- 03 DECEMBRE 09 ไม่มีทางตัน มีแต่ทางใหม่

ไม่มีทางตัน มีแต่ทางใหม่

P1020243
     เมื่อใคร่ครวญแล้ว หน้าที่ในชีวิตด้านต่างๆ ของฉันมีอยู่ไม่กี่อย่าง เรียงลำดับความสำคัญ ชนิดที่ว่าถ้าอย่างไหนจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ฉันสามารถปลีกตัวทิ้งหน้าที่่ลำดับถัดๆ ไปแบบไม่ลังเลใจ มีดังนี้

     อย่างแรกคือ ครอบครัว - ฉันชดเชยความไม่ค่อย “เอา” ครอบครัวเดิมที่มีพ่อแม่และญาติโกโหติกา (ยกเว้น พ่อแม่และพี่สาว) เป็นนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ก็พยายามจะปรับปรุงตัวให้ได้นะ ด้วยการทุ่มเทกับครอบครัวใหม่ของฉัน คือ ฉันกับหวานใจ ห้อยติ่งมาเล็กๆ เป็นระยะด้วยลูกเลี้ยงสองคน สรุปว่า ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น สามีของฉันมาก่อน ฟ้าจะถล่ม โลกจะทลาย หนังสือจะออกไม่ได้ ไม่เป็นไร ทิ้งได้แบบไม่รู้สึกผิดด้วย

     อย่างที่สอง คือ งานที่สำนักพิมพ์กำมะหยี่ - กำมะหยี่มีตัวตน มีที่ยืนเป็นที่รู้จักแล้วในระดับหนึ่ง แต่ยังเป็นเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่ยังต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ทิ้งไปเลยยังไม่ได้ ในช่วงนี้จนถึงอีกปีสองปีหรือสามปีต่อไปจึงยังต้องดูแลอย่างดีต่อไป แต่หลังจากนี้เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง หาคนมาทำหน้าที่แต่ละจุดได้อย่างถูกใจ ฉันน่าจะวางมือได้ในหลายๆ ด้าน แต่ต้องค่อยๆ ปล่อยเป็นเรื่องๆ ไป จุดหมายสูงสุดของฉันในกิจการกำมะหยี่ คือ ฉันไม่ต้องทำอะไรมาก นอกจากอนุมัติหนังสือที่ทีมงานเสนอมา อ่านดราฟท์สุดท้ายก่อนส่งโรงพิมพ์ และดูอีเมลแจ้งยอดขาย (ปลอมๆ) จากสายส่งและยอดโอนเงินเข้า

     อย่างที่สาม คือ งานแปลกับงานเขียนคอลัมน์ส่วนตัว เป็นงานที่ทำเพื่อเติมเต็มความต้องการส่วนตัวซึ่งไม่ใช่การอยากดัง แต่อยากมีพื้นที่ในการเล่าประสบการณ์และสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้แด่เพื่อนร่วมชาติ อาจจะมีผลบวกเพิ่มมูลค่าให้งานกำมะหยี่บ้าง แต่ฉันไม่เคยเอาไปปนกัน ฉันไม่อยากให้คนคิดว่า สำนักพิมพ์กำมะหยี่ = อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ความน่ารักน่าใคร่จะหดหายไปกว่าครึ่งค่อน (ฮ่าๆ) สรุปว่า มุมนี้เป็นมุมเล็กๆ ของฉัน ที่ฉันปลีกเวลามาทำในยามว่าง

     อย่างที่สี่ คือ ตัวเอง ... ใช่แล้ว ฉันมีหน้าที่ต่อตัวเอง ถึงจะไม่ได้เป็นหน้าที่อันดับต้นๆ แต่เป็นหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องทนุบำรุง ฉันใช้ชีวิตในแบบของฉัน อาจจะไม่ถูกสุขลักษณะขาวสะอาด แต่ฉันไม่สน ฉันเลือกวิถีนี้ ฉันพอใจที่จะจุดเทียนทั้งสองด้าน มากกว่าจุดเทียนแบบประหยัดเนื้อประหยัดตัวหรี่ๆ เกรงแท่งเทียนจะหลอมละลายเร็วเกินการณ์ แต่การณ์ที่ว่าคืออะไรล่ะ คือการมีชีวิตยืนยาวแบบซังกะตาย ระแวดระวังไปเสียทุกอย่าง แล้วถามว่ามีความสุขจริงหรือเปล่าแต่ยังตอบอ้อมแอ้มนะรึ ไม่ล่ะค่ะ ขอบาย ฉันขอตายแบบที่บอกตัวเองได้ว่าใช้ชีวิตเต็มที่แล้วมากกว่า ไม่ว่ามันจะสั้นขนาดไหน

     แต่กระนั้น ด้วยสังขารที่เห็นความเปลี่ยนแปลงทุกเมื่อเชื่อวัน ฉันก็ยอมรับนะว่าฉันไม่สามารถปล่อยเนื้อปล่อยตัวตามใจมากนัก ฉันไม่ใช่สาวๆ แล้ว และลักษณะของหน้าที่การงานก็ไม่ค่อยจะเอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดีนัก ฉันจำเป็นต้องขยับเนื้อขยับตัวออกกำลังกายบ้าง โชคดีที่มาเจอโยคะ และสิ่งที่จะสร้างเสริมตัวฉันในการแสดงออกทางศิลปะเป็นลำดับต่อไปในปีหน้าคือการปั้นดิน ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะทำได้ดีขนาดไหน

     ส่วนหน้าที่สุดท้าย คือ เพื่อน (ขออภัยเพื่อนๆ ที่ฉันคิดถึงตัวเองก่อน มันก็เหมือนกับคำแนะนำในเครื่องบินน่ะนะ ว่าถ้ามีเหตุฉุกเฉินให้ใส่หน้ากากออกซิเจนให้ตัวเองก่อนช่วยคนอื่น) โชคดีที่ฉันมีเพื่อนไม่มาก ฮ่า อย่างที่จอยบอก เวลา การเติบโต ชีวิตผู้ใหญ่และประสบการณ์จะกลั่นกรองเพื่อนที่เหลืออยู่ให้เรา เพื่อนของฉันนับนิ้วแล้วมีน้อยมาก ในวงการหนังสือ อาจมีแค่นิ้วในหนึ่งมือเท่านั้นมั้ง คือ คุณแอน หุ้นส่วนกำมะหยี่ คุณนพดล พี่นวลและพี่ๆ ที่ สนพ.วงกลม พี่แป๊ด และคุณสิบ ที่เหลือเป็นเพื่อนสมัยเรียน จอย มาก่อน อันดับแรก ต่อด้วย แหม่ม ที่สนิทไว้ใจกันมากถึงขนาดตามมาเป็นหุ้นลมบริษัทได้ เป็นเพื่อนที่ต่อเมื่อไหร่ก็ติดไม่ว่าจะห่างกันนานขนาดไหน แต่ที่น่าแปลกใจคือ จอย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเราถึงผูกพันกันได้นานขนาดนี้ เพราะเราไม่ได้มีอะไรที่เหมือนกันสักเท่าไหร่ อาศัยการเปิดใจยอมรับความต่างเท่านั้น ฉันเจอจอยครั้งแรกตอนมอ. 4 ที่เตรียมฯ ด้วยความที่จอยตัวสูงเลยต้องนั่งหลังสุด ส่วนฉันไม่ชอบนั่งข้างหน้า เลยได้นั่งแถวก่อนสุดท้าย และต่อมาเมื่อมาเรียนอักษรฯ เลือกเอกละครเหมือนกัน มีอะไรบางอย่างเชื่อมระหว่างจอยกับฉัน เป็นสายใยที่เหนียวแน่นขึ้นด้วยกาลเวลาและความพยายามของทั้งสองฝ่าย

     การมีจอยเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด เล่าระบายอะไรต่ออะไรได้มากที่สุดจนถึงทุกวันนี้ (ถึงจะเล่าได้ไม่ลึกถึงซอกหลืบเร้นลับ รู้ใส้รู้พุงกันเหมือนกับแหม่ม) มีคนที่ให้ส่งข้อความถามว่า “วันนี้เป็นไงบ้าง” มีคนที่ถามเราว่าเมื่อเรากลับเมืองไทย จะเจอกันวันไหนดี แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ เป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า มิตรภาพนั้นไม่ต่างจากความรักฉันท์ชายหญิง (หรือชาย-ชาย หรือ หญิง-หญิง) มีใจให้เฉยๆ ไม่พอ ต้องขยับเนื้อขยับตัวเคลื่อนไหว แสดงถึงมิตรภาพจากใจอย่างสม่ำเสมอด้วย

     นอกนั้นในช่วงหลัง หลังจากห่างหายกันไปนาน ก็เป็น ฝน ที่มาช่วยงานในกำมะหยี่ในตำแหน่งหัวหน้ากองบรรณาธิการ ซึ่งไม่ได้เงินเพิ่มเติมมากไปกว่างานที่ลงมือทำจริงๆ แถมงานอื่นๆ กระจุกกระจิก ถึงแม้ในทางทฤษฎี เพื่อนจะทำจดหมายลาออกมาแล้ว และเพื่อความสบายใจของเพื่อน ฉันก็อนุมัติไปด้วยความเข้าใจ แต่ฉันรู้ว่าในทางปฏิบัติ ฉันพึ่งพาเพ่ือนคนนี้ได้เสมอ


     ที่พูดถึงเรื่องหน้าที่ในชีวิตในบล็อกนี้เพราะวันนี้ ฉันเริ่มต้นวันด้วยหน้าที่ก่อนลำดับหลังสุด แต่ก็ไม่ก่อนหน้าที่ลำดับแรกๆ เช้านี้ ดูแลคั้นน้ำส้มให้สามีดื่ม (ปกติไม่เคยลุกมาทำนะ ต้องวันดีคืนดีเท่านั้นล่ะ ทำให้ประจำเดี๋ยวจะเหลิง ต้องไว้ลายใช้เล่ห์เหลี่ยมติดเล่มเกวียนเล็กน้อย) และส่งอีเมลในกิจการกำมะหยี่สองฉบับ ต่อด้วยการไปเรียนโยคะ

     วันนี้ครูโยคะ ที่ดูท่าทางจะชอบอกชอบใจ ยกให้ฉันเป็นศิษย์โปรดเสียเหลือเกิน ถึงขนาดขับสกูตเตอร์มารอรับที่หน้าหมู่บ้าน เพื่อไปเรียนอีกที่หนึ่งที่ห่างออกไปสามกิโลเมตร (นั่งเกาะท้ายหนุ่มอื่นที่ไม่ใช่หวานใจสามีของตัวเองไป รู้สึกแปลกๆ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าได้สัมผัสชีวิตจริงของชาวอินเดีย ไม่ได้อยู่ในรถติดเครื่องปรับอากาศมีคนขับรถให้ ) สรุปว่าก็น่ารักดี (ถ้าครูจะไม่คิดอะไรมาก แม้ว่าครูจะมีท่าทางเขินๆ อยู่บ้าง แต่ก็ดูเหมือนครูจะยินดีที่มีสาว - ถึงจะไม่สวยและอ้วนและสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษที่ครูไม่ค่อยเข้าใจกว่าครึ่งค่อน - มาเกาะด้านหลัง)

      ครูอยากให้ฉันเข้าเรียนให้มากที่สุด แจกแจงว่าในหนึ่งอาทิตย์ครูมีคอร์สสอนที่ไหนบ้าง และฉันจะไปเรียนตอนไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก แถมจะให้ไปเรียนตอนเช้าวันเสาร์หรืออาทิตย์ด้วยนะ (ไม่ไหวฮ่ะ เสาร์-อาทิตย์เป็นเวลาของสามี หน้าที่ลำดับ 1 ฉันไม่หลีกทางให้ใครอื่นอยู่แล้ว) เป็นอันว่าสองอาทิตย์ต่อไปนี้ ก่อนสัปดาห์คริสต์มาสจนถึงปีใหม่ ฉันจะมีเรียนโยคะทุกวัน



      อ๋าว คนที่คลิกเข้ามาเพราะหัวข้อ “ไม่มีทางตัน มีแต่ทางใหม่” เริ่มถามแล้วว่าเกี่ยวกับหัวข้อยังไง

     คืออย่างนี้ค่ะ วันนี้ฉันได้เรียนรู้ข้อคิดใหม่ ในการไม่พิจารณาข้อจำกัดว่าเป็นทางตัน แต่เป็นการเปิดให้เราพิจารณาช่องทางใหม่ ด้วย หนังสือเล่ม “ปารีส/พำนัก/คน/รัก/หนังสือ” ที่เราตั้งใจจะออกให้เป็นของขวัญสำหรับคนที่มองหาของขวัญให้ผู้เป็นที่รักที่เป็นหนอนหนังสืออยู่มีวี่แววว่าจะไม่สามารถส่งให้กับอัมรินทร์ สายส่งของเราเพื่อกระจายสู่ร้านต่างๆ ได้ก่อนปีใหม่ เพราะเขาปิดคลังกันวันที่ 16 แต่หนังสือของเราถ้าพิมพ์กันอย่างสบายๆ ไม่เร่งรัดเสี่ยงกับความผิดพลาดจะเสร็จประมาณวันที่ 25

     ทางเรา- สำนักพิมพ์กำมะหยี่ตกลงใจกันแล้วว่าจะออกที่จะออกงานที่ประณีตบรรจงมากกว่าเห็นแก่จังหวะการขายหนังสือ กระนั้น ด้วยความดื้อรั้น ไม่ยอมแพ้อุปสรรคง่ายๆ เราจึงหาทางอื่นๆ เพื่อกระจายหนังสือสู่ “คนรักหนังสือ” เช่น สายส่งเจ้าอื่น เช่น ซี-เอ็ด หรือ ศุนย์หนังสือจุฬา หรือวิธีการอื่นๆ เช่น เป็นสายส่งชั่วคราวเอง โดยการติดต่อ ร้านต่างๆ ไม่ว่าร้านเล็กร้านใหญ่ อย่าง ร้านบีทูเอส หรือ ร้านอิสระต่างๆ เพื่อส่งหนังสือโดยไม่ต้องจำกัดตัวเอง เร่งรัดให้โรงพิมพ์ออกหนังสือที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่สมกับชื่อชุดของหนังสือเล่มนี้คือ “คนรักหนังสือ”

     และไม่แน่ จุดนี้ โดยไม่ได้ตั้งใจ อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของการกระจายหนังสือของเรา




>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่






Create Date : 03 ธันวาคม 2552
Last Update : 3 ธันวาคม 2552 21:43:20 น. 1 comments
Counter : 854 Pageviews.

 
ชั้นอยากมีเวลานั่งลงพร้อมด้วยพลังที่จะเขียนอะไรๆ มั่งจัง
ทุกวันนี้นั่งลงก็คือ เอาตูดแปะลงไปบนเก้าอี้แล้วก็ เฮ้อ..หมดแรง
เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะลาไปพักผ่อนที่ภูเก็ต ตั้งใจว่าจะไปนั่งสมาธิสักครึ่งวันเพื่อชาร์จแบต ถ้าได้บุญเป็นของแถมแล้วจะเอามาฝาก



โดย: หนู IP: 125.25.88.149 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:18:18:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.