- 19 OCTOBER 08 - ชีวิตเดิมๆ เริ่มขึ้นอีกครั้งอย่างแตกต่าง

ชีวิตเดิมๆ เริ่มขึ้นอีกครั้งอย่างแตกต่าง

Antoine est rentré dans son monde, moi le mien…

     เช้านี้ตื่นมาบนเตียงที่ว่างเปล่า หวานใจพาอองตวนขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยเมื่อคืนนี้

     หลังจากไปส่งที่สนามบิน กลับถึงบ้านโล่งๆ เงียบๆ เปิดเบียร์คิงฟิชเชอร์ดราฟท์หนึ่งกระป๋อง นั่งดูทีวี - หนังช่องเอชบีโอจบหนึ่งเรื่อง มาม่าต้มยำปลากรอบหนึ่งชาม เบื่อทีวีที่มีแต่หนังอินเดีย ตาเริ่มตก เปิดยูทูบดูในไอโฟน - โหลดช้าน่ารำคาญมาก ต้องคอยเลื่อนเริ่มต้นใหม่รอให้ข้อมูลเข้าเครื่อง ตีสามกว่าๆ โผเผขึ้นห้อง นอนเดี่ยวเปล่าเปลี่ยวใจ

     เมื่อเช้านอนตาค้างนึกทบทวนนิ่งๆ ฉันว่าฉันเปลี่ยนไปมากในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ฉันชอบอยู่ตามลำพัง ไม่ชินกับการต้องติดหนึบกับใคร พอต้องใช้ชีวิตคู่ ตอนแรกๆ ก็อึดอัดนิดหน่อย ต้องคอยขอเวลานอกปลีกตัวนั่งนิ่งๆ ตามลำพัง แต่พออยู่ๆ ไปก็เริ่มชินและชักจะชอบที่มีคนอยู่ข้างๆ อย่างอบอุ่น มีคู่คิดที่ปรึกษาไว้พูดคุย (อันเป็นนิสัยใหม่ล่าสุดที่ติดห้อยมา -- ฉันรู้สึกว่าฉันพูดมากขึ้นเยอะเลยหลังจากเปลี่ยนคำนำหน้าเป็นมาดามเนี่ย)คาดว่าเกิดจากความไว้วางใจ ความเชื่อมั่น และ... แฮ่ม... ความรัก ในตัวสามีนั่นเอง

     ความรู้สึกดีๆ เหล่านี้เองที่ทำให้ฉันเปิดใจรักและรับลูกๆ ของหวานใจเข้ามาในชีวิตของฉันด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันผ่านช่วงเวลาที่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนว่าจะทำได้ไปกับการดูแลเด็กน้อยคนหนึ่งอย่างใกล้ชิดเต็มเวลาตลอดเจ็ดวัน ตั้งแต่เช้าตื่นมา จนถึงพาเข้านอน กิจกรรมต่างๆ นั้นก็ได้บรรยายเล่าไปแล้วในบล้อกก่อนหน้า ส่วนบล้อกนี้เป็นการแสดงความยินดีกับตัวเองที่สามารถตัดความเห็นแก่ตัวเพราะเห็นแก่งานออกไปได้ในระดับหนึ่ง ... ฉันเติบโตขึ้นอีกหนึ่งระดับแล้ว



     อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า ฉันจะเก่งกาจมาจากไหน ความตั้งใจของฉันเพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้ฉันผ่านผันช่วงเวลานั้นได้อย่างสะดวกสบายใจหรอก ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันเสริมกำลังใจสร้างความฮึกเหิมด้วยหนังสือประเภท self-help (คาดว่าเป็นศัพท์ใหม่เพื่อยกระดับหนังสือออกจากหนังสือประเภท How to)ของโรบิน ชาร์มา กูรูชื่อดังระดับโลก หนังสือเล่มเล็กๆ ที่ฉันปลีกเวลาช่วงเด็กน้อยดูการ์ตูน เข้าครัวไปเปิดอ่านวันละบทสองบทนี้ ชื่อ Who will cry when you die? (ใครจะร้องไห้เมื่อคุณสิ้นใจ)

     แต่ละบทที่เปิดผ่านให้หลักยึดในเรื่องต่างๆ อย่างน่าสนใจและตรงกับข้อข้องใจที่ฉันตั้งถามตัวเองอยู่ในขณะนี้ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน คุณชาร์มาช่วยตอกย้ำให้ฉันมั่นใจว่าฉันตัดสินใจถูกต้องแล้วที่ปลีกเวลาให้กับเด็กน้อยอย่างเต็มที่ หนังสือเล่มนี้เน้นเรื่องคุณภาพของชีวิต ความหมายของชีวิต การเรียงลำดับความสำคัญในชีวิต การเลือกทำสิ่งที่มีคุณค่าสร้างความสมดุลในชีวิต วิธีการตัดความกังวลใจในชีวิตที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องที่ไม่มีวันเกิดขึ้น หรือเป็นเรื่องเล็กน้อยหยุมหยิมที่ไม่ควรค่าให้มาทำจิตใจหม่นหมองเลยแม้แต่น้อย

     ขณะเดียวกัน คุณชาร์มาเองก็เชื่อมั่นในเรื่องวินัยและความมุ่งมั่นตั้งใจจริงในการทำงานว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความพึงพอใจให้กับตนเอง และช่วยให้งานที่ทำประสบความสำเร็จ ... พอมีคนให้ท้ายเห็นด้วยอย่างนี้ กำลังใจในการทำงานเพิ่มขึ้นมาเพียบเลย เพราะเคยมีเสียงแว่วมาว่าฉัน "ตั้งใจทำงานมากเกินไป" ทำเอาฉันชะงักลังเลกับนิสัยของตัวเองไปพักนึง มาบัดนี้มีคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตบอกว่าฉันทำถูกแล้ว ฉันก็สรุปกับตัวเองว่า ถึงฉันจะไม่เท่ห์ ไม่ไนซ์ ไม่ทำงานแบบสบายๆ อะไรก็ได้ ถึงฉันเป็นคนไม่คูลเลยแม้แต่น้อย ... แต่ฉันมีผลงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน และฉันพอใจที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับผลงานเหล่านั้นอย่างเต็มที่ ไม่มีคำว่า "รู้อย่างนี้ น่าจะ..."

     มีประโยคหนึ่งในหนังสือเล่มนี้บอกว่า คนมากมายตายตั้งแต่อายุยี่สิบ แต่ถูกฝังเมื่ออายุแปดสิบ หกสิบปีแห่งความสูญเปล่าอยู่ตรงกลางสำหรับคนที่ปล่อยชีวิตล่องลอย ไร้จุดมุ่งหมาย ไม่สร้างคุณค่าให้กับการดำรงอยู่ของตน



     ฉันจะไม่ยอมให้ชีวิตของฉันเป็นเช่นนั้น





ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 19 ตุลาคม 2551
Last Update : 19 ตุลาคม 2551 14:15:28 น. 1 comments
Counter : 763 Pageviews.

 
อ๊ากกกกก




"มีประโยคหนึ่งในหนังสือเล่มนี้บอกว่า คนมากมายตายตั้งแต่อายุยี่สิบ แต่ถูกฝังเมื่ออายุแปดสิบ หกสิบปีแห่งความสูญเปล่าอยู่ตรงกลางสำหรับคนที่ปล่อยชีวิตล่องลอย ไร้จุดมุ่งหมาย ไม่สร้างคุณค่าให้กับการดำรงอยู่ของตน"


โดนใจ
หนูไม่อยากเป็นผีดิบ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:14:44:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.