- 25 SEPTEMBRE 10 - โดนเฉ่ง

โดนเฉ่ง



นั่งแฮงค์แกว่งแกร่วอยู่ในห้องพัก รอเวลาพี่วิมารับไปบ้านพี่มีนที่ศรีราชา ง่วงเพลีย มากรุงเทพฯ ครั้งนี้ เดินสายพบเพื่อนฝูง พี่ๆ ที่นับถือเยอะแยะ นี่ขนาดไม่ค่อยได้วางแผนกะเกณฑ์ตารางชีวิตสักเท่าไหร่ ตั้งใจว่าเดี๋ยวเข้าโหมดครอบครัวในอีกสี่ห้าวัน จะเก็บตัวนิ่งๆ เหมือนหมีจำศีล อ่านหนังสือมันทั้งวัน สลับพักกินอาหารโปรดที่คุณนายแม่หามาปรนเปรอ

เมื่อคืนไปหาคุณนพดลที่บ้านท่านกับพี่แป๊ด ไปถึงหกโมง กลับตีสาม รวมเวลานั่งคุยกันแล้วแปดชั่วโมง เริ่มด้วยเบียร์ ต่อด้วยไวน์ จบด้วยพัวร์ วิลเลียมส์ เหล้าแรงหลังอาหาร

เรื่องราวพูดคุยสารพันมากมาย ร้ายบ้าง ดีบ้าง นินทา เอ้ย แลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างสนุกสนาน แล้วสักพัก คุณนพดลก็วกมา “เฉ่ง” ฉันว่า ถึงจะมีปัญหาบ้าบอในชีวิตอะไรเข้ามา ฉันไม่ควรละเลยหน้าที่ของตัวเองในการทำงานแปล เหนือสิ่งอื่นใด ฉันเป็นนักแปล ซึ่งเป็นอาชีพการงานที่ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ งานแปลไม่ใช่งานง่ายๆ นักแปลไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน เมื่อฉันทำได้ก้าวมาถึงตรงนี้แล้วก็ไม่ควรจะเมินเฉย หลงลืมรากเหง้าและตัวตนในการเป็นนักแปลของตัวเอง ไปยึดติดกับหัวโขนในบทบาทอื่นๆ ที่สวมอยู่ ไปให้ความสำคัญกับสิ่งที่สำคัญน้อยกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำงานแปล

ท่านว่า นักแปลที่แท้ต้องทำงานทุกวัน วันละหน่อย วันละน้อยก็ยังดี มันเหมือนกับการกลับเข้าสู่ตัวตนของเรา เรื่องอะไรที่รกๆ ก็กองเอาไว้ข้างนอกก่อน กลับเข้ามาสู่สิ่งที่เราทำได้ดีก่อน แม้เพียงชั่วครู่สั้นๆ ก็ตาม ไม่ควรจะวางมือไปเลย เดี๋ยวสนิมจะจับเอา พักผ่อนนั้นจะทำก็ได้ แต่ไม่ควรให้นานนัก ถึงจะเจอมรสุมสาดซัด เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราคือการแปลหนังสือต่อไป

เป็นมุมมอง เป็นคำสอนสั่งที่ฟังแล้วอึ้งไม่น้อย ฉันไม่ค่อยนึกถึงงานแปลว่าเป็นหน้าที่ ประหนึ่งเป็นภารกิจแห่งชีวิตที่ลิขิตมาให้เป็น รู้แค่ว่าเป็นงานที่ฉันทำได้ดีที่สุด อาจจะเป็นอย่างนี้ด้วยกระมัง ฉันถึงหันไปใส่ใจกับสิ่งอื่นๆ ที่ฉันถนัดน้อยกว่า เพราะสำหรับฉัน มันยากกว่า อย่างไรก็ตาม ฉันยอมรับว่าการหยุดพักเลียแผลใจถึงหกเดือนเป็นช่วงเวลาที่นานเกินไป แม้ว่าจะมีเรื่องย้ายบ้านย้ายประเทศเข้ามาร่วมด้วยช่วยฉุดรั้งเวลาก็ตาม

แต่คุณนพดลก็มีเหตุผล ท่านพูดถูกตรงเป้า พอได้ยิน รู้สึกซาบซึ้งอุ่นใจเหมือนมีพี่ชายร่วมอาชีพคอยเป็นห่วงเป็นใย ให้เกียรติยกย่องให้เป็นคนพันธุ์เดียวกัน และที่สำคัญที่สุดคือเตือนให้เห็นคุณค่าของอาชีพการงานที่เราทำกันอยู่ เพราะบางทีฉันก็เผลอหลงลืมไปเหมือนกันว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน ทำอะไรได้บ้าง และฉันโชคดีขนาดไหนที่มาอยู่ตรงนี้ มีชีวิตเช่นนี้

มากรุงเทพฯ คราวนี้ ได้เรียนรู้หรือได้ตอกย้ำข้อเท็จจริงหลายอย่าง เช่น ทุกคนมีปัญหาของตัวเอง ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง ทุกคนมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากมุมมองของตัวเอง

และฉันแอบเติมตบท้ายนิดนึงว่า ทุกคนมาเดินเล่นบนโลกใบนี้แค่ชั่วคราว เดี๋ยวทุกคนก็จะไป ... นะตัวเอง








>> ฝากข้อความเชิญคลิกที่นี่







Create Date : 25 กันยายน 2553
Last Update : 25 กันยายน 2553 16:57:10 น. 5 comments
Counter : 933 Pageviews.

 
อ่านแล้วอุ่นตามไปด้วยนะค่ะคุณมิว ...

เพื่อนร่วมอาชีพ เคารพนับถือ เตือนกันได้แบบนี้
เสมือนว่าพี่ชายห่วงน้องสาวเลยเชียว บางช่วง บางเวลา
เราก็ละเลยบางอย่างไป บางคนก็เตือนเรา บางคนก็
ไม่ได้เตือน .. ซึ่งคนที่เตือน ก็แน่นอนว่าจะต้องมีคนที่
เป็นห่วงเป็นใยและหวังดีกับเรา พอได้ฟังแบบนี้แล้ว
ก็ทำให้เราอบอุ่นใจได้ว่า .. เราเองได้รับความห่วงใย
และเอาใจใส่จากบางคนขนาดนี้เลยเหรอ ...

อ่านไปแล้วน่ารัก จนอดเม้นท์ไม่ได้ค่ะ ^^


โดย: JewNid IP: 124.157.190.201 วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:14:43:21 น.  

 


โดย: หน่อยอิง วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:17:44:56 น.  

 
คุยกันสารพัด แล้วก็วกกลับมาราดทิงเจอร์บนแผล
ผมชอบนะ
ก็แค่พักหกเดือนเอง
อีกสองไตรมาส จะแบะแผลแล้วเอาเหลือโรยอีกรอบ
นะ


โดย: นพดล IP: 183.89.63.130 วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:23:01:03 น.  

 
ชอบบล็อกนี้ที่คุณมิวเอามาฝาก อ่านแล้วได้คิดเยอะเชียวค่ะ
ีรู้สึกดีเหมือนอย่างคุณนิดเขียน (ขอลอกหน่อยนะคะึคุณนิด)

คิดว่าในสายตาคนไกล คุณมิวบ่นน้อยแล้ว
อ่านไดคุณมิวบ่อยๆ ยังไม่ค่อยรู้สึกว่าคุณมิวกำลังมีปัญหาเลย
หรือความรู้สึกช้าก็ไม่รู้นะคะ

แต่เห็นหมือนกันว่า
พักหลังๆไม่เห็นคุณมิวเขียนถึงเรื่องงานแปล
ถ้าได้กลับบ้านคราวนี้
จะไปตามเก็บหนังสือของคุณมิวเสียหน่อยค่ะ



โดย: SevenDaffodils IP: 65.160.41.6 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:21:47:02 น.  

 
จริงค่ะที่ว่านักแปลไม่ได้เกิดง่ายๆ ตัวดิฉันเองแปลได้เล่มเดียวเมื่อปีที่แล้วก็มีเหตุให้หยุดนาน ด้วยเหตุผลเรื่องย้ายประเทศ ย้ายบ้านนี่แหล่ะค่ะ พอเริ่มมีไฟอีกครั้งก็ต้องรอเรื่องลิขสิทธิ์ ที่ผ่านมาตะลุยอ่านหนังสือหลายเล่ม แตก็ยังไม่เจอหนังสือโดนใจ จนบางทีก็คิดว่าตัวเองขยันไม่พอ
วันนี้คุณมิวเดินมาไกลแล้ว อยากให้อยู่บนถนนสายนี้นานๆค่ะ อย่างที่เคยบอกคุณมิวเป็นไอดอลส่วนตัว เลยอยากให้เดินต่อค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณมิวค่ะ



โดย: Mai IP: 84.100.186.177 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:22:46:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.