- 25 Juillet 07

ถึงอ้อมอกหวานใจ ... โดยสวัสดิภาพ


--- Je viens d'arriver en France. Tout va bien.. ---



     เพิ่งมาถึงฝรั่งเศสเมื่อเช้าตรู่วันนี้เองค่ะ ... ตอนนี้อยู่ที่อพาร์ทเมนต์ที่เนยยี่ คั่นจังหวะการจัดเก็บบ้านที่รกมากๆๆๆ มาอัพบล้อก

     นอกจากข้าวของ กระดาษอะไรนักก็ไม่รู้ เหรียญเล็กเหรียญน้อย และหนังสือสารพันที่เกลื่อนกลาดโต๊ะและตู้ห้องกลางแล้ว ตู้ในห้องเก็บเสื้อผ้าและห้องนอนยังมีเสื้อผ้าที่ยัดๆ อยู่ในถุงในกล่องตอนขนย้าย ทั้งจากฮ่องกงและจากห้องพักชั่วคราวตอนที่มาพักรอย้ายเข้าห้องนี้ตอนเดือนกุมภาด้วย นี่ยังไม่ได้บ่นเรื่องห้องครัวที่ตู้เต็มทุกตู้ อัดแน่นด้วยเครื่องครัวต่างๆ ที่ทยอยซื้อกันมาตลอดเวลานะ

     เอาเถอะ ค่อยๆ เก็บค่อยๆ ทำไปก็ได้ เล่าเรื่องการเดินทางเมื่อวานนี้ดีกว่าเนอะ

     เมื่อวานตื่นสิบโมง นัดพี่เปี๊ยก คนขับรถที่จ้างไปส่งที่สนามบินตอนเที่ยง คนขับรถคนนี้เคยเป็นลูกศิษย์ตอนที่แม่สอนโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่สมัยที่ก่อนโน้น ปกติเขาทำงานเป็นคนขับรถรับจ้าง รับส่งคนตามสถานีรถทัวร์ และรับขับรถไปไหนมาไหน พ่อกับแม่ฉันเป็นลูกค้าค่อนข้างประจำ จ้างให้ไปส่งพ่อไปหาหมอที่กรุงเทพทุกเดือน และถ้าฉันนั่งรถทัวร์กลับบ้านค่อนข้างดึก ฉันก็จะโทรเรียกให้เขามารับไปส่งบ้าน

     โชเฟอร์คนนี้เป็นคนคุยเก่ง แต่มีเรื่องเล่าวนๆ อยู่แค่ม้วนเดียว ถ้านั่งไปกับแม่เขาจะพูดคุยกันตลอดทาง กับฉันไม่ค่อยพูดเสียเท่าไหร่ เพราะฉันไม่ค่อยเออออห่อหมก และวางตัวเงียบๆ เข้าไว้ แต่ที่เจอพ่อคุณพูดให้ฟังอยู่บ่อยๆ คือ ผมเป็นคนนัดเวลาแบบฝรั่ง คงจะหมายความว่ามาตรงเวลามั้ง เอ...ฝรั่งที่ฉันรู้จักก็ไม่เห็นจะตรงเวลาตรงไหนนะ


     วันนี้คนขับรถคนขยันมาก่อนเวลาเกือบยี่สิบนาที ฉันเพื่ออาบน้ำเสร็จ แต่งตัวยังไม่เสร็จ ผมยังไม่ได้สาง หน้ายังไม่ได้ทาครีม น้ำหอมยังไม่ได้ใส่ ฉันหันไปบอกแม่ว่า มิวไม่สนหรอกนะคะว่าจะทำงานเวลาไทยหรือฝรั่ง เวลาที่ต้องการให้มาคือเวลาที่นัดกันไว้


     แม่นั่งรถไปด้วย หลักๆ คือไปเป็นเพื่อนคุยพี่เปี๊ยก ออกจากบ้านเที่ยงตรง แวะกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดระหว่างทาง ประมาณสามโมงถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ไม่รู้ว่ายังคงเป็นความภูมิใจของคนไทยอยู่หรือเปล่า พอขนของลงเสร็จ สองคนนั้นนั่งรถกลับบ้านเลย ฉันเข้าไปสนามบินที่คานยาวที่สุดในโลก เช็คช่องเช็คอิน เข้าไปต่อแถวเช็คอิน โหลดกระเป๋าหนัก 20 กิโลกรัม ตามที่เขากำหนดพอดีลงเครื่อง แล้วเดินตัวปลิวไปกดตังส์ ไม่ได้กะว่าจะแลกเงินไปใช้ที่ฝรั่งเศสหรอก กะว่าจะเอาไว้ซื้อของดิวตี้ฟรีก่อนขึ้นเครื่องเป็นหลัก

     ที่หน้าเคาน์เตอร์ เจ้าหน้าที่ศุลกากรมองรูปในพาสปอร์ตสลับกับหน้าฉันอยู่หลายรอบ ฉันหัวเราะแล้วบอกว่า อ้วนขึ้น ผมยาวขึ้นน่ะค่ะ หน้าก็เลยเปลี่ยน สุดท้ายไม่มีอะไร เขาก็หัวเราะบ้าง บอกว่า ไม่ค่อยเหมือน ต้องหรี่ตามองดีๆ สุดท้ายก็ปล่อยให้ฉันผ่านออกนอกประเทศจนได้

     อุตส่าห์ตั้งใจจะช้อปปิ้งเสียดิบดี ปรากฎว่าถ้าไม่ได้เป็นเที่ยวบินตรงไปจุดหมายเลย ไม่มีสิทธิ์ซื้อของเหลว ไม่ว่าจะเป็นเหล้าหรือน้ำหอม ซื้อได้แต่บุหรี่และอื่นๆ ...เฮ้อ...

     เดินผ่านร้านแม้ฟ้าหลวง เพิ่งนึกออกว่าควรจะซื้อของไปฝากคุณแม่ว่าที่สามีเสียหน่อย ได้ผ้าคลุมไหล่ดีไซน์ลายผ้าสวยหนึ่งผืน ส่วนคุณพ่อว่าที่สามี ไม่รู้จะหาซื้ออะไรให้ดี ว่าจะซื้อเสื้อเหลืองให้แล้ว แต่เปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย




     เครื่องออกห้าโมงสิบ ถึงกัวลาลัมเปอร์สองทุ่มสิบเวลาเขา ซึ่งเร็วกว่าเวลาเราหนึ่งชั่วโมง เครื่องที่จะต่อไปปารีสออกตอนห้าทุ่มกว่าๆ ... ฉันไม่มีอะไรจะทำเดินเล่นดูข้าวของตามร้านค้าไปเรื่อยๆ ตอนแรกเข้าร้านเหล้าแล้วเปลี่ยนไป ขึ้เกียจซื้อ เข้าร้านน้ำหอม ก็ดันเกิดสะกิดใจขึ้นาได้ว่า ราคาน้ำหอมที่ปารีสอาจจะถูกหรือมีสินค้าให้เลือกมากกว่าในร้านปลอดภาษี เข้าร้านสินค้าพื้นเมืองมาเลเซีย ไม่เห็นอะไรเตะตาน่าซื้อ สรุปว่า ไม่ได้ซื้ออะไรเลย


     สนามบินมาเลเซีย ตอนนี้กำลังโปรโมทเต็มที่ว่าเป็นสนามบินที่ได้รับเลือกว่าดีที่สุดในโลก (ในประเภทสนามบินสำหรับจำนวนผู้ใช้งานล้านกว่าๆ --- จำไม่ได้แล้ว รายละเอียดน่ะ ไม่ต้องรู้ก็ได้นะ) ออกแบบไม่หลุดจากสนามบินรุ่นใหม่ต่างๆ รวมทั้งสนามบินสุวรรณฯ เท่าไหร่

     อาคารสนามบินห่างกันสองอาคาร มีรถไฟรับส่งตลอดเหมือนที่สนามบินฮ่องกง หน้าตาผู้คนที่ท้องถิ่นก็ไม่ได้ต่างจากบ้านเรามากนัก แต่ที่เห็นหนาตากว่า คือผู้หญิงมุสลิมโพกหัว มีทั้งผู้โดยสาร แม่ค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจศุลกากร ... ก็แปลกตาไปดี

     เครื่องออกตอนห้าทุ่มกว่าๆ ได้ที่นั่งที่หลังสุดเลย เที่ยวบินนี้คนบางตา ที่นั่งว่างเต็มไปหมด ข้างๆ ฉันก็ไม่มีคนนั่ง ก็ดีเหมือนกัน ขยับเนื้อขยับตัวทำอะไรไม่ต้องเกรงใจใคร



     กิจกรรมบนเครื่องสิบสามชั่วโมงไม่มีอะไรมาก นั่งดูหนัง กินอาหารมื้อดึก นอน นอน นอน เปลี่ยนท่านอน นอน นอน เข้าห้องน้ำ นอน กินอาหารเช้า ดูหนัง ... หันไปอีกที ฟ้าสาง เข้าสู่พื้นที่ประเทศฝรั่งเศสแล้วจ้า


     ความเห็นส่วนตัว -- สายการบินมาเลเซีย เป็นสายการบินราคาไม่แพง ที่ไม่เลวเลยสำหรับการนั่งระยะสั้น แอร์โฮสเตสและสจ๊วตอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส อาหารก็ไม่เลว ไวน์ก็ไม่ชั่ว ถ้าจะประหยัดเงินและสุขภาพโอเคทนทานเลือกไปได้ ไม่น่าจะผิดหวัง (แต่ก็อย่าหวังอะไรมากละกัน)

     ส่วนการเดินทางยาวๆ ฉันว่าสายการบินสิงค์โปร์กินขาดถ้ายอมจ่ายเงินซื้อความสบายนิดนึง สำหรับสายการบินไทย ฉันว่าราคาแพงไปหน่อย สำหรับบริการและอะไรต่ออะไรที่ให้








     ถึงสนามบินชาร์ล เดอ โกล ตอนหกโมงกว่าๆ ผ่านด่านศุลกากร รับกระเป๋า ออกไปเจอหวานใจที่รอท่ายิ้มร่าเข้ามาต้อนรับ

     พ่อคุณออดอ้อนบอกว่า เมื่อคืนนั่งลงน้ำยาเคลือบพื้นถึงเที่ยงคืน เช้านี้กะว่าจะตื่นมาตอนตีห้าเพื่อจัดอพาร์ทเมนต์เสียหน่อย แต่ตื่นไม่ทัน ตื่นมาตอนหกโมงพอดี เลยต้องออกมารับทันที

     ฉัน -- สาวคนรักผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ รู้สึกเอ็นดูคู่หมั้นคนขยันอยู่ในใจ ปากหวานบอกไปว่า ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันช่วยจัดเอง


     แล้วไงล่ะ นี่จัดมาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าอะไรๆ มันจะเข้าที่เสียที ... เฮ้อ



ป.ล. รูปประกอบ : ภาพตามรายทาง ภาพสุดท้ายเป็นโทรศัพท์โมเดลย้อนยุคที่หวานใจภูมิใจนักหนา ด้านหลังเป็นน้องป้อม คอมฯที่ฉันใช้ที่นี่ค่ะ ไฮโซ เปลี่ยนมาใช้เครื่องแมค แต่หันใช้แต่ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ แหะๆ มีเครื่องเอาไว้สวยๆ ไปงั้นเอง



>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 31 กรกฎาคม 2550 20:06:37 น. 3 comments
Counter : 918 Pageviews.

 
la vie en rose

ตอนนี้ก็มีคนนอนข้างๆให้กายและใจอุ่นแล้วเนอะ อิจฉาจัง อิอิ

มีความสุขมากๆนะคะ พี่มิว


โดย: Sirinut วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:09:12 น.  

 
บินยาวเลยเน้อ อ่านแล้วตื่นเต้นแทนคนเดินทางจังพี่ 55
ว่าแล้วก็นึกถึงเจ๊ติ๊ก ป่านนี้ไม่รู้เจ๊เที่ยวไปถึงมุมไหนของประเทศอิหร่านแล้ว คิดถึงจัง...


รักษาสุขภาพด้วยจ้า




โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:33:50 น.  

 
ชอบสนามบินมาเลเซียล่ะค่ะ สวยงามอลังการดี ^^

เดินทางยาวจริงๆ

ปล. บล็อกเท่มากค่ะ เข้ามาหลายครั้งแล้ว แต่เพิ่งจะหาที่แอ๊ดเจอ ((ตาไม่ดีของแท้ แหะๆๆๆ))


โดย: Clear Ice วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:42:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.