- 14 SEPTEMBRE 08 - ของขวัญแสนหวาน -ไอโฟนสื่อรัก

ของขวัญแสนหวาน -ไอโฟนสื่อรัก

Mon IPhone d'amour.


     ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีเวลามานั่งอัพบล้อกส่วนตัวที่นี่บ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อน เพราะมีงานการเพิ่มเติมเข้ามามากมายกว่าปกติ เช่น บล้อกของสำนักพิมพ์กำมะหยี่ และล่าสุด เวบไซต์ของสำนักพิมพ์กำมะหยี่ ที่เพิ่งออนแอร์ไปเมื่อกลางๆ อาทิตย์ที่ผ่านมา

     มีข้อมูลต้องเพิ่มเติม มีโปรแกรมแบ็คออฟฟิศที่ใช้จัดการเวบให้ศึกษาหาความรู้ จะปรับจะทำอะไร บางทีต้องเสียเวลางมอยู่นาน

     นอกจากนั้นยังมีของเล่นใหม่ที่มาดึงดูดความสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ไอโฟน ที่หวานใจซื้อให้เป็นของขวัญครบรอบแต่งงาน 1 ปี ของเรา ซึ่งเราตั้งชื่อให้แล้วตามธรรมเนียมปฏิบัติประจำบ้านว่า Petit Pomme - ปอมม์น้อย



     ใครที่ติดตามบล้อกมานาน อาจจะจำได้ลางๆ ว่าที่บ้านนี้มี พี่น้องตระกูลปอมม์ ซึ่งมาจากคำภาษาฝรั่งเศสว่า Pomme ที่แปลว่า Apple อยู่สองเครื่องคือ ไอแมค ที่เราเรียกว่า La Pomme (หนูปอมม์) กับ La Grosse Pomme (แม่ปอมม์อ้วน) เป็นฮาร์ดดิสสีขาวแบบแยกต่างหากสำหรับใช้แบ็คอัพไฟล์และข้อมูลต่างๆ

     ตอนนี้พอมีน้องใหม่ไอโฟนมา จึงรับสมญา ปอมม์น้อย ไปตามลำดับขนาด

     ปอมม์น้อย เป็นเด็กชายหน้าตาดี มีออปชั่นลูกเล่นมากมาย ใช้สะดวก ต่อเน็ตก็ได้ ฟังเพลงก็ได้ ดูวิดีโอก็ได้ ถ่ายรูปก็ได้ เช็คอีเมลก็ได้ และที่สำคัญ ใช้เป็นโทรศัพท์ได้ด้วย!!!


     ปกติแล้ว นิสัยสันดานลึกๆ ของฉันน่ะ ฉันเป็นคนไม่ค่อยเห่อเทคโนโลยีของเล่นที่สามารถรับโทรศัพท์เข้าและโทรออกได้สักเท่าไหร่ ใช้โนเกีย 3310 มาหลายปีจนปุ่มเสื่อมถึงค่อยเปลี่ยนเป็นเครื่องที่ราคาต่ำที่สุดในร้าน จนมาเมื่อปีที่แล้ว หวานใจซื้อ ซาวง (HTC)ให้ใช้กับเบอร์ฝรั่งเศสนั่นแหละ ฉันถึงมีเครื่องโทรศัพท์ที่ทำได้มากกว่าความจำเป็นพื้นฐานของเครื่องโทรศัพท์ คือ การโทรศัพท์ (และเป็นนาฬิกาปลุกในบางครั้ง)


     ตอนนั้นฉันเห่อ แม่ซาวง ซึ่งได้ชื่อเพราะรูปร่างแบนๆ เหมือน Savon หรือสบู่ อยู่พักใหญ่ (สามวัน) หัดเล่น หัดใช้ หัดถ่ายรูป หัดต่อเน็ต อัพรูป เช็คเมล ลองไปเรื่อยๆ จนยอดการรับส่งข้อมูลพรวดพราด ส่งผลเป็นเงิน 200 กว่ายูโรโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทางบริษัทมือถือต้องโทรมาบอกให้จ่ายเงินตรงนี้ก่อนครบรอบบัญชี ทำเอาฉันหน้าซีดใจเสีย (เสียดายเงิน) เข็ดขยาด ไม่อยากได้เครื่องเล่นสารพัดฟังชั่นแบบนี้อีกแล้ว


     ดังนั้น ไอฟงไอโฟนเนี่ย ถึงจะรูปงามเป็นที่เลื่องลือขนาดไหน ฉันก็ไม่เคยคิดจะเหลียวไปมอง คนที่ทำให้ฉันเข้าใกล้ไอโฟนคนแรกคือจอยเพื่อนรักนักออกแบบเวบไซต์ ที่ส่งอีเมลรูปที่ถ่ายจากไอโฟนตอนไปเที่ยวระยองมาให้ เพื่อนปลาบปลื้มชื่นชมดีไซน์และการใช้งานของเจ้าของเล่นชิ้นใหม่ชิ้นนั้นไม่ขาดปาก ได้ฟังแล้วฉันก็คิดว่า คงเป็นธรรมดาที่นักกราฟฟิคดีไซน์จะชอบงานออกแบบของแอปเปิ้ลแหละ เลยไม่ได้สนใจขอดูลองใช้ไปมากกว่านั้น

     คนที่สองคือคุณหริ่น-เนตรนภา ยาเนซโควา ณ กรุงปราก เจ้าของ สนพ. Sun Moon Tree ที่เขียนอีเมลเล็กๆ น้อยๆ ที่ลงชื่อว่า Send by my IPhone :) มาหาอยู่บ่อยๆ คนสุดท้ายคือพี่ยักษ์-คมสัน ที่ควักไอโฟนมาเปิดรูปประกอบการเล่าเรื่องที่คนชอบเข้าใจผิดคิดว่าพี่เป็นคนอีกคนหนึ่ง จนต้องถ่ายรูปกับคนๆ นั้นเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่



     พอเห็นใครๆ เขาใช้ไอ้เครื่องนี้กัน ฉันเลยเปรยๆ กับหวานใจ ตอนที่นั่งรถผ่านป้ายโฆษณายักษ์ใหญ่ในบังการ์ลอร์ว่า คนนั้นก็มีไอโฟนคนนี้ก็มีไอโฟนล่ะ โทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ฉันจะใช้เบอร์มือถือในอินเดียเป็นไอโฟนได้ก็ดีเนอะ แต่ถ้ามันแพงมากก็ไม่ต้องหรอก ฉันใช้ LG พลาสติกเครื่องละพันสี่ร้อยบาทที่ซื้อสำหรับใช้กับซิมเติมเงินตอนไปเมืองไทยก็ได้ ส่วนเจ้าซาวงติดล็อค เอาไว้ใช้ได้แต่ตอนไปฝรั่งเศส เพราะติดสัญญาเปิดเบอร์หนึ่งปี ตอนนี้เลยเอาไว้ใช้เป็นเครื่องสำรองเผื่อฉุกเฉิน

     หวานใจของฉันชอบดีไซน์ของแม็คอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แถมกำลังมองหาของขวัญวันครบรอบแต่งงานให้ฉันด้วย เลยตระครุบคว้าโอกาสงามที่จะได้เอาใจภรรยา สืบเสาะหาข้อมูล เช็คราคาเครื่องในประเทศต่างๆ ทั้งแบบติดล็อคและไม่ติดล็อค พบว่าปัญหาของไอโฟนสามจีที่อินเดียคือ ที่อินเดียไม่มีระบบสามจี และต้องซื้อเครื่องแบบเปิดเบอร์โพสเพย์จ่ายรายเดือนเท่านั้น จะซื้อซิมอื่นเอาไว้ก่อน พอได้เครื่องแล้วค่อยใส่ เนี่ยทำไม่ได้

     แต่เมื่อเปรียบเทียบราคาความคุ้ม จังหวะชีวิต ความสะดวก ความสบายใจต่างๆ เรียบร้อยแล้ว วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2551 ศุกร์ก่อนวันครบรอบแต่งงานของเรา หวานใจจึงตัดสินใจซื้อไอโฟนมาให้

     คืนนั้น หวานใจกลับมาถึงบ้าน ถือถุงไอโฟนมาวางแปะกลางห้อง ไม่ได้แอบซ่อนราวกับไม่กะจะทำเซอไพรซ์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ได้พูดถึงโจ่งแจ้ง ซึ่งก็แสดงว่าอยากจะให้ฉันประหลาดใจนั่นแหละแต่ลืมนึกว่าควรจะเอาไปซ่อนให้พ้นสายตาเสียหน่อย ฉันเองเสียอีกที่เป็นธุระจัดให้ หยิบถุงนั่นเอาไปแอบไว้มุมห้องใต้โต๊ะเตี้ยจะได้ไม่เห็นโดดเด่นเป็นสง่าก่อนการณ์อันควร



     เพื่อว่าพอถึงเวลาจะได้ทำท่าดีใจเหมือนไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นถุงมาก่อน กรีดน้ำตาจากความปลาบปลื้มแล้วพูดว่า "แหม ...ไม่น่าซื้อมาเลย แต่ก็ขอบใจมากจ้ะ" ได้สมบทบาท ...



ป.ล. ภาพประกอบที่เป็นสไลด์ เป็นรูปหนังสือที่ฉันจัดวางไว้บนขั้นบันไดในบ้านที่วันก่อนฉันเคยเล่าให้ฟังและสัญญาว่าจะถ่ายรูปมาฝากค่ะ



ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 14 กันยายน 2551
Last Update : 15 กันยายน 2551 11:02:33 น. 4 comments
Counter : 827 Pageviews.

 
ชอบภาพชั้นหนังสือตามขั้นบันไดจังเลยพี่มิว


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:14:26:21 น.  

 


โดย: yosita_yoyo วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:14:45:28 น.  

 
ชั้นหนังสือของคุณมิวเก๋มาก ชอบจังค่ะ
นั่นสิ ... ถึงว่าพักนี้ไม่ค่อยเห็นคุณมิวอัพบล็อกนะคะ

แต่ว่าคุณมิวมีหนังสือ Java2 ด้วย... เลยชักสงสัยว่าคุณมิวจะพ่วงท้ายตำแหน่งเป็น Computer Developer อีกอย่างหรือเปล่า


โดย: SevenDaffodils วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:20:38:20 น.  

 
ชอบชั้นหนังสือเหมือนกันค่ะ ชอบตรงที่ถ่ายขึ้นไปแล้วเห็นบันไดสามชั้นอยู่ในรูปเดียวกัน สวยดี เห็นสันหนังสือกำมะหยี่ สั้นต้นฉบับภาษาฝรั่งเศสของ Persepolis แต่ยังไม่เห็น Persepolis ฉบับภาษาไทยแฮะ สงสัยต้องตั้งใจดูอีกทีค่ะ


โดย: natpatcha IP: 125.24.154.86 วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:19:57:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.