1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31
เสพงานศิลป์ ๒๓
ภาพจากเวบ deviantart.com "ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ บางสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย ในงานศิลปของฉัน ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
Romance - Yuhki Kuramoto "งานรำลึกสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว" ๗ มกราคม วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สถานที่จัด: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และลานพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านข้างโรงละครแห่งชาติ เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร กรุงเทพฯ วันที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ เป็นวาระคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมศิลปากรร่วมกับชมรมกองทุนพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้า อยู่หัวกำหนดจัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล และพิธีถวายราชสักการะรำลึกถึงพระเกียรติคุณ ณ พระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณโรงละครแห่งชาติ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น. และเวลา ๑๓.๐๐ น. ขอเชิญรับฟังการบรรยาย เรื่อง “ย้อนอดีตกรุงรัตนโกสินทร์...เยือนถิ่นวังหน้า” ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กำหนดการบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว วันจันทร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๗.๐๐ น. - พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรมศิลปากร ๑๑ แห่ง - พิธีวางพวงมาลาของหน่วยราชการต่างๆ เพื่อถวายราชสักการะพระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลา ๐๘.๐๐ น. - พิธีสักการะสังเวย พระบวรราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลา ๑๐.๓๐ น. - พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร - ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ แล้วสดัปกรณ์ถวายพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว - เสร็จพิธี เวลา ๑๒.๐๐ น. - รับประทานอาหาร ณ อาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กำหนดการ การบรรยาย เรื่อง “ย้อนอดีตกรุงรัตนโกสินทร์...เยือนถิ่นวังหน้า” วันจันทร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เวลา ๑๒.๓๐ น. - ลงทะเบียน ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เวลา ๑๓.๐๐ น. - นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวเปิดการบรรยาย เรื่อง “ย้อนอดีตกรุงรัตนโกสินทร์...เยือนถิ่นวังหน้า” เวลา ๑๓.๑๐ น. - ๑๔.๑๐ น. - การบรรยาย เรื่อง จากพระราชวังจันทรเกษมถึงพระราชวังบวรสถานมงคล โดย นางสาวเด่นดาว ศิลปานนท์ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ เวลา ๑๔.๑๐ น. - ๑๕.๑๐ น. - การบรรยาย เรื่อง โบราณคดีวังหน้า หลักฐานจากการขุดค้น ขุดแต่ง (ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์) โดย นางสุนิสา จิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง เวลา ๑๕.๑๐ น. - ๑๕.๓๐ น. - รับประทานอาหารว่าง เวลา ๑๕.๓๐ น. - ๑๖.๓๐ น. - การบรรยาย เรื่อง สถาปัตยกรรมพระราชวังบวรสถานมงคล โดยการแบ่งกลุ่ม ๓ กลุ่ม ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ หมู่พระวิมานวังหน้า พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ และพระบวรราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย นายสุวิชญ์ รัศมิภูติ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมศิลปากร นางสาวเด่นดาว ศิลปานนท์ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ นายยุทธนาวรากร แสงอร่าม ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ นางสาวศุภวรรณ นงนุช ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ นางดวงสมร ปานบุญ เจ้าพนักงานพิพิธภัณฑ์ชำนาญงาน และนางสาวมัณฑนา ยุบล เจ้าพนักงานพิพิธภัณฑ์ชำนาญงาน เวลา ๑๖.๓๐ น. - ปิดการบรรยายภาพและข้อมูลจากเวบ กระทู้พันทิป culture.go.th ประติมากรรมพระพักตร์ทองคำฝังเพชร รุ่น ' ในหลวงของเรา' โครงการ My King ในหลวงของเรา โดยบริษัท เอสทีจี มัลติมีเดีย,National Geographic และมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมเปิดตัวประติมากรรมพระพักตร์ทองคำฝังเพชรขนาดใหญ่ รุ่น “ในหลวงของเรา ปกเกล้ามหาบารมี” ชิ้นเดียวในโลก ที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชพร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมบันทึก ประวัติศาสตร์ครั้งแรกในโลก กับสารคดีชุด “My King ในหลวงของเรา” รวบรวมพระอัจฉริยภาพทั้ง ๙ ด้าน พร้อมความประทับใจจาก ๖๖ นักเขียนกิตติมศักดิ์ ผ่าน “วิชาของพ่อ” เผยเตรียมสารคดีเผยแพร่ใน ๑๗๗ ประเทศทั่วโลกในปีหน้า นายจักรพงษ์ สุธีสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสทีจี มัลติมีเดีย จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์ National Geographic ในประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เอสทีจีฯ จัดทำโครงการประติมากรรมพระพักตร์ทองคำ รุ่น “ในหลวงของเรา ปกเกล้ามหาบารมี” ขึ้น เป็นครั้งแรกของโลกโดยประติมากรรมพระพักตร์ทองคำนี้ เป็นชิ้นงานศิลปะแผ่นภาพทองคำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำจากทองคำ ค่า ๙๙.๙% บรรจุภายในกรอบไม้คุณภาพสูงสั่งทำพิเศษ ขนาด ๔o x ๓๔.๕ เซนติเมตร พร้อมบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดง มีเพียง ๙๘ ชิ้น มูลค่าชิ้นละ ๓oo,ooo บาทเท่านั้น จะไม่มีการผลิตเพิ่มแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ บริษัท เอสทีจี มัลติมีเดีย จำกัด ได้จัดทำประติมากรรมพระพักตร์ทองคำ ชุดพิเศษ ทำจากทองคำ ค่า ๙๙.๙% จากสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมฝังเพชร ๙๙ เม็ด ที่ประเมินค่าไม่ได้เพียงชิ้นเดียวในโลก พร้อมเปิดให้ประชาชนได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิด ก่อนจะทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป อย่างไรก็ดี เอสทีจี ร่วมกับ National Geographic ผู้ผลิตสารคดีระดับโลก ที่มีอายุยาวนานกว่า ๑๒๕ ปี จัดทำสารคดีนำเสนอแนวคิด วิถีปรัชญา และพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านในรูปแบบสารคดี ชุด “My King ในหลวงของเรา” โดยเนื้อหาเป็นการรวบรวมพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวัน เฉกเช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่ครั้งวัยเยาว์จนเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ โดยรวบรวมพระอัจฉริยภาพของพระองค์ออกมาในรูปแบบ “วิชาของพ่อ” ผ่านการบอกเล่าจากเรื่องจริงและแรงบันดาลใจโดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กับการถ่ายทอดเรื่องราวแห่งพระราชประวัติ สะท้อนถึงอัครผลงานแห่งพระอัจฉริยภาพทั้ง ๙ ด้าน พร้อมความประทับใจจาก ๖๖ นักเขียนกิตติมศักดิ์ อาทิ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) วัดสระเกศฯ, ฐาปน สิริวัฒนภักดี,แก้วขวัญ วัชโรทัย, ขวัญแก้ว วัชโรทัย, ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์,พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์, ตัน ภาสกรนที ฯลฯ ถ่ายทอดอารมณ์แห่งความประทับใจด้วยการบรรยายไทยโดย ธงไชย แมคอินไตย์และบรรยายภาษาอังกฤษโดย คริสโตเฟอร์ ไรท์ พร้อมรวบรวมบันทึกอยู่ในบรรจุภัณฑ์ เป็นกรอบรูปสามมิติ พร้อมหนังสือและภาพยนตร์แห่งพระราชประวัติและวิชาของพ่อรวบรวมบันทึกอยู่ใน บรรจุภัณฑ์สีทอง เป็นกรอบรูปสามมิติ ประดับพระบรมสาทิสลักษณ์ในรูปแบบบลูเรย์ ควรค่าแก่พสกนิกรชาวไทยได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยเปิดให้จองได้ที่ร้านบูมเมอแรง ทุกสาขา, TV Direct หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.boomerangshop.com และ //www.mykingthailand.com นายจักรพงษ์ กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการประติมากรรมพระพักตร์ทองคำ รุ่น “ในหลวงของเรา ปกเกล้ามหาบารมี” และเปิดโอกาสให้ประชาชนคนไทยได้ร่วมสัมผัสพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านที่ ทรงมีต่อพสกนิกรคนไทย เอสทีจีฯ
เตรียมจัดงาน My King The Successes Story ขึ้น เพื่อเป็นการผลักดันให้เกิดพลังบวกกับคนไทยทั้งแผ่นดิน พร้อมเผยแพร่ในรูปแบบสารคดีผ่าน National Geographic ซึ่งมีเผยแพร่ใน 177 ประเทศทั่วโลกด้วย นอกจากนี้ เอสทีจีฯ ยังได้จัดทำโครงการ “ยิ้มให้พ่อ” โดยจัดทำผลิตภัณฑ์ยิ้มให้พ่อขึ้น ประกอบไปด้วย เสื้อโปโล (Polo) ชายและหญิง สีขาวและสีเหลือง “ยิ้มให้พ่อ”, เสื้อยืดคอวีสีขาวและสีเหลือง “ยิ้มให้พ่อ” และกระเป๋าผ้าสีขาวน้ำเงิน“ยิ้มให้พ่อ” โดยเปิดจำหน่ายที่ร้านบูมเมอแรงทุกสาขา, TV Direct,His&Her, ศูนย์หนังสือชั้นนำ อาทิ ซีเอ็ด, นายอินทร์ ฯลฯ ซึ่งรายได้จากการดำเนินโครงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้สัญลักษณ์ “ยิ้มให้พ่อ” และกิจกรรมสาธารณะด้านต่างๆ ให้กับผู้ด้อยโอกาสในสังคมจะนำสมทบทางมูลนิธิชัยพัฒนาต่อไปภาพและข้อมูลจากnaewna.com "ศิลปะเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖" มหาวิทยาลัยศิลปากร ประกาศผลการตัดสินการแสดงศิลปะเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖ นางสาวรุ้งกาญจน์ โถทอง นักศึกษาชั้นปีที่ ๔ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ประเภทศิลปกรรม จากผลงานชุด “เกลียวคลื่นสีส้ม” นายภูริพันธ์ คืดนอก นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ได้รับรางวัลผลงานยอดเยี่ยม ประเภทหัตถกรรมร่วมสมัย จากผลงาน “ไหลริน” การแสดงศิลปะเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ โดยการสนับสนุนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันจัดขึ้น โดยเชิญชวนให้ผู้สนใจที่มีสัญชาติไทยส่งผลงานเครื่องปั้นดินเผาเข้าร่วม ประกวด ปรากฏว่ามีผู้สนใจส่งผลงานรวมทั้งสิ้น ๒๖๗ คน จากจำนวนผลงาน ๓๒๒ ชิ้น แบ่งเป็นผลงานเครื่องปั้นดินเผาประเภทศิลปกรรม ๑๑๖ ชิ้น ประเภทหัตถกรรมประเพณี ๑๖ ชิ้น ประเภทหัตถกรรมร่วมสมัย ๑๔๔ ชิ้น และประเภทอุตสาหกรรม ๔๖ ชิ้น คณะกรรมการคัดเลือกและตัดสินประกอบด้วย ศิลปินแห่งชาติ อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปะ นักวิชาการศิลปะ และศิลปินอิสระ ได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินผลงานให้ได้รับรางวัล มีศิลปินรับรางวัล ดังนี้ เครื่องปั้นดินเผาประเภทศิลปกรรม รางวัลยอดเยี่ยม มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยนางสาวรุ้งกาญจน์ โถทอง รางวัลดีเด่น นายจำลอง สุวรรณชาติ นายดุริวัฒน์ ตาไธสง นายบุรินทร์ อินทะแสน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา โดยนางสาวชญานิษฐ์ พรหม-สุวรรณ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยนายอรรถพล จิระทัศนกุล วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง โดยนางสาวรุ่งนภา ยืนยงวนานนท์ นายสราวุฒิ วงษ์เนตร และนายสุรศักดิ์ แสนโหน่ง เครื่องปั้นดินเผาประเภทหัตถกรรมประเพณี รางวัลดีเด่น บริษัทเบญจเมธา เซรามิก จำกัด โดยนายเอ็มโซเฟียน เบญจเมธา และมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยนายศราวุฒิ โปนา เครื่องปั้นดินเผาประเภทหัตถกรรมร่วมสมัย รางวัลยอดเยี่ยม มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร โดยนายภูริพันธ์ คืดนอก รางวัลดีเด่น มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยนายสุธา-รักษ์ แสงเทศ และนายอุทัย เขนย เครื่องปั้นดินเผาประเภทอุตสาหกรรม รางวัลดีเด่น นางสาวกมลชนก ภาณุเวศย์ นางสาวปัทมาวดี จุลภักดิ์ และนางสาวสุวิไล คำพิลา ผลงานที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ นอกจากมีผลงานที่ได้รับรางวัลแล้ว ยังมีผลงานที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมแสดงอีก ๑๒๗ ชิ้น รวมทั้งผลงานของศิลปินรับเชิญ ในการนี้ มหาวิทยาลัยฯ ได้ขอพระราชทานอัญเชิญผลงานฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมในการแสดงครั้งนี้ด้วย ผลงานเครื่องปั้นดินเผาที่ได้รับรางวัล และผลงานของศิลปินรับเชิญ กำหนดจัดแสดงระหว่างวันที่ ๒๙ มกราคม – ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ณ ชั้น ๑ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ผลงานเครื่องปั้นดินเผาที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมแสดง กำหนดจัดแสดงระหว่างวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ – วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๖ ณ ชั้น ๒ หอศิลป์สนามจันทร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม และประมาณเดือนเมษายน ๒๕๕๖ จะนำผลงานเครื่องปั้นดินเผาไปจัดแสดงในงาน Bangkok International Gift Fair and Bangkok International Houseware ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานการแสดงศิลปะเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖ และพระราชทานรางวัลแก่ศิลปินที่ได้รับรางวัล ในวันจันทร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ ชั้น ๕ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน กรุงเทพฯภาพและข้อมูลจากเวบsu.ac.th art-centre.su.ac.th "ศิลปกรรม "คลับหน้าพระลานสัญจร"" นิทรรศการศิลปกรรม "คลับหน้าพระลานสัญจร" จ.เชียงใหม่ ผลงานของกลุ่ม "คลับหน้าพระลาน"ชมรมคนรักและทำงานศิลปะ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของคณะจิตรกรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วันที่ ๔ - ๒๗ มกราคม ๒๕๕๖ พิธีเปิดงานนิทรรศการ วันศุกร์ที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๘.oo น. ณ ห้องแสดงงานชั้น ๒ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ภาพและข้อมูลจากartbangkok.com "ภาพสะท้อนของธรรมชาติ" ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ๑ - ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
พิธีเปิด : วันศุกร์ที่ ๑ กมุภาพันธ์ ๒๕๕๖ (เวลา ๑๘.oo – ๒o.oo น.) ดำเนินงานและจัดแสดงโดย: JeOn Art Booth ศิลปิน :
ศิลปินรับเชิญ อังกฤษ อัจฉริยโสภณ, Gi-okJeon, กิติก้อง ติลกวัฒโนทัย, ปกิต บุญสุทธิ์, ทรงเดช ทิพย์ทอง, ศรีใจ กันทะวัง,ธัชชัย หงษ์แพง,อดุม ฉิมภักดี
ศิลปินสมาชิก JeOnArtBooth/Ae-JaChun, ภัทรสกนธ์ ลิมปนพงศเ์ทพ, Kyoung-AeKoo, พิธาน เตชะนิติ, สายใจ นิ่มนวล, Tae-SoonJeong, Young-AiKimภาพและข้อมูลจากgoplaymagazine.com thailandexhibition.com "Showcase จักรวาลของขวัญ" ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ TCDC นำเสนอไอเดียเลือกซื้อของขวัญในช่วงเทศกาลแห่งความสุขกับ งาน Showcase “จักรวาลของขวัญ” นิทรรศการขนาดย่อมจัดแสดง ๘o สุดยอดของขวัญ ที่ผ่านการคัดเลือกจากกิจกรรมออนไลน์ “ของขวัญหลากไอเดีย” ของผู้ผลิตที่ออกแบบสินค้าอย่างสร้างสรรค์ อาทิ ของตกแต่งบ้านแสนเก๋ กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม เสื้อผ้าแฟชั่น ตุ๊กตาทำมือ อุปกรณ์เครื่องเขียนลายการ์ตูนสุดน่ารัก พร้อมระบบ QR CODE บอกรายละเอียดข้อมูลสินค้าและข้อมูลการติดต่อผู้ผลิตสินค้า เพื่อการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ พบกับไอเดียของขวัญสุดสร้างสรรค์ภายใน “งาน Showcase จักรวาลของขวัญ” ตั้งแต่วันนี้ – ๑๓ มกราคม ๒๕๕๖ ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ TCDC ชั้น ๖ ดิ เอ็มโพเรียม ตั้งแต่เวลา ๑o.๓o – ๒๑.oo น.(ปิดวันจันทร์) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ TCDC โทร. o๒๖๖๔-๘๔๔๘ ต่อ ๒๑๓, ๒๑๔ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.tcdc.or.thภาพและข้อมูลจาก newsplus.co.th "ภาพวาดสื่อผสม All the Best" ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลา ซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ผู้บริหารโครงการนอร์ทเทิร์น วิลเลจ ขอเชิญทุกท่าน ร่วมชมนิทรรศการภาพวาดสื่อผสม All the Best ภาพวาดหลากหลายรูปแบบ ผลงานโดยศิลปินกลุ่ม Northern Art อาทิ จักรพันธุ์ ไชยจิตต์, พิมล สิงหาสิน ฯลฯ ในงาน “All the Best” ระหว่างวันที่ ๑ – ๓๑ มกราคม ๒๕๕๖ ณ ชั้น ๑ และชั้น ๒ โซนนอร์ทเทิร์น วิลเลจ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : สุนัดดา วัดอ่อน (เปิ้ล) แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) โทร. o๒-๖๖๗-๕๕๕๕ ต่อ ๔๑o๕ /โทรสาร o๒-๒๖๔-๕๕๗๕ Call Center o๒-๖๓๕-๑๑๑๑ภาพและข้อมูลจากnewswit.com "โชว์ห่วย โชว์เสน่ห์" แม็คโคร เชิญชวน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ร่วมออกแบบ ร้านโชห่วยไทยภายใต้แนวคิด “โชห่วย...โชว์เสน่ห์” เพื่อปรับปรุงร้านโชห่วยเดิม ให้เป็นสุดยอดร้านโชห่วย ชิงรางวัล MacBook Pro และ IPAD mini พร้อม เงินรางวัล มูลค่ารวม ๒oo,ooo บาท พร้อมนำผลงานสร้างเป็นร้านต้นแบบในงาน ตลาดนัดโชห่วย ครั้งที่ ๕ ระหว่างวันที่ ๒๑ - ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ ฮอล์ล ๒ - ๓ อิมแพค เมืองทองธานี รวมทั้ง เผยแพร่ผลงานในสื่อโฆษณาชั้นนำ ผู้สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่ วันนี้ - ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ในยุคที่ธุรกิจร้านค้าปลีกรายย่อยมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง และประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ ASEAN ในไม่ช้านี้ จึงมีความจำเป็นที่ทุกธุรกิจต้องสำรวจตัวเอง และเตรียมพร้อมรับ ความเปลี่ยนแปลง โดยการ เสริมจุดแข็ง สร้างจุดเด่นและเอกลักษณ์ให้กับร้านของตนเอง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในชุมชน และเพื่อความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ขอเป็นหนึ่งกำลังใจและแรงสนับสนุน จัดกิจกรรมประกวดการออกแบบและปรับปรุงร้าน โชห่วย...โชว์เสน่ห์ ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยขอเชิญผู้ที่สนใจ ทั้งนิสิต นักศึกษา บุคคลทั่วไป ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และมีแนวคิดที่ต้องการให้โชห่วยไทยเติบโตและอยู่คู่สังคมไทย มาร่วมออกแบบปรับเปลี่ยนโฉม ร้านค้าโชห่วยเดิมที่มีอยู่จริง ให้เป็น ร้านโชห่วยที่มีเสน่ห์และดีไซน์ที่ดึงดูดลูกค้าอย่างมีสไตล์แต่ยังคงรักษา เอกลักษณ์แบบไทยไทย และ สื่อถึงการเป็นสัญลักษณ์ของชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจให้ร้านค้าโชห่วยอื่น ๆ กล้าเปลี่ยนแปลง ผู้สนใจสามารถส่งใบสมัคร และผลงานการออกแบบ ที่ทำขึ้นจากคอมพิวเตอร์กราฟิก บนกระดาษขนาด A2 พร้อม ระบุ รายละเอียดวัสดุที่ใช้ และ ประมาณการตกแต่ง โดยร้านที่นำมาเป็นต้นแบบต้องเป็นร้านโชห่วยที่มีอยู่จริง และอยู่ในย่านชุมชนใกล้ที่พักอาศัย ขนาดของร้านตั้งแต่ ๑๘ - ๓๖ ตารางเมตร ผล งานออกแบบต้องสะท้อนถึงการใช้งานที่เหมาะสม สามารถนำไปใช้งานในเชิงธุรกิจได้ ผู้สมัครต้องส่งผลงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียน โดยระบุหน้าซอง ดังนี้ ประกวดการออกแบบ โชห่วย โชว์เสน่ห์ บริษัท สเพล็นดิด ออร์กาไนเซอร์ จำกัด ๑๖๘/๕๕ ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. ๑o๒๓o ผู้สนใจสามารถดูเงื่อนไขการประกวด หรือดาวน์โหลดใบสมัครที่ siammakro.co.th หรือ ขอรับใบสมัครได้ที่แม็คโครทุกสาขา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณวีรวัต และคุณลิปิการ์ o๒-๕๓๙-๒o๕๓ ต่อ 114 หรือ o๙๑-๑o๙-๖๒๓๒ บริษัท สเพล็นดิด ออร์กาไนเซอร์ จำกัด Email : Shohuay-contest@hotmail.com ศูนย์แม็คโครมิตรแท้โชห่วย โทร. o๒-๗๒๓-๑ooo กด ๒ภาพและข้อมูลจากmanager.co.th "ประเทือง เอมเจริญ" สมบัติเพิ่มพูนแกเลอรีมีความยินดีเสนอ ผลงานภาพวาดเกรยองบนกระดาษ จากสมบัติคอลเลคชั่น มากกว่า ๓๗ ชิ้น เริ่มตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๑๙ จนถึง ๒๕๔๗ โดย ประเทือง เอมเจริญ, ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พุทธศักราช ๒๕๔๘
ประเทือง เอมเจริญ เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘ ที่จังหวัด ธนบุรี เป็นศิลปินที่ศึกษาศิลปะด้วยตนเองอย่างมุ่งมั่น อดทน ด้วยการศึกษาค้นคว้างานทางศิลปะอย่างหนัก ศึกษาปรัชญาชีวิตทั้งศิลปะของอินเดีย จีนและศึกษาธรรมชาติ โดยเฉพาะ ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของพลังแสงสว่าง จนเกิดมุมมองในการสร้างสรรค์ ประเทือง เอมเจริญ เขียนถึงการวาดเส้น ในหนังสือ “ Drawings” พ.ศ. ๒๕๓๕ “ในการทำงานศิลปะตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ข้าพเจ้าได้ใช้การวาดเส้นเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ธรรมชาติและสร้าง ลักษณะเฉพาะตน นอกจากนั้น การวาดเส้นยังเป็นจุดของการเกิดสมาธิ การวาดเส้นจึงเปรียบเสมือนกุญแจที่จะไขไปสู่กระบวนการแห่งความงามของศิลปะ ที่ง่ายและตรงที่สุดการฝึกฝนงานวาดเส้นจะต้องพยายามกระทำให้ต่อเนื่องโดย ตลอด ตา มือ และ จิตใจจะต้องสัมพันธ์กันเป็นสมาธิ การวาดเส้นควรดำเนินตัวเองไปอย่างอิสระโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆไว้ก่อน ทั้งในด้านรูปแบบและการแสดงออก และเมื่อใดที่เรารู้สึกได้ถึงพลังที่ผ่านเข้าสู่เส้น จิตใจของเราจะพบกับความอิสระเบิกบาน ในขณะนั้นเราจะได้สัมผัสกับความงามของศิลปะ และ สามารถสร้างสรรค์ได้โดยไม่มีสิ้นสุด” (ไม่มีพิธีเปิดงาน) นิทรรศการ : ภาพวาดเกรยองบนกระดาษ
ศิลปิน : ประเทือง เอมเจริญ
วันที่ : ๔ มกราคม – ๔ มีนาคม ๒๕๕๖ สถานที่ : ชั้น ๒ ของหอศิลป์ สมบัติเพิ่มพูน แกลเลอรี
สอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมโทร : o๒-๒๕๔-๖o๔o-๖ภาพและข้อมูลจากwikalenda.com “พิมพ์เพลิน” ในปัจจุบัน สังคมมีความเครียดสูง ศิลปะจึงมีบทบาทที่สำคัญในการช่วยฟื้นฟูจิตใจของผู้คน งานนิทรรศการภาพพิมพ์ “พิมพ์เพลิน” ในครั้งนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อให้เห็นถึงความสนุกสนานในงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินที่รักในงานศิลปะ สร้างสรรค์ผลงานภาพพิมพ์ออกมาด้วยความเพลิดเพลิน เพื่อสื่อให้ผู้เข้าชมงานได้รู้สึกเช่นเดียวกัน และได้เพลินไปกับงานศิลปะอันหลากหลาย ได้มีความสุขที่ร่วมเข้าชมงาน ภายในงานประกอบด้วยผลงานภาพพิมพ์ของนิสิต สาขาวิชาศิลปศึกษา ภาควิชาศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ละงานมีแนวความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างกันออกไป แล้วแต่สิ่งที่แต่ละผู้สร้างสรรค์ต้องการจะสื่อ อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เรื่องของศีลธรรม แนวทางการดำเนินชีวิต ซึ่งสื่อผ่านออกมาทางภาพเพื่อสร้างความเพลิดเพลินและความสุนทรีต่อผู้รับ นิทรรศการ : "พิมพ์เพลิน " (Pimplern) ศิลปิน : นิสิตชั้นปีที่ ๓สาขาวิชาศิลปศึกษา ภาควิชาศิลปะ ดนตรี และนาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลักษณะงาน : ภาพพิมพ์ พิธีเปิดนิทรรศการ : วันจันทร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เวลา ๑๘.๓o น. ระยะเวลาที่จัดแสดง : ๒๕ กุมภาพันธ์ – ๑๒ มีนาคม 2556 ห้องนิทรรศการ : ห้องนิทรรศการชั้น ๒ ภาพและข้อมูลจากเวบjamjureeartgallery.blogspot.com "THAI NA TOWN – LITTLE OZ" โครงการศิลปะข้ามชาติที่กรุงเทพฯ โดย วิภู ศรีวิลาศ ณ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ ศูนย์วิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ – ๑๖ มกราคม ๒๕๕๖ การบรรยายโดยศิลปิน วันจันทร์ที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.oo-๑๕.oo น. ขอเชิญชาวไทยที่เคยไปออสเตรเลียร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการศิลปะข้ามชาติ Thai Na Town – Little Oz โดยร่วมเปิดใจกับศิลปินร่วมสมัย วิภู ศรีวิลาศ ว่าคิดถึงอะไรที่ประเทศออสเตรเลียมากที่สุด THAI NA TOWN – LITTLE OZ คือโครงการศิลปะที่จะขยายความเข้าใจด้านวัฒนธรรมระหว่างชาวไทยในออสเตรเลีย และชาวออสเตรเลียในประเทศไทย ผ่านประสบการณ์การโยกย้ายถิ่นฐานและการเรียนรู้วัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของพวกเขา พร้อมๆ กับเน้นย้ำถึงความสำคัญของวัฒนธรรมและสิ่งต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้น เป็นสิ่งที่เราเรียกว่า “บ้าน” “ผมหวังว่าโครงการนี้จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศออสเตรเลียและประเทศไทย” วิภูกล่าว โครงการนี้ประกอบด้วย ๒ ส่วน ส่วนแรก วิภูทำงานร่วมกับชาวไทยในซิดนีย์ ได้จัดทำไปแล้วที่นครซิดนีย์เมื่อเดือนมิถุนายน ส่วนที่สองจะจัดทำขึ้นที่กรุงเทพฯ ในเดือนพฤศจิกายนที่กรุงเทพฯ วิภูจะเชิญชวนชาวออสเตรเลียในประเทศไทยและชาวไทยที่เคยไปออสเตรเลียมาร่วมทำเวิร์คช็อปปั้นดิน โดยวิภูจะช่วยผู้ร่วมงานปั้นดินเป็นสิ่งที่พวกเขาคิดถึงมากที่สุดในประเทศออสเตรเลีย แล้วนำงานปั้นมาจัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ THAI NA TOWN – LITTLE OZ ที่หอศิลปวิทยนิทรรศน์ ศูนย์วิทยทรัพยากร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในเดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากงานปั้นดินของอาสาสมัครแล้ว นิทรรศการยังจะนำเสนอผลงานเซรามิคและงานสื่อผสมของวิภูอีกด้วย ซึ่งจะเป็นผลงานที่เปิดเผยความในใจของศิลปินว่าคิดถึงอะไรในเมืองไทยมากที่สุด “โครงการนี้เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ทำงานศิลปะมา” วิภูเปิดเผย “ผมได้ทำงานร่วมกับชุมชนย่อยๆ หลายชุมชนเพื่อสร้างงานที่จะจัดแสดงในครั้งนี้ และผมก็หวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับผู้ที่มาชมนิทรรศการด้วย เพราะมีผลงานหลายชิ้นที่ผู้ชมสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างงานได้” คุณปิยรัตน์ สุขศิริ เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมสถานทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการนี้ จะช่วยให้ผู้คนจากทั้งสองฝั่งเข้าใจกันและกันมากขึ้น อันจะนำมาซึ่งความสัมพันธ์อันงดงามและยั่งยืนระหว่างชาวออสเตรเลียและชาวไทย” คุณจิรศักดิ์ พุ่มสุวรรณ ชาวไทยที่พำนักอยู่ในออสเตรเลีย และเป็นหนึ่งในหลายๆ ท่านที่ได้ทำเวิร์คช็อปกับวิภูที่นครซิดนีย์ เล่าว่า “THAI NA TOWN – LITTLE OZ พาผมและครอบครัว เดินทางกลับไปหาความทรงจำเดิม ๆ หลังจากที่พวกเราเดินทางจากเมืองไทยมากว่าปีแล้ว” ดร. พลเดช ธีรภาพไพสิฐ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย Western Sydney ที่มาร่วมทำเวิร์คช็อปกับวิภูกล่าวว่า “การที่ผมมีโอกาสแบ่งปันความคิดลึกๆ ข้างในจิตใจ ทำให้ผมเกิดปฏิภาณในการสร้างสรรค์งานศิลปะ และที่สำคัญที่สุด ขบวนการนี้เป็นขบวนการที่จบลงอย่างมีความสุข” *สำหรับผู้สนใจที่จะร่วมโครงการ กรุณาตรวจสอบวัน เวลา สถานที่ และจองที่นั่งได้ที่ //www.vipoo.com ผู้สนใจสามารถเข้าทำเวิร์คช็อปได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เวิร์คช็อปใช้เวลาประมาณ ๑๕ - ๒o นาที ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของ THAI NA TOWN – LITTLE OZ ได้แก่รัฐบาลออสเตรเลีย ผ่านทาง Australia International Cultural Council ซึ่งเป็นองค์กรด้านการสร้างสรรค์ของ Department of Foreign Affairs and Trade และเครือจักรภพ ผ่านทาง Australia-Thailand Instituteภาพและข้อมูลจากเวบ portfolios.net "การเชื่อมต่อทางความคิดสร้างสรรค์ (Connected Creativity)" คลีเอทฟาวเดชั่น "CRE8 FOUNDATION" เป็นมูลนิธิที่ไม่แสวงหาผลกำไร มีเป้าหมาย ในการเสริมสร้าง แรงบันดาลใจเพื่อเด็กๆทุกชาติทุกภาษาผ่านศิลปะแห่งการร่วมมือ และแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันปัจจุบันได้เติบโตขึ้น เป็นประชาคมของศิลปินและอาสาสมัคร ซึ่งมีเครือข่ายทั่วโลก และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มูลนิธิคลีเอท ฟาวเดชัน ได้รับการสนับสนุนพื้นที่จากบ้าน ศิลปิลพำนับ Thaillywood Artist Residency เพื่อทำกิจกรรม สร้างสรรค์ร่วมกับเด็ก ๆ จากโรงเรียนหนองเกตุใหญ่ จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย คลีเอทเป็นศูนย์รวมของอาสาสมัครและศิลปิน ที่มีเป้าหมายในการเสริมสร้างแรงบันดาล ใจสร้าง ช่องทางให้เด็กๆจากพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้มีโอกาสสื่อสารและสร้างสรรค์ผลงานร่วม กันอันจะนำไปสู่การแบ่งปัน ทางความคิดและวัฒนธรรมซึ่งกันและกันเพื่อมุ่งสูความ กลมเกลียวผ่านสื่อ ศิลปะแห่งการร่วมมือร่วมใจ "collaborative art" นิทรรศการศิลปะของเราจัดขึ้นในพิพิธภัณฑ์ และศูนย์ศิลปะในหลากหลายประเทศ เป้าหมายคือนำ เสนอความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว กันของผลงานที่เกิดจากการเชื่อมต่อของ พลังสร้างสรรค์จากเด็กๆ กว่า ๓o ประเทศทั่วโลก และพวกเรารู้สึกเป็นเกียรติ อย่างยิ่งที่จะนำเสนอนิทรรศการ ล่าสุด ซึ่งจะจัดขึ้น เป็นครั้งแรกในประเทศไทยแก่ท่าน ในครั้งนี้เราได้รับการ สนับสนุนด้านพื้นที่จาก หอศลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งพิธีเปิดนิทรรศการจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ ๕ มกราคม เวลา 17.00 น. พร้อมกับกิจกรรมระดมทุนประมูล เงียบจากเด็กๆผู้บริจาค ผลงานและศิลปินจำนวน 10 ชิ้น โดยรายได้ทั้งหมด จะใช้เพื่อการจัดกิจกรรมศิลปะ สร้างสรรค์แก่เด็กๆ ในประเทศซึ่งด้อยโอกาสต่อไป งานจัดตั้งแต่วันที่ ๔ - ๑o ม.ค. ๒๕๕๕ เวลา: ๑๗.oo – ๒o.๓o น สถานที่: หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชั้น ๑ และ ชั้น Lภาพและข้อมูลจากเวบ bacc.or.th facebridge.net thailandexhibition.com "The Quilt of Love" ไม่บ่อยนักที่ผลงานสร้างสรรค์งานควิลต์บนผืนผ้าของศิลปินระดับโลกชาวญี่ปุ่น อย่างชิมะ มิชิโกะ และโนริโกะ โนซาวา จะถูกนำมาจัดแสดงในประเทศไทย แต่บัดนี้ผลงานของทั้งสองศิลปินได้นำมาจัดแสดงแล้ว ที่ห้องนิทรรศการ ชั้น ๔ โซอิง เลิฟเวอร์คลับ โชว์รูมสำนักงานใหญ่บริษัท วีน อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้แทนจำหน่ายจักรเย็บผ้า Elna และ Janome เพียงผู้เดียวในเมืองไทย ความอลังการของผืนผ้าขนาดใหญ่ที่ผ่านการตัดต่อด้วยผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อย ออกมาเป็นภาพศิลปะอันงดงามน่าประทับใจนี้ อาจทำให้ผู้ไม่รู้จักงานควิลต์เริ่มหลงใหลในศิลปะประเภทนี้ได้ไม่ยาก ศิริวรรณ วิลาสศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท วีน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หัวเรือใหญ่ของงาน เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจว่า จากการเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง มีโอกาสชมนิทรรศการงานควิลต์มากมาย และรู้จักศิลปินงานควิลต์หลายท่าน จึงเห็นว่างานควิลต์เป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นงานฝีมือที่สวยงาม เต็มไปด้วยความวิจิตรของการตัดเย็บ ตัวชิ้นงานแต่ละชิ้นสามารถสื่อสารถ่ายทอดความคิดและจินตนาการของศิลปินได้เป็นอย่างดี จนได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ และตัวศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานเองก็ได้รับการยอมรับในระดับโลก ผลงานของสองศิลปินที่นำมาจัดแสดงมีความแตกต่างกันตรงที่ ชิมะ มิชิโกะ มีความถนัดทำงานควิลต์ด้วยมือ ความโดดเด่นอยู่ที่การนำผ้ากิโมโนเก่าโบราณมาตัดต่อร้อยเรียงเรื่องราวลงบนผ้าผืนใหญ่ ทำให้ผลงานออกมาดูน่าหลงใหล นุ่มนวล และสะท้อนวัฒนธรรมความเป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ทำให้เธอได้รับรางวัลนานาชาติมากมาย และผลงานของเธอถูกนำมาจัดแสดงทั่วโลกมาแล้ว ส่วนทางด้านโนริโกะ โนซาวา โด่งดังเป็นที่รู้จักในงานควิลต์ในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ และเน้นหนักไปในทางแนวโมเดิร์นอาร์ต โดยโนริโกะได้นำประสบการณ์จากการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานควิลต์ รางวัลระดับโลกที่ได้รับมากมายมาจากความเป็นผู้เชี่ยวชาญสร้างสรรค์งานควิลต์ด้วยจักรเย็บผ้า ความใหม่และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักงานควิลต์ในประเทศไทย ทั้งที่เป็นศิลปะขั้นสูง หรือหากรู้จักก็ยังอยู่ในวงจำกัด ทำให้ทางบริษัท วีนฯ ผู้จัดนิทรรศการได้เชิญศิลปินและผู้เชี่ยวชาญศิลปะเรื่องผ้ามานั่งพูดคุยเพื่อให้มุมมองเกี่ยวกับงานควิลต์ เริ่มที่ ชลิต นาคะงัน ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ บอกว่า เมื่อเห็นงานควิลต์รับรู้ได้ถึงความงดงาม และเห็นประโยชน์ของงานควิลต์ในแง่การบำบัดจิตใจ หากใครได้ทำงานควิลต์ นำเศษผ้าชิ้นเล็ก ๆ มาตัดต่อ ก็เชื่อว่าจะทำให้จิตใจสงบลง นอกจากนี้ งานศิลปะของศิลปินควิลต์ญี่ปุ่นสองคนที่นำมาจัดแสดง ก็สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดี สำหรับเมืองไทยน่าจะพัฒนาควิลต์ให้ได้ไกลยิ่งขึ้น โดยการหยิบจับความเป็นไทยใส่ลงไป และพัฒนาจนเกิดเป็นเอกลักษณ์แบบไทยๆ ศ.ดร.น้ำฝน ไล่ศัตรูไกล อาจารย์จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า ในประเทศไทย การทำให้งานผ้ากลายเป็นงานศิลปะถือว่ายังน้อยมาก และอยากเห็นงานศิลปะบนผ้าแบบควิลต์ในประเทศไทยมีการใส่วัฒนธรรมไทยลงไปด้วย ระพี ลีละศิริ นักออกแบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านพัสตราภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าถึงความหลังเกี่ยวกับผ้าว่า ตอนเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยศิลปากร อาจารย์ให้ทำผลงานชิ้นสุดท้ายก่อนจบ เพื่อนคนอื่นๆ ทำงานวาด งานปั้น แต่ตนเองมีความสนใจเรื่องผ้า จึงทำงานปักบนผืนผ้าแทน เป็นการทำงานในรูปแบบเดียวกับงานควิลต์ ที่ไม่ได้มีแต่การตัดต่อผ้าเท่านั้น ผลงานที่ออกมาน่าพอใจมาก และแตกต่างจากผลงานคนอื่น ๆ ทุกวันนี้ยังเก็บผลงานชิ้นนี้ไว้ และเมื่อได้มาเห็นผลงานศิลปินญี่ปุ่นที่นำมาจัดแสดงในประเทศไทย ก็อยากให้ประเทศไทยมีพัฒนาการในงานควิลต์ที่ก้าวหน้าขึ้น กฤษณ เจนสุดใจ ดีไซเนอร์ผลิตภัณฑ์แม่ฟ้าหลวง ซึ่งมีผลงานนำผ้าชาวเขามาออกแบบในรูปทรงใหม่ กล่าวว่า เมื่อได้ชมผลงานควิลต์ของศิลปินระดับโลกที่นำมาจัดแสดง ได้รับรู้ถึงความวิริยอุตสาหะของศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงาน และพอได้มาเห็นก็ทำให้เกิดแรงบันดาลในกับตนเองในระดับหนึ่ง ทำให้คิดว่าต่อไปน่าจะนำเศษผ้าจากโรงงานผลิตเสื้อผ้าของแม่ฟ้าหลวงมาแปรสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบทำนองเดียวกับงานควิลต์ ผู้สนใจศิลปะงานควิลติ้ง สามารถเยี่ยมชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา o๘.oo-๑๗.oo น. ได้จนถึงงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๖ หรือสอบถาม โทร.o๒-๒๘๕-๒๙๑๒-๑๖ อีเมล์ webmaster@sewingloverclub.com.ภาพและข้อมูลจากเวบ thaipost.net smesreport.com บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_HavaiiFree TextEditor
Create Date : 06 มกราคม 2556
0 comments
Last Update : 7 มกราคม 2556 19:14:32 น.
Counter : 6626 Pageviews.