“ข้าวพันผัก” ทำเงินสูตร “เมืองลับแล”
หลายอาชีพค้าขายอาหารบางทีก็เกิดจากของกินที่คนขายคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน นำมาดัดแปลงใหม่ ให้มีสีสันและรสชาติที่ฉีกออกไป ก็สามารถสร้างรายได้ สร้างงาน-สร้างอาชีพได้อย่างน่าทึ่ง และวันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” จะพาไปรู้จักอาหารพื้นบ้านเมืองลับแล “ข้าวพันผัก” ที่นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารสูงแล้ว ยังทำขายเป็นอาชีพได้สบาย ๆ
ไพรัตน์ วิชัยรัตน์ อายุ 55 ปี เจ้าของกิจการร้าน “ป้อม ข้าวพันผัก” กล่าวถึงจุดเริ่มต้นว่า ที่จริงแล้วมีอาชีพรับราชการครูอยู่ใน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้าน ที่มาเปิดร้านขายข้าวพันผักก็เนื่องจากเงินเดือนครูไม่พอต่อค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ค่าเล่าเรียนของลูกนับวันมีแต่สูงขึ้น จึงจำเป็นต้องมองหาอาชีพเสริม
“ข้าวพันผัก” นั้น เดิมทีเป็นอาหารหลักของชาว อ.ลับแล ซึ่งเกิดจากภูมิปัญญาของคนในสมัยเก่า ที่คิดค้นการถนอมอาหาร และอาหารที่ว่านี้ก็คือ “ข้าวแคบ” ที่มีลักษณะเป็นแผ่นแป้งข้าวเจ้าบดละเอียด ผสมกับน้ำเกลือและงาคั่ว แล้วตากแดดจนแห้ง เก็บไว้รับประทานได้นาน ชาวบ้านมักนิยมห่อไปรับประทานกันตามท้องไร่ท้องนาเวลาออกไปทำงาน หรือนำข้าวแคบมาดัดแปลงพันกับผัดหมี่สำหรับรับประทานเป็นอาหารว่าง และอาจมีบางคนชอบทานตอนนึ่งแป้งสุกแล้วนำมาม้วนรับประทานเลย โดยเรียกว่า “ข้าวพัน”
“สาเหตุที่เลือกขายข้าวพันผัก เพราะเป็นอาหารที่มีมานานและขึ้นชื่อของชาวอุตรดิตถ์ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคจากถิ่นอื่นมากนัก ก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และช่วยเผยแพร่ บวกกับกระแสรักษาสุขภาพกำลังบูม ผมจึงทดลองนำผักและส่วนประกอบอื่นที่มีคุณค่าทางโภชนาการมาใส่ จึงใช้ชื่อว่าข้าวพันผักจนเป็นที่รู้จักไปทั่ว เป็นอาหารที่ทานแล้วไม่อ้วน ปัจจุบันเปิดร้านขายมาได้ 8 ปีแล้ว ขายทั้งที่โรงเรียนลับแลวิทยาคม ที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และออกร้านขายตามงานต่าง ๆ”
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขายก็มี... หม้อปล่องหรือซึ้งนึ่ง,ผ้าขาวบาง,เต้า,ไม้ไผ่เหลาเป็นใบพาย,มีด, เขียง,หม้อสเตนเลส,กะละมัง,ตะแกรง,ทัพพี,เตาแก๊ส,ถาด บางอย่างก็หยิบฉวยได้จากในครัว
ส่วนวัตถุดิบที่ใช้ประกอบด้วย... แป้งข้าวเจ้า,ไข่ไก่สด,ผักต่าง ๆ เช่น กะหล่ำปลี แครอท ผักบุ้ง คะน้า ฝักทอง ผักกาดขาว,วุ้นเส้น,ผักชีฝรั่ง,ขึ้นฉ่าย,เนื้อหมูสับ,กระเทียมเจียว,ไข่เจียวฝอย, แคบหมูไร้มัน,เต้าหู้,เกลือ และน้ำสะอาด และก็มีน้ำจิ้มที่ใช้ซอสปรุงรส,ซอสพริก,น้ำจิ้มสุกี้
ข้าวพันผักมีทั้งสูตรดั้งเดิม และสูตรสุกี้ ซึ่งจะแตกต่างกันที่น้ำจิ้มและส่วนผสมนิดหน่อย หากเป็นสุกี้ จะใส่วุ้นเส้นและใช้น้ำจิ้มสุกี้ ถ้าเป็นสูตรดั้งเดิมก็ราดด้วยซอสปรุงรสและซอสพริก ขายในราคาชุดละ 20 บาท
ขั้นตอนการทำ “ข้าวพันผัก” เริ่มจาก นำแป้งข้าวเจ้าผสมกับน้ำ คนละลายให้เป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ (หรือจะใช้แป้งหมักขนมจีนก็ได้)ต่อไปก็เตรียมส่วนผสมอื่นให้พร้อม เช่น ผักนำมาล้างแล้วหั่นตามขนาดที่ต้องการ วุ้นเส้นแช่น้ำแล้วตัดให้สั้น ไข่ทอดแล้วหั่นฝอย และไข่อีกส่วนหนึ่งก็ตีให้ฟูเตรียมไว้ละเลงบนแป้ง กระเทียมก็เจียวเตรียมไว้
จากนั้นนำหม้อปล่องหรือซึ้งนึ่งใส่น้ำให้เลยครึ่งหม้อ ปิดด้วยผ้าขาวบาง ผูกขึงผ้าด้วยเชือกให้ตึง นำหม้อขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเดือดใช้ทัพพีตักแป้งที่เตรียมไว้ละเลงบนผ้าขาวระอุน้ำให้เป็นแผ่น ใช้ฝาครอบปิดไว้สักครู่ เปิดฝาออกแล้วละเลงไข่ที่ตีไว้ทับลงบนแป้ง ปิดฝาไว้อีกสักครู่พอไข่สุก จากนั้นก็นำผัก และส่วนผสมอื่น ๆ ใส่ลงไป ปิดฝาอีกครั้ง ประมาณ 3 นาที พอผักสุกก็ใช้ไม้พายพับแป้งห่อพันผักให้เรียบร้อย เท่านี้ก็เสร็จ
เวลารับประทานก็ปรุงรสด้วยซอสภูเขาทอง กับซอสพริก แล้วโรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง ไข่เจียวฝอย เต้าหู้ และแคบหมู ทานกับกระเทียมดองโขลกกับพริกสดปรุงด้วยน้ำตาลเล็กน้อยและน้ำกระเทียมดอง ถ้าเป็นสูตรสุกี้จะโรยด้วยผักขึ้นฉ่ายแทนผักชีฝรั่ง ปรุงรสด้วยน้ำจิ้มสุกี้ ส่วนขั้นตอนอย่างอื่นก็เหมือนกัน
ใครแวะเวียนไปที่อุตรดิตถ์ ต้องการพิสูจน์เมนูสุขภาพ “ข้าวพันผัก” ก็ไปได้ที่ร้าน “ป้อม ข้าวพันผัก” 1/23 ถนนเจษฎาบดินทร์เหนือ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ หรือต้องการติดต่อสอบถามอะไรกับ คุณครูไพรัตน์ทางโทรศัพท์ ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 0-9436-3108, 0-6991-6054
“ของกิน-ของใช้พื้นถิ่น” บางทีก็กลายเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ !!.
เชาวลี ชุมขำ / ลัดดาวรรณ์ อนันเต่า : รายงาน ข้อมูลข่าวจาก เดลินิวส์
Create Date : 20 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 20 ธันวาคม 2551 6:17:46 น. |
|
8 comments
|
Counter : 11488 Pageviews. |
|
|
|