- 23 NOVEMBRE 07

สมดุล ต้องหาสมดุล


--- Il me faut trouver l'équilibre, c'est tout! ---



     โอ้ สมชาย สมหมาย สมรัก

     ตอนนี้ "คน" ที่ฉันอยากเจอที่สุดคือ สมดุล

     ชีวิต Translatress-Housewife นี่ ใครว่าสบาย ใครที่เคยเอ่ยปาก "อิจฉาๆ" อยากให้มาลองใช้ชีวิตของฉันดูสักอาทิตย์สองอาทิตย์ (ออกค่าเครื่องบินเองนะ - แล้วสามีของฉัน ..ห้ามแตะเด็ดขาด)

     โดยเฉพาะสองอาทิตย์หลังนี่ ...อนาจจิตมาก นอกจากงานแปลที่ค้างอยู่ และงานเขียนคอลัมน์โอเวอร์ซีส่งให้ทันกำหนดแล้ว จู่ๆ ก็มีงานเร่งเข้ามา บ.ก .นกน้อย ขอต้นฉบับแปลเรื่องสั้นที่แสดงถึงด้านดีๆ ของชีวิต ต้นฉบับเก่าก็ได้ ต้นฉบับใหม่ก็ดี

     โธ่ๆๆ นักแปลอย่างฉัน อยู่ๆ จะไปดึงงานของตัวเองมาใช้ได้ตามใจชอบเสียที่ไหน งานทุกชิ้นติดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะกับสนพ.ไทย หรือ สนพ.เทศ มีทางเดียวคือทำงานที่ลิขสิทธิ์ตกเป็นของสาธารณะแล้ว ซึ่งหมายถึงงานเก่าๆ ที่คนเขียนตายไปแล้ว 70 ปี ตามกฎหมายฝรั่งเศส และตัวฉันเองก็ไม่ได้เป็นคอหนังสือคลาสสิกเสียด้วย หนังสือเก่าๆ เรื่องเดียวที่วาดหวังไว้ว่าจะแปลให้ได้ คือ A La recherche du temps perdu ของ Marcel Proust นักเขียนในดวงใจของหวานใจ

     อา... นั่นไง วิกฤติมาต้องพลิกให้เป็นโอกาส ทำไมไม่ลงมือแปลเรียกน้ำย่อยในการณ์นี้เสียเลยล่ะ พูดถึงหัวข้อแล้ว มันก็พอจะกล้อมแกล้มให้เห็นถึงความงดงามของชีวิตได้เหมือนกัน ... ฉันจึงเสนอไป และได้ไฟเขียวมาว่าทำเลย

     ระยะทางระหว่างคำพูดกับการลงมือทำนั้นห่างไกลกันนัก ... พูดน่ะง่าย ตอนทำนี่สิ ถึงกับเหงื่อตก นั่งงมโข่งกับงานสองหน้าเอสี่นี้อยู่หลายวันทีเดียว ตั้งแต่คัดเลือกเนื้อหา แกะ เกลา ทบทวนที่แปลแล้วเล่าเพราะคนเขียนสำนวนเหลือกิน ไหนจะต้องติดต่อคนที่จะมาช่วยตรวจทานให้ แล้วยังต้องหาคำอธิบายเล่าเกี่ยวกับ "หนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดในศตวรรษที่ 19" เล่มนี้ประกอบต้นฉบับแปลด้วย

     โชคดีที่เมื่อสองอาทิตย์ก่อน รถไฟใต้ดินหยุดงานประท้วง ฉันเลยมีข้ออ้างเพิ่มในการนั่งอุดอู้ทำงานอยู่แต่ในบ้าน โอ้ย... เห็นสถานการณ์วุ่นวายแบบนี้แล้วคันไม้คันมืออยากเขียนรายงานลงมติชนสุดสัปดาห์ใจจะขาด ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไม่เขียนแล้ว แต่พอเดินผ่านซุ้มขายหนังสือ ก็อดจะซื้อหนังสือพิมพ์มานั่งเปิดหาข้อมูลไม่ได้ ... เอาเถอะ รุมไฟไว้ก่อน เดี๋ยวจังหวะดีๆ ฉันจะลงมือเขียน



     อดีตผ่านไป หันมามองอนาคตอันใกล้บ้าง งานที่ต้องทำต่อจากนี้ มีกำหนดส่งสิ้นเดือนเหมือนกัน คือ

     - "ช้ำจนชิน" เหลืออีกแค่ 60 หน้า กำหนดส่งสิ้นเดือนนี้ แต่ดูท่าทางจะส่งไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ลงมือเกลาเลย ถ้าขอเวลาเพิ่มจากเจ๊นวล ณ วงกลมอีกสักสองอาทิตย์ เจ๊จะตัดหางปล่อยวัดหรือเปล่านี่

     - "มุกประดับ"รวมเรื่องสั้นของคุณสิบเดฯ ฉันรับเป็น บ.ก. เมื่อวานเริ่มไปแล้วเรื่องนึง ใช้เวลาไม่มากนัก กะว่าทำวันละเรื่องสองเรื่องน่าจะส่งทันกำหนด


     อีกงานที่เพิ่มเข้ามา เป็นความซ่าบ้าๆ บอๆ ของฉันเอง อยู่ดีไม่ว่าดี คุยกับคุณวิภว์ บ.ก.แฮปเพนนิ่ง ทางเอ็มเอสเอ็น แล้วครึ้มใจเสนอตัวจะเขียนคอลัมน์ให้ แล้วคุณวิภว์ก็ดีใจหาย (หรือไม่รู้จะปฏิเสธยังไงก็ไม่ทราบ) บอกว่าเขียนมาเลย เริ่มฉบับมกรานี้เลย กำหนดส่งต้นฉบับวันที่ 5 เดือนหน้า เหลือเวลาอีกสองอาทิตย์

     ตอนแรกกรี๊ดกร๊าด ต่อมา อยากจะเขกกระโหลกตัวเอง ... ทำไมชอบหาเรื่องใส่ตัวนักวะ ... มันตอบกลับมาว่า ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่มีวันที่ฉันจะเขียนหนังสือของตัวเองออกมาเป็นเล่มได้ คนอย่างเราต้องโดนเส้นตายบีบบังคับ งานถึงจะออก อยู่ดีๆ จะให้ลุกขึ้นมาฮึดทำงาน โดยไม่มีไฟจี้ก้นอยู่ คิดหรือว่าจะกำหนดตัวเองได้สำเร็จ



     บ่นเรื่องงานหมดแล้ว -- ทางด้านชีวิตแม่บ้าน สองสัปดาห์นี้หย่อนยานอย่างเห็นได้ชัด จะมีการพัฒนาอยู่อย่างหนึ่งก็คือ สามารถเฟ้นหาเมนูสูตรอาหารได้คล่องแคล่วขึ้น มีกำลังใจในการออกไปซื้อกับข้าวที่ซุปเปอร์มากขึ้น จัดการตารางอาหารค่ำได้เกือบจะลงตัวแล้ว เหลือเรื่องทำความสะอาดบ้าน รีดผ้า ที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง ทำตามตารางที่ตั้งใจไว้ไม่ได้เสียที เพราะเจองานแปลเบียด

     ฉันเอง พยายามทำใจไม่ให้รู้สึกผิดมากที่หาสมดุลระหว่างสองหน้าที่นี้ไม่ได้เสียที ฉันไม่ได้อยากเป็น Domestic Diva แม่บ้านผู้สมบูรณ์แบบหรอก แต่ไอ้นิสัยโรคจิตเปอเฟคชั่นนิสต์แบบอ่อนๆ กับความตื่นเต้นที่ได้มีบ้านเป็นของตัวเองเสียที มันผลัดกันมาบีบคั้น


     ทว่า (ฮ่าๆ ดูฉันเลือกใช้คำสิ) ...จากบทเรียนที่ได้เห็นในละครเรื่อง Desperate Housewife มีแม่บ้านคนหนึ่งเนี้ยบกริบ เก่งกาจสามารถในเรื่องงานบ้านไปเสียทุกเรื่อง ยังไม่สามารถทำให้สามีและลูกๆ มีความสุขได้ ดังนั้น ไอ้การที่บ้านรกบ้าง สะอาดบ้าง อาหารอร่อยบ้าง ห่วยแตกบ้าง ตื่นเช้าบ้าง ตื่นสายบ้าง มันก็ไม่เห็นจะเป็นไร จะเคร่งเครียดไปทำไม หวานใจเองก็เข้าใจและให้กำลังใจอยู่เสมอ



     เพราะนึกๆ ดูแล้ว... ความผิดพลาดและความไม่สมบูรณ์แบบนั้น เป็นสีสัน ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับชีวิตคู่ได้ดีเหมือนกัน ... ฉันว่าอย่างนั้นนะ



ป.ล. รูปประกอบเป็นอาหารค่ำฝีมือฉันเอง บรรเลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เมนูวันนั้นคือ หอยเชลล์ครีมเบซิล เคียงด้วยสปาเก็ตตี้ต้นกระเทียม กับ ทาร์ตมะนาว -- รายการหลังไปดูสูตรและรูปได้ที่บล้อกรูปถ่ายที่ติดลิงก์ไว้ทางขวามือจ้ะ




>> ฝากข้อความ เชิญคลิกที่นี่






Create Date : 23 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2550 20:28:02 น. 2 comments
Counter : 873 Pageviews.

 
ชีวิตมันต้องสุกๆดิบๆค่ะถึงจะอร่อย


โดย: ต.เต้ย IP: 117.47.140.58 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:45:53 น.  

 
ทำได้ขนาดนี้ เก่ง + ขยัน มากๆ แล้วค่ะ ช่วงแรกๆ ของชีวิตให้หวานแหวว ตักตวงความสุขให้มากที่สุด อย่าห่วงงานเลย 55


โดย: rin IP: 58.9.141.184 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:06:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.