Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 
27 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
‘โจ๊กกวางตุ้ง’ สูตรเด็ด..รุ่งได้ทั้งเช้า-ค่ำ



“ช่องทางทำกิน” วันนี้ทางทีมงานมีข้อมูลอาชีพการทำ-การขาย “โจ๊กกวางตุ้ง”มานำเสนอ
ซึ่งโจ๊กนั้นเป็นเมนูอาหารที่ทานได้ทุกเพศทุกวัย
สามารถทำขายได้ตั้งแต่เช้าตรู่ ไปจนถึงช่วงกลางคืนดึกดื่น...

เจ๊รัตน์-รัตนมณี กุลกิตติรังสี ทายาทผู้สืบทอดสูตรดั้งเดิม “โจ๊กกวางตุ้ง” ที่ขายมานานกว่า 20 ปี
เล่าให้ฟังว่าเคยทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนมาก่อน ทำงานประจำอยู่ในบริษัทส่งออกแห่งหนึ่ง
ซึ่งแม้ว่าค่าตอบแทนและตำแหน่งจะอยู่ในขั้นน่าพอใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็รู้สึกเบื่อ
คิดอยากมีธุรกิจของตนเอง ประกอบกับเพิ่งคลอดลูกด้วย จึงตัดสินใจลาออกจากงานมาเลี้ยงลูก
และยึดอาชีพขายโจ๊กสืบทอดจากแม่สามี

“คุณแม่สามีถามว่าอยากจะรับช่วงทำโจ๊กขายต่อหรือเปล่า เพราะท่านอายุมากแล้ว
ซึ่งถ้าไม่มีคนรับช่วงต่อก็จะปิดกิจการ เพราะลูกชายและลูกสาวทำงานประจำกันหมด
เห็นว่าน่าเสียดายทั้งสูตรโจ๊กและลูกค้าที่มีอยู่ จึงรับปาก
จึงเริ่มเรียนรู้สูตรและขั้นตอนที่คุณแม่สามีถ่ายทอดให้ จากนั้นก็ทำต่อเนื่องเรื่อยมา”

สำหรับวัสดุ-อุปกรณ์ในการประกอบอาชีพทำโจ๊กขาย เจ๊รัตน์บอกว่า
มีอาทิ หม้อต้ม (เบอร์ 50 และเบอร์ 55), เตาแก๊ส, กะละมัง, ช้อนสแตนเลส, ถาด, ทัพพี, เขียง, มีด,
ไม้พาย, กระบวยสแตนเลสหูยาว (ใช้สำหรับปรุงโจ๊ก), กระชอน และอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดอื่นๆ จากในครัว



“โจ๊กกวางตุ้ง” มีส่วนผสมหลักดังนี้
ปลายข้าวหอมมะลิใหม่ 3 กิโลกรัม
เนื้อหมูติดมัน 3 กิโลกรัม
กระดูกสันหลัง (เอียเล้ง) 3 กิโลกรัม
เกลือป่น 1 ถุง
ซุปก้อน 2 ก้อน
รากผักชี 100 กรัม
กระเทียม 1 หัว
ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ
แป้งมัน, ไข่ไก่สด, ไข่เยี่ยวม้า, กระเพาะหมู, ไส้อ่อน, ตับหมูสด

นอกจากนี้ต้องมี เส้นหมี่ขาว นำมาทอดเตรียมไว้ โดยนำเส้นหมี่ไปแช่น้ำให้นุ่ม
ก่อนนำใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ หั่นเป็นเส้นสั้นๆ นำไปทอดในน้ำมันที่เดือด
พอเส้นพองตัวสุกใช้กระชอนตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
พอเส้นเย็นตัวลงให้นำไปบรรจุใส่ถุงพลาสติกเล็กๆ สำหรับใส่โจ๊ก 1 ชาม
ส่วนผักโรยหน้าก็จะมีต้นหอมซอยกับขิงซอย ซึ่งควรจะซื้อมาซอยเอง
เพราะจะมีความหอม สด และสะอาด

ขั้นตอนการทำโจ๊กกวางตุ้ง เริ่มจากนำปลายข้าวหอมมะลิมาแช่น้ำทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง
นำมาซาวล้างประมาณ 1-2 น้ำ นำปลายข้าวที่ซาวแล้วมาใส่ภาชนะเตรียมไว้ จากนั้นทำการต้มน้ำซุป
การต้มน้ำซุปให้นำกระดูกสันหลังหรือเอียเล้ง ที่ล้างสะอาดแล้วมาใส่หม้อต้มเบอร์ 50
ใส่น้ำสะอาดให้เต็ม จากนั้นใส่กระเทียมทุบ รากผักชี เกลือป่น ซีอิ๊วขาว ซุปก้อน ตามอัตราส่วนข้างต้น
และทำการต้มด้วยไฟอ่อนถึงปานกลางไปเรื่อย ๆ

จากนั้นนำไส้อ่อนกับกระเพาะมาล้างขยำกับเกลือ เพื่อดับกลิ่นคาว ล้างให้สะอาดจนความมันหมด
นำมาต้มในน้ำซุปที่เตรียมไว้ให้สุกเปื่อยกำลังดี ตักขึ้นมาแล้วใช้มีดหั่นเป็นชิ้นพอคำใส่ภาชนะพักไว้
ส่วนตับหมูที่ล้างแล้วเมื่อหั่นเป็นชิ้นพอคำให้ใส่ตะกร้อ และนำมาลวกในหม้อน้ำซุปเช่นกัน
โดยลวกแค่พอสุก

เมื่อน้ำซุปได้ที่แล้วจะมีรสชาติหวานธรรมชาติ ให้ตักกระดูกสันหมูออกใส่ภาชนะ
กรองน้ำซุปด้วยผ้าขาวบางใส่ลงไปในหม้อเบอร์ 55 จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟต้มให้เดือด
แล้วนำปลายข้าวที่เตรียมไว้ใส่ลงไปต้ม ขณะต้มก็คนไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ข้าวโจ๊กติดก้นหม้อ
เคี่ยวจนเนื้อโจ๊กขาวนุ่มกำลังดี ไม่เหลวและไม่ข้นจนเกินไป

“ทีเด็ดของโจ๊กอยู่ที่หมูสับ”
ซึ่งปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น เกลือ กระเทียมสับ และแป้งมันนิดหน่อย ให้ใช้มีดสับไปเรื่อยๆ
จนเนื้อหมูกับเครื่องปรุงเข้ากันดี ให้สังเกตหมูสับจะเกาะกันเป็นก้อน เป็นอันใช้ได้
นำไปหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อนำมาต้มกับโจ๊ก หมูจะนุ่มละมุนลิ้น อร่อยกำลังดี

“เวลาจะตักขายให้ตักข้าวจากหม้อใหญ่ใส่ลงในหม้อเล็กหูจับยาว นำขึ้นตั้งไฟ
ใช้ช้อนตักหมูสับพอคำใส่ลงไป ต้มให้ข้าวเดือดและหมูสุกดี เทใส่ชาม โรยผัก พริกไทย
พร้อมเสิร์ฟกับเส้นหมี่ทอด” เจ๊รัตน์กล่าว และว่าปัจจุบันลูกค้านิยมทานโจ๊กรสจัดจ้าน
จึงต้องเตรียม พริกดอง พริกป่น ซีอิ๊วขาว ไว้บริการด้วย

ราคาขาย “โจ๊กกวางตุ้ง” เจ้านี้ ไม่ใส่ไข่ 20 บาท, ใส่ไข่ 25 บาท, ใส่ไข่เยี่ยวม้า 30 บาท
เวลาเปิดร้านขายตั้งแต่ตี 5 ถึงประมาณ 9 โมงเช้า
โดยไข่นั้นมีให้ลูกค้าเลือกทั้งไข่ดิบ-ไข่ลวก แล้วแต่จะชอบ

สนใจ “โจ๊กกวางตุ้ง” เจ๊รัตน์ ทางไปร้านนี้เข้าซอยรัชดา-ท่าพระ ซอย 5 หรือ 15 ก็ได้
เข้าซอยแล้วตรงไปเรื่อยๆ จนผ่านคอนโดฯเปี่ยมรัตน์ เลี้ยวขวาแล้วตรงไปจนเจอแฟลตสีน้ำเงิน-ส้ม
ก็จะเจอร้าน หรือสอบถามเส้นทางได้ที่ โทร.08-9530-6950
ขอให้โทรฯ เฉพาะช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ช่วงอื่นทางเจ้าของร้านไม่สะดวก


เชาวลี ชุมขำ :รายงาน / จเร รัตนราตรี :ภาพ
ข้อมูลโดย : //www.dailynews.co.th



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 20 มีนาคม 2554 23:13:02 น. 4 comments
Counter : 13643 Pageviews.

 
มาเยี่ยมชมค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:07:30 น.  

 
มีวิธีทำให้ด้วย...น่ารักจริงๆ เลย


โดย: +DidYouKnowMe+ วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:44:41 น.  

 
ขอเอาสูตรไปลองทำบ้างนะคะ ขอบคุณค่า


โดย: tonpor (kosak ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:58:33 น.  

 


โดย: OFFBASS วันที่: 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:44:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.