30 NOVEMBRE 09 - ชีวิตก่อนหน้า และทริปตกปลาที่แม่น้ำโคธาวารี

ชีวิตก่อนหน้า และทริปตกปลาที่แม่น้ำโคธาวารี

     วันนี้ดีใจ กลับเข้าสถานีทำงานที่คุ้นเคย เริ่มต้นสัปดาห์ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีวาระเดินทางกึ่งทำงานกึ่งหยุดพัก ไม่ต้องครึ่งๆ กลางๆ อีกแล้ว ส่วนที่ดีที่สุดคือชีวิตฉันจะ “นิ่ง” อยู่อย่างนี้ไปถึง 3 สัปดาห์ ก่อนเข้าเทศกาลคริสต์มาส ที่งานการจะต้องหยุดชะงักกันอีกรอบ เลยยาวจนถึงปีใหม่

     พูดเหมือนงานเยอะเลย ทั้งที่จริงๆ แล้ว พอเปิดอีเมลส่งไฟล์หน้าปกและหน้าเครดิตให้เจ้าของลิขสิทธิ์แล้ว รายการงานทั้งของกำมะหยี่ งานส่วนตัวและงานดูแลบ้าน ก็ไม่มีอะไรด่วนนัก ถึงแม้จะยาวเหยียดก็ตาม งั้นหันมาอัพบล็อกดีกว่า

     เมื่อวันพฤหัสที่แล้ว ก่อนจะกลับมาที่อินเดีย ฉันได้มีโอกาสเจอหน้าค่าตาตัวจริงเสียงจริงของคุณหริ่น เนตรนภา มาดาม ณ เชค ที่ติดต่อพูดคุยทำความรู้จักผ่านโลกเสมือน ทั้งทางบล็อกและทางอีเมลกันมาหลายปี ฉันกลับเมืองไทยไปคราวนี้ จังหวะเหมาะคุณหริ่นอยู่เมืองไทยพอดี เลยได้นัดเจอกันที่ร้าน Coffee&more หน้าบ้านพระอาทิตย์ ซึ่งคุณหริ่นคุ้นเคยเพราะเคยทำงานที่ผู้จัดการ ส่วนฉันก็ไม่ได้แปลกที่แปลกถิ่นเท่าใดนัก เคยแวะเวียนไปตอนที่ทำงานให้วรรณกรรมดอทคอมอยู่เกือบปี

     สองสาว หนึ่งจากอุบล หนึ่งจากระยอง มีชะตากรรมคล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ (มีสำนักพิมพ์เหมือนกัน มีสามีฝรั่งเหมือนกัน มีชีวิตอยู่นอกบ้านเกิดเมืองนอนเหมือนกัน มี “โจทย์” คนเดียวกัน) นั่งคุยกันไปกินขนมปังป้ายตับไก่กับยำวุ้นเส้น คุยกันในเรื่องที่เราไม่สามารถพูดได้เต็มที่บนหน้าสาธารณะ

     ระหว่างที่คุย มีบางอย่างที่ฉันพอจะจับได้นิดๆ ว่าเราสามารถเป็นเพื่อนกันได้ แม้่ว่าในความเหมือนจะมีความต่าง คิดต่างกันในบางเรื่อง มีระดับความเข้มข้นของอารมณ์ในบางเรื่องที่ไม่เท่ากัน

     ฉันอาจจะคิดไปเอง แต่คิดว่าคุณหริ่นน่าจะรู้สึกคล้ายๆ กัน เพราะไม่อย่างนั้น เธอพูดคุยกันเสร็จแล้วเธอคงจะขอตัวไปให้ไกลๆ แต่เธอกลับแสดงท่าทีโอภาปราศรัย เต็มใจจะยืดเวลาอยู่ด้วยกันต่ออีกนิด ชวนไปวัด ตอนแรกว่าจะไปวัดจีน แต่เธอจำที่ตั้งผิด เลยไปวัดแขกที่ถนนสีลมด้วยกันแทนเพราะหลังจากนั้น ฉันตั้งใจจะแวะไปเยี่ยมพี่ๆ ที่สนพ.วงกลมซึ่งตั้งอยู่สาทร ซ.10 อยู่พอดี

     หลังจากทำบูชา และถ่ายรูปกันพอเป็นพิธีแล้ว ซื้อขนมปังจากร้านทางซ้ายมือเมื่อกันเข้าวัดตามออร์เดอร์ผ่านคลื่นโทรศีพท์ของพี่นวล ณ วงกลม แล้วลากกันไปนั่งเมาธ์ตามประสาคนทำสำนักพิมพ์ที่มีหัวอกเดียวกัน ลาพี่ๆ กลับเมื่อถึงเวลาต้องกลับมาที่ห้องพักเพิื่อเก็บกระเป๋าเดินทาง ระหว่างทาง มี sms มาจากปราก จากคุณสามีของคุณหริ่นมาเป็นระยะๆ พอถึงสามเสน 5 ฉันชวนเข้าไปดูห้องพัก เธอร้องออกมาขำๆ “ตายแล้วๆ จะมีฆ่าหมกห้อง เพราะมาเจอคนแปลกหน้าที่เจอกันทางอินเตอร์เน็ตหรือเปล่านี่”

     กินข้าวราดกระเพราไก่ไข่ดาวรองท้องกันหนึ่งมื้อที่ร้านข้างๆ แล้วเธอก็ช่วยถือกระเป๋าไปรอเรียกแท็กซี่ไปสนามบิน



     ข้ามช็อตจากแท็กซี่ เช็คกระเป๋าขึ้นเครื่อง ผ่านด่านศุลกากร ซื้อของดิวตี้ฟรี รอขึ้นเครื่องบิน นั่งเครื่องบิน จนถึงอ้อมกอดของสามีที่มารอทางซ้ายมือของทางออกที่สนามบินบังกาลอร์เลยนะคะ

     แล้วก็ข้ามคืนที่นั่งอ่าน “ช้ำจนชิน” ผลงานแปลของฉันที่พี่นวลให้มา จนถึงเข้านอน ตื่นเช้ามาวันศุกร์ นั่งอัพเว็บกำมะหยี่ ขึ้นหน้า “ปารีส/พำนัก/คน/รัก/หนังสือ” พร้อมไฟล์อ่านบทแรกฟรีเป็นการเรียกน้ำย่อย ข้ามการเดินทางจากบ้านเป็นเวลา 3 ชั่วโมงเต็ม ผ่านป่าเขาไปถึงฟิชแคมป์ที่กาลิบอร์กับหวานใจและเอ็มมานูแอล สาวหล่อชาวฝรั่งเศส ที่ทำงานแผนกบุคคลที่สำนักงานใหญ่ของหวานใจ ซึ่งเดินทางมาดูลาดเลาเพื่อเปิดการขยายกิจการจ้างคนเพิ่มให้แผนกหนึ่งของบริษัทหวานใจ เธอมีกำหนดเดินทางกลับคืนวันอาทิตย์ หวานใจเลยชวนไปตกปลาด้วยกันที่ฟิชแคมป์

     ข้ามมาหยุดที่วันเสาร์ เราตื่นกันตั้งแต่เช้า นั่งเรือกลมไปตกปลาด้วยกัน เอ็มมาฯ กับหวานใจตกปลามาร์เชียร์กันได้หลายตัว ถึงจะไม่ได้ปลาตัวใหญ่เบิ้มเหมือนคราวก่อน แต่ความตื่นเต้นของเอ็มมาฯ ที่เพิ่งได้ตกปลาจริงจังครั้งแรกก็ไม่ได้ลดน้อยเลย แถมช่วงค่ำๆ เธอยังตกปลาแคทฟิช (ตระกูลเดียวกับปลาดุกมั๊ง แต่เนื้อแน่นกว่า) ได้ เราจึงได้กินอาหารค่ำเป็นปลาทอดเพิ่มจากไก่ย่าง แกงอินเดียและอื่นๆ ที่ฉันกับหวานใจไม่ได้เลิฟนัก



     ส่วนฉัน ในระหว่างที่สองคนเขารอปลามาติดกับ ก็ลงเรือไปตกสปินนิ่ง สบัดเบ็ด หมุนรอก เป็นระยะๆ กับเบ็ดคันใหม่ที่หวานใจเพิ่งซื้อให้จากฝรั่งเศส ทำให้ตอนนี้ที่บ้านมีคันเบ็ดสำหรับสปินนิ่งสามคัน คือ คันเล็กบอบบางและเบาอ่อนไหวมาก กับคันใหญ่สบัดสะใจแต่ไม่ค่อยรู้สึก กับคันกลางคันล่าสุด ที่หวานใจว่าฉันจะได้รับความรู้สึกของเหยื่อปลาปลอมที่ปลายสายได้กำลังพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป

     แต่จะให้ถามฉันว่าจริงหรือเปล่า ฉันก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงให้ตรงใจตัวเองที่สุด เพราะใจฉันมันไม่รู้สึกอะไรสักเท่าไหร่ ที่หัดตกปลาก็เพื่อจะได้ไปตกปลากับสามีแล้วมีอะไรทำด้วยกัน พอมีเรื่องคุยกันได้งูๆ ปลาๆ ไม่ต้องนั่งแกร่ว ฉันยังไม่ถึงขั้นตกหลุมรัก จนสามารถคุยอะไรเป็นคุ้งเป็นแควได้ในเรื่องนี้นัก และหวานใจก็รู้ดี เขาบอกว่าเป็นเพราะฉันยังไม่รู้สึกถึงตอนที่จับปลาได้ รอให้จับปลาได้แล้วจะติดใจ มีใจให้มากกว่านี้

     ก็ต้องดูกันไป แต่ไม่เป็นไรหรอก ฉันว่า ตอนนี้ฉันก็ฝึกท่าตกปลาให้มีสง่าสวยงาม เล็งปลายตรงไหนไปตกตรงนั้นก่อน อีกอย่าง การตกปลานอกจากมีมุมตื่นเต้นแล้ว ยังมีมุมสงบด้วย ถือเป็นการหยุดพักผ่อน ฝึกทำปรานายมะสดับลมหายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ ก็ถือเป็นช่วงพักผ่อนที่ไม่เลวนัก

     สำหรับการตกปลาในเช้าวันอาทิตย์ วันนี้เป็นวันที่ปลานอนหลับพักหรืออย่างไรก็ไม่รู้ นักตกปลาที่มือขึ้นเมื่อวานมือตกกันหมด ไม่มีใครตกปลาได้เลย



>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






Create Date : 30 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2552 19:18:24 น. 0 comments
Counter : 1018 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.