- 20 MARS 08

หมองศรี


-- C'etait une erreur!...---


     เพิ่งทำงานแปลข่าวเสร็จ วันนี้เสร็จเร็วกว่าปกติ สามีไปทำงานแล้ว ภาวะลังเลประจำเช้าวันพุธและพฤหัสย้อนกลับมารังควานอีกรอบ "จะกลับไปนอนต่อดี หรือไม่ต่อดี"


     เมื่อไหร่ฉันจะตัดสินใจได้เด็ดขาดนะว่าหลังแปลข่าวเช้าตรู่แบบนี้จะทำอะไรต่อ ถ้ากลับไปนอน ฉันรู้ตัวว่าจะนอนยาวเหยียด ตื่นมาก็เสียอารมณ์อยู่ดี ในวันที่มีงานคั่งค้างอยู่ การตัดสินใจคงจะไม่ยากเย็นนัก ทำงานก่อน นอนไม่ต้อง แต่วันที่งานค่อนข้างโล่งแบบวันนี้ การต่อสู้ทางจิตใจค่อนข้างรุนแรงเดือดพล่าน

     เมื่อวานฉันตรวจแก้ต้นฉบับที่เหลืออยู่เสร็จหมดแล้ว แต่ยังเหลือที่นักแปลอีกสองเรื่อง ภายในวันสองวันนี้น่าจะปิดจ๊อบเล่มนี้ได้ หวังว่าอาทิตย์หน้าจะได้เริ่มต้นเล่มใหม่ ทำให้เสร็จ ทำให้สิ้น แล้วเปิดหน้าชีวิตหน้าต่อไป เปิดโปรเจคใหม่ๆในชีวิต


     เมื่อคืน นั่งดูหนังการ์ตูนเรื่อง Persepolis กับหวานใจที่บ้าน มีข้อความหนึ่งที่ประทับใจ ตอนที่ตัวเอกของเรื่องร้องห่มร้องไห้ไปหาคุณยายเพราะอยากเลิกกับสามี คุณยายจอมซ่าได้ใจมากๆ สรุปถามหลานสาวแบบหยอกๆ ว่า "การยอมรับความผิดพลาดของตัวเองมันยากใช่มั้ยล่ะ"

     "ถูกต้องแล้วค่า" ฉันตะโกนในใจ การยอมรับว่าเป็นความผิดของตัวเองเป็นเรื่องยากที่สุด ยากกว่าการโบ้ยความผิดให้คนอื่น และไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นเขาถึงไม่ยอมรับความผิดเยอะเลย

     ในชีวิตนี้ฉันทำผิดทำพลาดมาไม่ใช่น้อย บางเรื่องเป็นแค่แผลถลอกเฉี่ยวๆ ชิวชิว บางเรื่องกรีดจนเลือดซิบ บางเรื่องแทงทะลุเป็นแผลเหวอะหวะ ฉันคิดว่ายาสมานบาดแผลจากความผิดพลาดคือการยอมรับความผิดในส่วนของตัวเอง ละทิ้ง "ตัวกู" ทำความเข้าใจกับ "ตัวมึง" และพยายามไม่ตกหลุมทำซ้ำซากให้เสียเวลาอีก ซึ่งก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ... ฉันก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง อย่าลืมสิ

     อย่างแย่ที่สุด ฉันก็ปลอบตัวเองด้วยบทเพลงคาราบาว ... "ไม่มีผลงาน ไม่มีความผิด และไม่ต้องรับผิดชอบ"


     จะว่าไปแล้ว ชีวิตคนเราเอาเข้าจริงๆแล้วเนี่ย เรื่องทุกเรื่องเป็นเรื่องของทัศนคติ ขึ้นอยู่กับมุมมองที่เรามองสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วแต่ว่าเราจะเลือกรับด้านไหนเข้ามาใส่ตัวเอง ถ้ามองว่าร้าย มันก็ร้าย ถ้ามองว่าดี มันก็ดี เรื่องทุกเรื่อง คนทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีจุดด้อยจุดแข็งแตกต่างกัน ไม่มีอะไรที่บวก ลบ ดำ ขาว ไปเสียหมดหรอก


     เวลามีเรื่องแผ้วผ่านมารบกวนจิตใจ ส่อวี่แววว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น (บางครั้งคิดบ้าไปเอง บางครั้งมันเกิดขึ้นจริงๆ)หรือเจอปัญหาเดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ช่วงหลังนี้ พออายุมากเข้า มีบาดแผลมากเข้า ฉันพยายามตั้งสติดึงตัวออกมา แล้วบอกตัวเองว่า อย่าปล่อยให้ตัวเองหมองศรีกับความคิดหรือการกระทำด้านลบเลย โดยเฉพาะการกระทำหรือไม่กระทำของคนอื่น เราควบคุมบังคับคนอื่นไม่ได้หรอก มีแต่ตัวเราเท่านั้นที่เราควบคุมได้ เรื่องบางเรื่องไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร คนที่เดือดร้อนที่สุดอาจจะไม่ใช่เราก็ได้ ตั้งหลักให้มั่นเข้าไว้ ดูว่าอะไรสำคัญ อะไรไม่สำคัญ รับสถานการณ์อย่างสงบนิ่ง

     และถ้าต้องตัดสินใจอะไร ก็ตัดสินใจให้เด็ดขาด ตัดสินใจแล้วต้องรับผิดชอบในส่วนของตนให้ดีที่สุด อย่าให้ใครเขาว่าได้ ... คนเราต้องมีหลักการในชีวิตให้ยึดถือ


     อย่าไปสำมะหาอะไรกับชีวิตนัก เจอหลุมเจอพรางเสียบ้างก็ไม่เลวหรอก เกิดหนเดียวตายหนเดียว ชีวิตจะได้มีรสชาติ มีเรื่องให้เล่า (แต่ก็คงได้แต่เล่าอ้อมๆล่ะนะ ถือเป็นการฝึกสร้างเรื่อง สร้างจินตนาการและลีลาการเขียน) มีเรื่องให้เขียน (ในวันหนึ่งข้างหน้า เห็นมั้ยเป็นการสะสมวัตถุดิบไว้ก่อนไง)



     สนุกดีออก...


>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 20 มีนาคม 2551
Last Update : 20 มีนาคม 2551 16:07:46 น. 9 comments
Counter : 923 Pageviews.

 
สำหรับหนู
ถ้าหนู "เขียน" ถึงมันได้แบบไม่รู้สึกอะไร
อนุมานเอาว่า ความผิดพลาดหรือรอยแผลบางอย่างนั้น---มันหายสนิทแล้ว

แต่เดี๋ยวนี้ เรื่องบางเรื่องก็พูดถึงลำบาก
คนบางคน แค่ชื่อยังไม่อยากได้ยิน
เดินผ่านก็เผลอกลั้นหายใจก็มี

*ไม่เกี่ยวกับความเจ็บปวด แต่นึกขึ้นมาได้ ::
เคยดูหนังจีนพวกผีกัดอย่ากัดตอบป่าวพี่ 55 เขาว่าเจอผีให้กลั้นหายใจ มันจะไม่เห็นเรา เอิ๊กๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:16:43:58 น.  

 
สวัสดีน้องชุน

ที่เขียนออกมานี่ ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรหรอกนะน้องนะ
พี่ยังไม่บรรลุถึงขั้นนั้น
ออกแนวเขียนเตือนใจตัวเองมากกว่า
บาดแผลบางอย่างมันต้องใช้เวลาสมานนานหน่อย

"คนบางคน แค่ชื่อยังไม่อยากได้ยิน"

พี่ก็มีเหมือนกันนะ ได้ยินแล้วมันยอกแสยง รบกวนจิตใจเหมือนผี ไม่ต้องเจอตัวจริงๆหรอก แค่เห็นอะไรที่ชวนประหวัดไปถึง ก็อยากจะกลั้นใจแล้ว




โดย: Mutation วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:16:51:10 น.  

 
พยายามเป็นแบบนั้นบ้าง
อย่าอารายกันมันนักชีวิต


โดย: hihoney วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:17:53:29 น.  

 
วันนี้อยากแบ่งปันคำที่ผู้ใหญ่ท่านนึงสั่งสอน

"อย่าตอกย้ำเรื่องไม่ดีในชีวิต"

ตัวเราเองค่ะ ที่ทำร้ายตัวเองซ้ำซากอยู่นั่น

ดูกาย ดูจิต แค่ดูเฉย ๆ แล้วรับรู้ถึงความไม่เที่ยงแท้ จีรังของทุกสิ่งรอบตัว

อีกคำถามที่ผู้ใหญ่ท่านที่ว่าให้ไปคิดทุกเช้า 7 วันแล้วให้โทรไปบอกคำตอบ "อะไรทำให้ทุกข์น้อยที่สุด"



โดย: natpatcha IP: 125.24.82.219 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:18:49:37 น.  

 
สาธุค่ะคุณแอน

นี่ขนาดลืมไป ไม่หวนนึกถึงเยอะแยะแล้วนะคะ


โดย: Mutation วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:18:57:38 น.  

 
ของเราเหตุการณ์รุนแรงประมาณว่าชื่อยังไม่อยาก
ได้ยินหรือว่านึกถึงนี่มันยังไม่มีอะค่ะ แต่ว่า
แค่เรื่องกวนใจเล็กๆ ให้ขุ่นๆ น่ะพอมี แต่ว่าก็เล็กๆ ค่ะ
เพราะบางทีต้องทำใจ ... เพราะเหมือนที่คุณมิวว่า
เราเองบังคับได้แต่ตัวเราเอง ไม่สามารถบังคับ
คนอื่นๆ ได้ ก็ต้องจัดการตัวเรานี่ล่ะคะ ให้ดีที่ซู๊ดดดด
ตอนนี้มีบางเรืองทีมันต้องพยายามเช่นกัน ...


ช่วยเหลือตัวเอง ปรับเปลี่ยนตัวเอง ก็เป็น
ทางเลือกที่ดีจริงๆ ล่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:21:28:06 น.  

 
สวัสดีครับ

เมื่อวันก่อนหลงเข้ามาบล็อกคุณจากช่องทางบ้านแพนด้ามหาภัย


พอรู้ว่าเจ้าของวบล็อกเป็นคนแปลเรื่อง "ฉันเคยรัก" ที่ผมซื้อซุกไว้นานแล้ว ยังไม่ได้อ่านเสียที เพราะมัวทำโน่นทำนี่จนจะกลายเป็นหนังสือเก่าไปแล้ว

เมื่อได้อ่านเรื่องที่คุณเขียนในบล็อกเลยทำให้อยากอ่านเรื่องที่คุณแปล

และขอยอมรับว่าเพิ่งเคยอ่านงานของแอนนา กาวาลดา เป็นครั้งแรก

ผมยังไม่เคยอ่านนิยายเรื่องไหนที่ขับเคลื่อนด้วยบทสนทนาทั้งเรื่องอย่างนี้มาก่อน ประการสำคัญคือบทสนทนาแต่ละประโยคสุดยอดด้วยน่ะซี

ทั้งที่เนื้อหาแบบนี้เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้
ต้องบอกว่าคนเขียนเก่งและคนแปลก็เก่ง

ผมคงต้องหางานของคนเขียนและคนแปลคนเดียวกันนี้มาอ่านอีกแน่นอน



โดย: พ่อพเยีย วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:19:54:17 น.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: Mutation วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:22:00:03 น.  

 
โอ้ดีจังค่ะที่ได้อ่านบล็อกวันนี้ ตอนนี้กำลังคิดตัดสินใจอะไรบางอย่างอย่างลำบากใจ เพราะคำว่ากลัวที่จะต้องก้มหน้ารับกับสิ่งที่คิดแล้วมันพลาด แต่อย่างที่พี่บอกแหละเนอะว่า "และถ้าต้องตัดสินใจอะไร ก็ตัดสินใจให้เด็ดขาด ตัดสินใจแล้วต้องรับผิดชอบในส่วนของตนให้ดีที่สุด อย่าให้ใครเขาว่าได้ ... คนเราต้องมีหลักการในชีวิตให้ยึดถือ "



โดย: i'mdancingaloneonthemoonlight วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:2:56:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.