกู่เจิงด้วย” นางปนัดดากล่าวในที่สุด


คอนเสิร์ต ‘จันทร์กลางฟ้า : ทิพยสังคีตเครื่องสายจีน’ จัดแสดงที่หอประชุมวัฒนธรรมแห่งประเทศไทยระหว่างวันที่ ๕ ถึงวันที่ ๘ สิงหาคมนี้ เวลา ๑๙.๓o น. บัตรราคา ๒,๕oo, ๒,ooo, ๑,๕oo และ ๑ooo บาท นักเรียนนักศึกษา ๕oo บาท ซื้อบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ (www.thaiticketmajor.com)



ภาพและข้อมูลจากเวบ
entbkkfocus.blogspot.com














ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุค













"คอนเสิร์ต "เพลงพาไป เมืองไทยยิ่งงาม"”


สวลี ผกาพันธุ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ที่ขับร้องเพลงให้ความบันเทิงและไพเราะน่าฟังที่สุดในวงการเพลงไทยสากล นำเสนอคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ ”เพลงพาไป เมืองไทยยิ่งงาม” ที่สวลี ผกาพันธุ์ เชิญศิลปินชั้นครูร่วมแสดงคอนเสิร์ตเพื่อให้บทเพลงอมตะนำผู้ชมและผู้ฟังเข้าไปสู่ความงดงาม ความหลังและความประทับใจที่อยู่ในทั่วทุกภาคของประเทศไทยได้อย่างซาบซึ้งและดื่มด่ำ เสมือนกับเรากำลังพาตัวเองไปเยือนสถานที่เหล่านั้นจริง ๆ





ครูชาลี อินทรวิจิตร



ทุกปี สวลี ผกาพันธุ์ จะจัดคอนเสิร์ตร่วมกับมูลนิธิอุบลรัตน์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และกองกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งสมทบ ”กองทุนสวลี ผกาพันธุ์” ในกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรมเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมของชาติ และสมทบทุนมูลนิธิอุบลรัตน์ฯ ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการจัดการศึกษาในถิ่นทุรกันดารให้มีคุณภาพเท่าเทียม รวมถึงให้การศึกษาเด็กที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีจากครรภ์มารดา สำหรับคอนเสิร์ตในปีนี้จัดเป็นครั้งที่ ๖ โดยมี 4 ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ได้แก่ สวลี ผกาพันธุ์, สุเทพ วงศ์กำแหง, ชาลี อินทรวิจิตร และ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ร่วมขับขานเพลงไทยสากลยอดนิยมตลอดกาล





คุณสวลี ผกาพันธุ์ และ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง



นอกจากนี้ สวลียังได้เชิญศิลปินนักร้องชื่อดัง อาทิ ศรีไศล สุชาติวุฒิ, มณีนุช เสมรสุต, โฉมฉาย อรุณฉาน, พญ.พันทิวา สินรัชตานันท์, ปวันรัตน์ นาคสุริยะ, ธานินทร์ อินทรเทพ, อดิเรก จันทร์เรือง, อุเทน พรหมมินทร์ และสุรุจ ทิพากรเสนี บรรเลลงดนตรีให้ออกรสโดยวงดนตรีวงใหญ่ ”กาญจนะผะลิน” ควบคุมโดย จิรวุฒิ กาญจนะผะลิน ทั้งยังได้รับความร่วมมือจากสมาชิกสภาสตรีแห่งชาติฯ ทำการแสดงประกอบหลายชุด มีการแต่งกาย ๔ ภาค แสดงความหลากหลายทางวัฒนธรรมตั้งแต่เหนือจรดใต้ อีกทั้งยังมีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ สีลม โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ทิพวัล ร่วมขับร้องเพลงเพื่อช่วยสร้างสีสันให้คอนเสิร์ต


สวลี ผกาพันธุ์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้จัดการแสดง กล่าวว่า ทุกจังหวัดของเมืองไทยมีความงดงามแตกต่างกันไป คอนเสิร์ตครั้งนี้ต้องการพาทุกคนไปท่องเที่ยวผ่านเพลงที่มีเนื้อหาเล่าเรื่องราวทั้งธรรมชาติ วิถีวัฒนธรรม และชื่นชมความงามในแต่ละสถานที่ผ่านการขับร้องของนักร้องที่มั่นใจในน้ำเสียงและฝีมือ ฟังแล้วไม่มีผิดหวัง และทุกคนเต็มที่กับการแสดงในครั้งนี้ โดยทุกปีคอนเสิร์ตที่ตนจัดจะมีธีมที่เปลี่ยนไป ไม่ซ้ำกัน





พญ.พันทิวา สินรัชตานันท์



“ภาคใต้มีครูสุเทพที่มาร้องเพลง ”ล่องใต้” ชมความงามของภูเขาและทะเล แล้วยังมีเพลง “บุหลันลันตู” ภาคเหนือจะได้ฟัง พญ.พันทิวา ร้องเพลง ”เทพธิดาดอย” และเท่ห์-อุเทน กับเพลง ”พี่สาวครับ” ภาคอีสานพาสนุกสานกับเพลงอมตะ ”สาวอีสานรอรัก” โดยโฉมฉาย อรุณฉาน ส่วนภาคกลาง ครูชาลีจะทำให้ผู้ชมซาบซึ้งกับเพลง ”ท่าฉลอม” ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ซึ่งบทเพลงที่นำมาแสดงในคอนเสิร์ตรวม ๔๒ เพลง ก็ไม่อยากให้แฟนเพลงลูกกรุงพลาดกัน" ศิลปินแห่งชาติกล่าว พร้อมเชิญชวนชมการแสดง รายได้ทั้งหมดหนุนงานด้านวัฒนธรรมและงานสาธารณกุศล





คุณอุเทน พรหมมินทร์



ด้านสุเทพ วงศ์กำแหง ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งร่วมการแสดงคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติฯ ก็ยืนยันว่า คอนเสิร์ตนี้มีคุณภาพ นักร้องทั้ง ๑๒ คนจะมาขับขานเพลงอมตะสะท้อน ว่าเมืองไทยมีดีและเต็มไปด้วยสถานที่ดึงดูดน่าเที่ยวมากมายไม่แพ้กัน อย่างเพลง ”ล่องใต้” ที่ตนจะร้องนั้น ฟังสบาย ๆ ได้สัมผัสบรรยากาศผ่อนคลายและสัมผัสความสวยงามของท้องทะเลประจวบฯ เรื่อยไปถึงชุมพรได้ในเพลงเพลงนี้ นอกจากนี้ยังเป็นคอนเสิร์ตที่เกิดประโยชน์ เพราะหาทุนสนับสนุนด้านการศึกษาของเยาวชนไทยซึ่งเป็นอนาคตของชาติ





คุณปวันรัตน์ นาคสุริยะ และ คุณอุเทน พรหมมินทร์



“เพลงพาไป เมืองไทยยิ่งงาม” จัดแสดงในวันเสาร์ที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ รอบ ๑๔.oo น. ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บัตรมีจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ หรือ //www.thaiticketmajor.com และฝ่ายกิจกรรมสถานีวิทยุ FM 98.75 MH โทร. o-๒๖๓๖-๖๘oo-๑



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thaipost.net
manager.co.th













"หุ่นไทยในสยาม Museum Family”


สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) เปิดตัวโครงการ “Museum Family” จับมือเครือข่ายพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ ๒o แห่ง พร้อมยกขบวนความรู้และกิจกรรมหลากหลายมาจัดแสดงที่ “มิวเซียมสยาม” ตลอดทั้งปี !!






Museum Family : ศิลปะการเชิดหุ่น เพื่อสืบสานและสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทย โดย ศูนย์วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ


นิทรรศการ “หุ่นไทยในสยาม”
วันที่ ๑ – ๓o มิถุนายน ๒๕๕๖
เวลา ๑o.oo – ๑๘.oo น.
ณ มิวเซียมสยาม (ห้องตึกเก่าเล่าเรื่อง อาคารนิทรรศการ) เข้าชมฟรี !!


ร่วมเดินทางเรียนรู้ไปกับเรื่องราวศิลปะการแสดงหุ่น มหรสพของไทยที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งปรากฏหลักฐานในกลอนสวดเรื่อง “เนมิกราช” ซึ่งเขียนขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชว่า มีหุ่น มีโขน






การแสดง “ศิลปะการเชิดหุ่น”
ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตลอดเดือนมิถุนายน 2556
เวลา ๑๓.oo น. และ ๑๕ ooน. (การแสดงวันละ ๒ รอบ / รอบละไม่เกิน ๓o นาที)
ณ มิวเซียมสยาม (ห้องเบิกโรง อาคารนิทรรศการ) เข้าชมฟรี !!

พบกับการแสดงศิลปะการเชิดหุ่นประเภทต่าง ๆ อาทิ หุ่นกระบอก หุ่นละครเล็ก หุ่นคน ผ่านเรื่องราวในวรรณกรรมและวรรณคดี


ตารางการแสดง "ศิลปะการเชิดหุ่น"











การแสดงหนังใหญ่ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน “หนุมานถวายแหวน” และ “ศึกทศกัณฐ์ ครั้งที่ ๕ (ยกรบ)”
วันที่ ๒๙ – ๓o มิถุนายน ๒๕๕๖
เวลา ๑๔.oo น. และ ๑๖.oo น. (การแสดงวันละ ๒ รอบ / รอบละไม่เกิน ๔๕ นาที)
ณ มิวเซียมสยาม (ลานกิจกรรม ด้านหลังอาคารนิทรรศการ) เข้าชมฟรี !!


ตารางการแสดงหนังใหญ่ ชุด “ศึกมรรคา” และ “ยกรบ




เสวนา “เล่าเรื่องราวเส้นทางหนังใหญ่ที่หายไป”
วันที่ ๓o มิถุนายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๕.oo – ๑๖.oo น.
ณ มิวเซียมสยาม (ลานกิจกรรม ด้านหลังอาคารนิทรรศการ)
ฟรี !!


วิทยากร:
หลวงพ่อพระครูพิทักษ์ -- เจ้าอาวาสวัดขนอน จังหวัดราชบุรี
คุณจฬรรณ์ ถาวรนุกูลพงษ์ -- ผู้จัดการการแสดงหนังใหญ่วัดขนอน


ผู้ดำเนินรายการ:
คุณทวีศักดิ์ วรฤทธิ์เรืองอุไร -- นักจัดการความรู้อาวุโส สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ


ทำไมหนังใหญ่ของไทยจึงหายไป แล้วหนังใหญ่หายไปไหน ร่วมค้นหาเรื่องราวของหนังใหญ่ ศิลปะการแสดงมหรสพชั้นสูงของไทย แต่ทำไมถึงไปอยู่ที่วัดขนอน


กิจกรรมสาธิต “แกะสลักตัวหนัง” โดย กลุ่มอนุรักษ์หนังใหญ่วัดขนอน
วันที่ ๒๙ – ๓o มิถุนายน ๒๕๕๖
เวลา ๑o.oo – ๑๘.oo น.
ณ มิวเซียมสยาม (ลานกิจกรรม ด้านหลังอาคารนิทรรศการ)

ร่วมเรียนรู้และทดลองการแกะสลักลวดลายตัวหนัง ของดีเมืองราชบุรีที่คุณก็สามารถทำได้


ทุกรายการร่วมกิจกรรม ฟรี!! สอบถามโทร. o๒-๒๒๕-๒๗๗๗ ต่อ ๔oo หรือ facebook.com/MuseumSiamFan


ภาพและข้อมูลจากเวบ
amuseumsiam.org













"คอนเสิร์ตเปียโนคอนแชร์โตแห่งกรุงสยาม ”


มีเมล์มาถามผม จะไปหา DVD วรรณกรรมเปียโนแห่งกรุงสยาม เดี่ยวเปียโน โดย ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ ได้ที่ไหน เพราะไปมาแล้วหลายแห่ง รวมทั้งที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ แต่ไม่มี วานนี้ก็เมล์มาอีก บอกว่า "คุณแม่อยากฟังมาก" ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะมีผู้นำมาให้ เอางี้...เมล์ไปสอบถามที่ "สำนักเดี่ยวเปียโนเพลงไทย" pianosolothaimusic@gmail.com หรือที่ natcharpan@gmail.com ต้องได้เรื่องแน่


ผมเข้าใจว่าท่านจัดทำขึ้นเพื่อการศึกษา คงไม่มีจำหน่าย คือ ศ.ดร.ณัชชานั้น ท่านเป็นอาจารย์สอนหนังสือมากว่า ๓๐ ปีแล้ว เขียนตำรับตำราดนตรีไว้ไม่ต่ำกว่า ๒๐ เล่ม ยอมพิมพ์เป็นแสนๆ ใช้แพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน


งานเปียโนคลาสสิกด้วยเพลงไทยเดิมนี้ อาจารย์ท่านตั้งใจทำฝากไว้ในแผ่นดิน ก่อนที่จะหยุดพักผ่อนในวัยปลายสาว ๕๕ สู่รัตตัญญูชน และท่านจะแสดงคอนเสิร์ตเป็นนัดสั่งลา ที่หอประชุมจุฬาฯ ในวันเสาร์ที่ ๒๗ ก.ค.๕๖ ตั้งแต่เวลา ๑๔.๐๐ น. รายการนี้ สภาวิจัยแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้จัดในชื่อว่า


คอนเสิร์ต "เปียโนคอนแชร์โตแห่งกรุงสยาม" ผลงานสร้างสรรค์ด้านดุริยางคศิลป์ของ ศ.ดร.ณรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร (ศิลปินศิลปาธร) ประดิษฐ์แนวเดี่ยวเปียโนโดย พันเอกสุชาติ พิทักษากร (ศิลปินแห่งชาติ) บรรเลงโดยวงซิมโฟนีออร์เคสตราแห่งจุฬาฯ และที่สำคัญ เดี่ยวเปียโนโดย ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ และผศ.นรอรรถ จันทร์กล่ำ เป็นผู้อำนวยเพลง


นักดนตรีรับเชิญ ก็เช่น อาจารย์ดำริห์ บรรณวิทยกิจ ท่านจะเดี่ยวโอโบเพลงพญาโศก คู่กับเปียโน ประชันวงออร์เคสตรา อาจารย์อภิชัย เลี่ยมทอง จะเดี่ยวเซลโลเพลงลาวแพน คู่กับเปียโน ประชันวงออร์เคสตรา เช่นกัน


ครับ...ก็ถือโอกาสบอกกับแฟน ๆ ให้ทราบไว้เลย วงปฏิทินไว้แต่เดี๋ยวนี้ เสาร์ ๒๗ กรกฎา เวลาบ่าย ๒ หอประชุมจุฬาฯ ฟรี!



ภาพและข้อมูลจากคอลัมน์ "เปลว สีเงิน คนปลายซอย"
thaipost.net
youtube.com













กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เชิญชวนผู้รักการถ่ายภาพ ส่งภาพถ่ายเข้าประกวด ในหัวข้อ “ภาพแห่งความประทับใจ ในมาตรฐานโฮมสเตย์” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดความประทับใจของการท่องเที่ยวสไตล์ โฮมสเตย์ ที่ได้รับเครื่องหมายโฮมสเตย์ไทย และได้รับการรับรองจากกรมการท่องเที่ยว ทั้ง ๑๓๘ แห่งทั่วประเทศ ชิงรางวัล มูลค่ากว่า ๑๕o,ooo บาท ระยะเวลาส่งผลงานเข้าประกวด ระหว่างวันที่ ๑ มิถุนายน – ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ในวันเวลาราชการ


ประกาศผลการประกวด ในวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖
ดูรายละเอียดการประกวดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ ที่นี่






ภาพและข้อมูลจากเวบ
กระทู้พันพิป
กรมท่องเที่ยว













"นานมีประกวด "นานมีทักษะภาษาจีน ครั้งที่ ๓”



โครงการประกวดทักษะภาษาจีนนานมี 赛大能言言语语汉美南 NAN MEE CHINESE LANGUAGE SKILL CONTEST ครั้งที่ ๓ ประจาปี ๒๕๕๖
ระยะเวลาการเปิดรับสมัคร วันศุกร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ – วันอาทิตย์ที่ ๓o มิถุนายน ๒๕๕๖
(กรณีส่งใบสมัครทางไปรษณีย์ใช้วันประทับตราไปรษณีย์เป็นส่าคัญ)
ประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบคัดเลือก วันอังคารที่ ๑o กรกฎาคม ๒๕๕๖
ประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบคัดเลือก ๑o ทีม ของแต่ละช่วงชั้น ทางเว็บไซท์
//www.nanmee.com หรือ //www.โรงเรียนสอนภาษานานมี.com
วันแข่งขันรอบตัดสิน ประกาศให้ทราบผ่านทาง //www.nanmee.com ( ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน
กรกฎาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป )
ผู้เข้ารอบคัดเลือก ๑o ทีม ของแต่ละช่วงชั้น แสดงสดบนเวที
ประกาศผลการตัดสิน
สถานที่จัดการแข่งขัน อาคารบริษัท นานมี จ่ากัด (ชั้น ๓)
เลขที่ ๑๔๖ ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ ๑o๕oo
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. o๒-๖๔๘-๘ooo (โรงเรียนสอนภาษาจีนนานมี)
อีเมล์ nmla@nanmee.com



ภาพและข้อมูลจากเวบ
obec.go.th
nanmee.com













"เทพนิยาย”


ไม่เคยมีใครถ่ายภาพวัยเด็กได้แบบนี้เลย ไม่มีคิกขุเป็นสิ่งขวางกั้น จึงมีเพียงแรงสัมผัสแห่งประสบการณ์ตรงในเลนส์ของเขา, เขาเหล่านี้ไม่ใช่คนตัวเล็กแต่เป็นสิ่งที่เขาเป็น


จิตสำนึกวิญญาณเวียนว่ายตายเกิด ที่กลับมาสัมผัสชีวิตอันเข้มข้นอีกครั้งหนึ่ง: ต้นไม้ใหญ่น่าเกรงขามดึงดูดเด็กกลุ่มหนึ่งเขาล้อมวงรอบตัวมัน จอมชีวิตแหล่งเดียวที่เหลืออยู่ท่ามกลางตึกการเคหะ; เด็กผู้หญิงสองคนยืนคุยกับสัตว์เลี้ยงตัวเล็กมากๆของเธอ คือกระรอกตัวหนึ่งที่จับมาผูกคอล่ามเชือก; ขณะที่พ่อรอยสักช่วยลุ้นเด็กทารกเพ่งทุกพลัง เพื่อยกตนเองขึ้นจากสัตว์เลื้อยคลาน. เราจำได้ – เรารู้จัก – สิ่งเหล่านี้; เทพนิยายเหล่านี้ที่สุกสว่างในความเข้มข้นและความมืดมิด






“เทพนิยาย” นิทรรศการภาพถ่ายเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตของ นิพนธ์ อินทฤทธิ์ (เกิด ๒๕๒๑) ช่างภาพและกวี ผู้ดำรงชีพด้วยการเป็นช่างแอร์อยู่อำเภอเมืองตาก ซึ่งคัดมันดู โฟโต้ แกลเลอรี่ ภูมิใจที่ได้ค้นพบ

นิทรรศการ : เทพนิยาย
ศิลปิน : นิพนธ์ อินทฤทธิ์
วันที่ : ๖ กรกฎาคม – ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๖
สถานที่ : คัดมันดู โฟโต้ แกลเลอรี่ (Kathmandu Photo Gallery)
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๒๓๔ท-๖๗oo
อีเมล์ : kathmandu.bkk@gmail.com
เว็บไซต์ : //www.kathmandu-bkk.com



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com













"BAAF”


งานแถลงข่าวและปาฐกถาพิเศษ เทศกาลศิลปวัฒนธรรมอาเซียน กรุงเทพฯ : BANGKOK ASEAN ART & CULTURE FESTIVAL (BAAF) ต้อนรับการเข้าสู่สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ด้วยการเปิดภาพอาเซียนในมิติชุมชนสังคมศิลปะและวัฒนธรรม


“เปิดรับ-แบ่งปัน” ด้วย เทศกาลศิลปวัฒนธรรมอาเซียน กรุงเทพฯ : BANGKOK ASEAN ART & CULTURE FESTIVAL (BAAF) โดยความร่วมมือจาก กรุงเทพมหานคร หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พบกิจกรรมต่างๆมากมายตลอดปี พ.ศ. ๒๕๕๖ และ ๒๕๕๗ อาทิ กิจกรรมการเพิ่มพูนองค์ความรู้ , กิจกรรมเชิงปฏิบัติการด้านศิลปวัฒนธรรมอาเซียน , นิทรรศการศิลปะ เป็นต้น โดยภายในงานแถลงข่าวฯ มีการแสดงดนตรีโดย วงเครื่องสายอาเซียน การแสดงละครเวทีร่วมสมัย มายายักษ์ โดย คณะละครอนตตา และ คณะละคร ๘ × ๘ พร้อมปาฐกถาพิเศษโดย ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียนและประธานสถาบันนวัตกรรมเพื่ออนาคตประเทศไทย ในหัวข้อ “มิติภูมิภาคอาเซียน เลิกแข่งขัน เริ่มแบ่งปัน เราจะเริ่มกันได้อย่างไร ? “


งานจัดในวันพุธที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น ๕ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ปทุมวัน ตั้งแต่เวลา 12.30 น. เป็นต้นไป.


ข้อมูลเพิ่มเติม Facebook : Bangkok ASEAN Art Culture Festival และ Email: baaf2013@gmail.com



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 23 มิถุนายน 2556
Last Update : 23 มิถุนายน 2556 11:34:49 น. 0 comments
Counter : 4303 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.