- 02 Juillet 08 - เตรียมตัว เตรียมใจ เป็นคุณนายเอ็กซปัต

เตรียมตัว เตรียมใจ เป็นคุณนายเอ็กซปัต

Madame Expat


    ดู๊ดู คนเรา เหนื่อยแทบขาดใจ เพราะเพิ่งกลับจากไปถ่ายรูปเดินพิพิธภัณฑ์ตุนข้อมูลและมีงานแปลรออยู่ แต่ฉันยังมีกะใจมานั่งอัพบล้อก

    ก็มันมีเรื่องอยากเล่านี่นา ไม่ใช่แค่การบ่นเรื่อยเปื่อยนะคราวนี้



    เรื่องของเรื่องคือ เมื่อวานทั้งวัน ฉันกับหวานใจไปเข้า "อบรม" การเตรียมตัวเมื่อไปทำงาน+อยู่ต่างประเทศ ในฐานะ Expatrié หรือที่เรียกสั้นๆตามประสาคนฝรั่งเศสว่า Expat - เอ็กซปัต

    Expatrié มีที่มาจากภาษาละตินสองคำคือ ex («นอก») กับ patria (« ประเทศ ») ...( เห็นมะ บล้อกนี้มีความรู้แทรกด้วยนะ)

     โปรแกรมอบรมนี้ บริษัทของหวานใจเสนอมา โดยจ้างสถาบัน Berlitz ที่ปารีส ซึ่งจ้างผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ international culture (วัฒนธรรมข้ามชาติ) มาจัดหลักสูตรให้อีกที

    หลักสูตรนี้มีเป้าหมายเป็นการให้คำแนะนำและข้อมูลที่จำเป็นกับพนักงานที่จะต้องไปทำงานต่างประเทศ ทางวิทยากรจะส่งแบบสอบถามมาให้กรอกก่อนเพื่อตรวจดู ทำความรู้จัก เห็นภาพ สถานะและประสบการณ์ของนักเรียนก่อน เพื่อจะได้จัดเนื้อหาได้ตรงความสนใจ

    แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหวานใจไม่ว่าง เพิ่งปรินต์แบบสอบถามเมื่อวันอาทิตย์เอง เลยส่งการบ้านสายในห้องเรียนตรงนั้นเลย ทำเอา คุณโลรองซ์ วิทยากรบ่นใหญ่ว่าพอไม่รู้ข้อมูล เลยจัดหลักสูตรมาค่อนข้างเบสิค ถ้ารู้ว่าหวานใจเคยไปอยู่ต่างประเทศจะไม่จัดเรื่องพื้นฐานสำหรับคนที่ไม่เคยไปทำงานต่างประเทศมาให้แบบนี้

    หวานใจเลยแก้ตัวไปว่า สอนเนื้อหาเบื้องต้นน่ะดีแล้ว เพราะเขาจะได้ให้คำแนะนำกับลูกน้องที่จะตามไปทำงานอินเดียได้ถูกต้อง และอาจจะมีบางจุดที่หวานใจไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ อย่างเช่น เนื้อหาที่เจาะลึกเรื่องอินเดีย พอรู้ว่าเราไม่ใช่เอ็กปัตมือสมัครเล่น คุณโลร็องซ์เลยเกร็งนิดหน่อย ไปๆมาๆโปรแกรมนี้เลยกลายเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ประกอบหัวข้อในทฤษฎีที่เธอเตรียมมาเสียมากกว่าการสอนให้ข้อมูลจากวิทยากรฝ่ายเดียว ... ก็ดีไปอย่าง

    ส่วนฉัน ไอ้ตอนแรกก็นึกแค่ว่าไปเป็นแค่ไม้ประดับไปในฐานะเมียเอ็กซปัตนั่งฟังเฉยๆ ตอนที่รับปากหวานใจว่าจะไปเรียนด้วย ฉันแค่นึกสนุกอยากรู้ว่าการอบรมแบบนี้เขาสอนอะไรกันบ้าง เรื่องไหนที่ใช้ประโยชน์ได้ก็จะหยิบจับมาใช้ ไอ้ที่ไม่ค่อยเกี่ยวก็ปล่อยให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา แต่ปรากฎว่าพอเข้าไปเรียน ก็ไดรู้ว่าหลักสูตรนี้ให้ความสำคัญกับ "คู่ชีวิต" ของเอ็กซปัต ไม่น้อยเลย

    คุณโลร็องซ์เล่าว่า เอ็กซปัตถึงสองในสามปฏิบัติการในต่างประเทศล้มเหลว เพราะภรรยาหรือสามีที่ติดสอยห้อยตามไปด้วยทนไม่ไหว สติแตกขอกลับประเทศด่วน ดังนั้น จึงต้องมีการวางแผงเตรียมพร้อมทางด้สนสังคมและจิตใจให้ด้วย เนื่อจากเป็นบุคคลที่มีความสำคัญกับชีวิตเอ็กซปัตมากทีเดียว ไหนจะเรื่องการศึกษาของลูก สภาพไร้รากของเด็กๆที่ต้องติดตามพ่อแม่ไปต่างประเทศ วิธีการป้องกันและแก้ปัญหา


    มีคำแนะนำมากมายให้คุณนายเอ็กซปัตทำตั้งแต่การหา "เครือข่ายคนรู้จัก" ในกรณีของเมียฝรั่งเศส จะไปรวมตัวกันที่สมาคมฝรั่งเศสประจำเมืองนั้นๆ สมัครเข้าคอร์สต่างๆ เรียนภาษาท้องถิ่นเพื่อจะได้ติดต่อพูดคุยกับคนในท้องถิ่น หรือลองไปตามฟอรัมเวบไซต์เมียเอ็กซปัต เพื่อหาเพื่อน มีคนให้พึ่งพาพูดคุย ขอความช่วยเหลือยามเดือดร้อนระหว่างที่สามีไม่อยู่ติดธุระหรือต้องเดินทาง จะได้ไม่รู้สึกเหงาเปล่าเปลี่ยว ตั้งคำถามว่ามาทำอะไรอยู่ประเทศนี้หว่า ทั้งนี้ จะได้ไม่เป็นการเพิ่มปัญหาปวดหัวให้คุณสามีที่กลับบ้านมาเหนื่อยๆด้วย


    คุณโลร็องซ์ให้คำแนะนำที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับกลุ่มเมียเอ็กซปัตที่ส่วนใหญ่จะจับตัวรวมกันเป็นกลุ่มว่า ฉันต้องรีบเข้าไปทำความรู้จักแทรกเข้าไปในกลุ่มให้เร็วที่สุด และดึงข้อมูลที่มีประโยชน์ในการใชชีวิตที่อินเดียให้มากที่สุด การคบกับเมียๆพวกนั้นก็ไม่ต้องคิดมากปวดหัว ไม่จำเป็นต้องรักต้องชอบพวกเธอก็ได้ ให้ถือเป็นแหล่งข้อมูลในเบื้องต้น แล้วเมื่อเจอใครที่น่าคบ เวลาจะช่วยให้เรารู้ว่าใครเป็นเพื่อนที่คบหาได้นานๆ ใครที่แค่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป


    นอกจากเรื่องเมียๆ แล้ว ก็มีการพูดถึงสถานทางจิตใจของเอ็กซปัตเวลาไปต่างประเทศ ที่น่าสนใจ คือ มีแบ่งเป็น ๔ ขั้น

    ขั้นแรก -- ไม่รู้เรื่องและไม่รู้ตัว เป็นช่วงก่อนเดินทาง จะมีการวาดภาพชีวิตตามจินตนาการของตัวเองไป นึกว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะเจอกับประเทศใหม่ โดยไม่รู้ตัวว่าตนเองไม่รู้อะไรเลย

    ขั้น ๒ -- ไม่รู้เรื่องแต่รู้ตัว เป็นช่วงแรกๆที่ไปอยู่ที่ประเทศใหม่แล้ว ได้รู้ ได้เจอปัญหาต่างๆ และรู้แล้วว่าตนเองไม่รู้เรื่องอะไรเลย

    ขั้น ๓ -- รู้เรื่องแบบรู้ตัว เป็นช่วงที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว รู้แล้วว่าจะแก้ปัญหายังไง แต่ยังคงเกร็งๆ ต้องคอยระแวดระวังเป็นพิเศษ ยังรู้สึกเป็นคนแปลกถิ่นอยู่

    ขั้น ๔ -- รู้เรื่องโดยไม่รู้ตัว เป็นช่วงท้ายสุด เริ่มเข้าฝักแล้ว รู้เรื่องรู้ราว เข้าใจที่มาที่ไป และมีชีวิตอยู่อย่างสบายๆ เป็นธรรมชาติ


    ในช่วงบ่าย มีการต่อโทรศัพท์ฟังวิทยากรอีกคนที่เคยอยู่อินเดียมานานในสถานะเมียเอ็กซปัต เธออธิบายเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆที่น่ารู้เวลาอยู่ประเทศอินเดีย เช่น อะไรที่มีขาย อะไรต้องขนไปเอง เรื่องความสะอาด สิ่งที่ต้องกันไว้ก่อน เรื่องไหนที่ต้องระวังให้ดี วิธีการจ้างคนรับใช้ คนขับรถ การวางตัวกับคนในบังคับ วิธีรับมือถ้ามีคนอินเดียเข้ามาจาบจ้วง

    เธอบอกว่าเวลาใครมาลวนลาม ให้ร้องกรี๊ดดังๆแล้วตบหน้าไอ้คนนั้นไปเลย ไม่ต้องพยายามอธิบายมากความ ภาพที่เกิดขึ้นเห็นพยานชัดเจนอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น



    หลังจากนั้นพวกแขกมุงจะจัดการให้ไอ้ชั่วคนนั้นได้อับอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเอง



ป.ล.อธิบายภาพประกอบ -- ภาพแรกถ่ายที่บ้านของวิคตอร์ อูโก ภาพที่สอง เป็นภาพน้ำพริกผักจิ้มที่ไปกินบ้านเป๊บเมื่อคืนวันศุกร์ ฝากให้คุณนายจอยเพื่อนรักดูตามคำขอจ้า




>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 01 กรกฎาคม 2551
Last Update : 1 กรกฎาคม 2551 23:36:45 น. 2 comments
Counter : 774 Pageviews.

 
ไปเที่ยว (เมซงอูโก) ใกล้บ้าน (ใหม่) เชียวนะคะ

ขอบคุณข้อมูลเรื่องไปสัมมนา พลอยได้ประโยชน์และแง่คิดไปด้วยค่ะ


โดย: rin IP: 88.100.132.225 วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:3:37:07 น.  

 
สวัสดีค่ะ

พอดีได้เข้าไปเห็นกระทู้ในเว็บพันทิพที่เกี่ยวกับ

"สำนักพิมพ์กำมะหยี่ตามหานักแปลสำหรับนิยายภาษาสวีเดน เป็นภาษาไทย
แม่บ้านท่านใดสนใจ หรือรู้จักใครที่สนใจ
ติดต่อหลังไมค์ได้เลยค่ะ "

ส่วนตัวแล้วอายุยังไม่ถึงขั้นเป็นแม่บ้านน่ะค่ะ ยังเรียนอยู่ค่ะ แต่สนใจงานนี้ค่ะ
เพราะอยากทดสอบความสามารถของตัวเอง ตอนนี้อยู่สวีเดนได้7ปีแล้วค่ะ

ยังไง รบกวนติดต่อกลับด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ploysth89@hotmail.com



โดย: RUBIINZ IP: 217.210.59.88 วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:35:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.