Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 
8 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
กระเพาะปลาน้ำแดง 3 สูตร +เคล็ดลับ



ส่วนผสม
กระเพาะปลา 1 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำจนนิ่มแล้วผ่าครึ่ง 1 ถ้วย
หน่อไม้หั่นชิ้น 1 ถ้วย
ไข่นกกระทา 1 ถ้วย
ปีกกลางไก่ 1 ถ้วย
ซีอิ๊วดำ ½ ถ้วย
ซีอิ๊วขาว ½ ถ้วย
แป้งมันละลายน้ำ 1 ถ้วย
ผักชีซอย 1 ถ้วย
เกลือป่นเล็กน้อย
น้ำตาลทรายเล็กน้อย

วิธีทำ
1. ตั้งหม้อใส่น้ำใช้ไฟแรงพอน้ำเดือดนำกระเพาะปลาลงต้มให้สุก ใส่เกลือเล็กน้อย
เมื่อสุกแล้วนำขึ้นบีบน้ำออกให้หมดแล้วพักไว้

2. ตั้งหม้อน้ำอีกครั้งใช้ไฟกลาง
ใส่เห็ดหอม หน่อไม้ กระเพาะปลา ไข่นกกระทาและปีกกลางไก่ ต้มต่อไปจนน้ำเดือด

3. ใส่เครื่องปรุงชิมรสให้ได้ตามชอบ ต้มเคี่ยวจนกระทั่งส่วนผสมทั้งหมดสุกและเข้ากันดี
4. ค่อยๆใส่แป้งมันที่ละลายน้ำแล้วลงไป ค่อยๆคนอย่าให้เป็นก้อน คนต่อจนน้ำเหนียวข้นดีแล้วยกลง
5. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชีซอย และพริกไทยป่น ทานร้อนๆ



กระเพาะปลาน้ำแดง สูตรหมึกแดง

เครื่องปรุง :
น้ำมันพืช สำหรับทอด
กระเพาะปลา 20 กรัม
แป้งข้าวโพดละลายน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 1½ ถ้วยตวง
กระเทียมทุบ 2 กลีบ
รากผักชีทุบ 2 ราก
น้ำแช่เห็ดหอม ½ ถ้วยตวง
ยอดมะพร้าวหรือหน่อไม้ไผ่ตง ต้มสุก หั่นยาวๆ ½ ถ้วยตวง
เห็ดหอม แช่น้ำจนนิ่ม บีบน้ำออกให้หมด หั่นซอย 2-3 ดอก
เลือดหมู
ไข่นกกระทา
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
ผักกาดหอม ล้างน้ำ ฉีกพอคำ 3-4 ใบ
ผักชี ซอย สำหรับโรยหน้า
ต้นหอม ซอย สำหรับโรยหน้า
เนื้อปู ลวกสุกแล้ว 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสเปรี้ยว 1½ ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ :
1. ใส่น้ำมันในกระทะตั้งไฟ ให้ร้อน ใส่กระเพาะปลา ทอดให้สุก เหลือง ตักขึ้น สะเด็ดน้ำมัน
นำไปล้าง น้ำ และบีบน้ำมันออกให้หมด เพื่อไม่ให้เหม็นหืน พักไว้

2. นำแป้งข้าวโพดมาละลายในน้ำ (ไม่มากนัก) พักไว้

3. นำหม้อตั้งไฟ พอร้อนเติมน้ำซุป ใส่กระเทียม รากผักชีต้มให้เดือด
ใส่กระเพาะปลา ยอดมะพร้าว หรือหน่อไม้ไผ่ตง เห็ดหอม เลือดหมู ไข่นกกระทาต้มสุก
ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำมันหอย พริกไทย คนให้เข้ากัน ทำให้ซอสเหนียว
โดยใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายไว้แล้วลงไป คนให้น้ำข้นเล็กน้อย ปิดไฟ ยกลง

4. เสริฟ์ในถ้วยรองด้วยผักกาดหอม ราดด้วยกระเพาะปลา
แต่งหน้าด้วยผักชี ต้นหอม และเนื้อปู เสริฟ์พร้อมซอสเปรี้ยว




"กระเพาะปลาน้ำแดง" เพื่อสุขภาพ เพิ่มจุดขาย !!

การขายอาหารการกินในปัจจุบัน ไม่ว่าจะร้านเล็ก-ร้านใหญ่
นอกจากราคาเป็นธรรมใส่ใจเรื่องความสะอาดแล้ว ควรให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพผู้บริโภคด้วย
ซึ่งกับ “กระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วย” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอวันนี้
ก็ใส่ใจสุขภาพลูกค้าจนเป็นจุดขายที่ดีทีเดียว...

กระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วย” เจ้านี้ ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาสำหรับคนรักสุขภาพ
ผู้ปรุงขายนั้นเป็นอดีตข้าราชการของสถาบันมะเร็งฯ ในตำแหน่งโภชนากรดูแลอาหาร ผู้ป่วย
เมื่อเกษียณอายุราชการแล้วก็เปิดกิจการเล็กๆ ขายกระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าวฯ
และก็เป็นที่นิยมของลูกค้ามากทีเดียว

อา รยา ปั้นพิพัฒน์ หรือ ป้าเจียม เจ้าของสูตร เล่าว่า
ทำกระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วยขายมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 ก็เป็นเวลากว่า 9 ปีแล้ว
กระเพาะปลาที่ทำขายนั้น นอกจากเน้นความอร่อยแล้วยังให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพด้วย
จะไม่ใส่เครื่องใน ใช้ยอดมะพร้าวแทนหน่อไม้ เสริมด้วยเม็ดแปะก๊วยซึ่งดีต่อสุขภาพ
และจะไม่ใส่น้ำปลาและชูรส ที่สำคัญจะไม่ใส่สารกันบูด แต่แป้งก็ไม่มีการคืนตัว

สำหรับอุปกรณ์ในการทำกระเพาะปลาน้ำแดงขายนั้น
ถ้าทำขายเล็กๆ อุปกรณ์การทำก็เป็นพวกเครื่องครัวต่างๆ เช่น เตาแก๊ส หม้อ จาน ฯลฯ
และก็ควรต้องมีหม้อใส่กระเพาะปลาขายโดยเฉพาะด้วย

ส่วนสูตรและวิธีทำกระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วยเจ้านี้ เริ่มที่ทำน้ำซุป
โดยใส่น้ำสะอาดในหม้อเบอร์ 40 ต้มน้ำให้เดือด
จากนั้นใส่โครงไก่หักครึ่ง 2 กก. รากผักชี 200 กรัม และพริกไทยดำ 200 กรัม
ปรุงรสด้วยซอส 2 ถ้วย ซีอิ๊ว ½ ถ้วย และน้ำตาลกรวด 500 กรัม น้ำซุปนี้ต้มเคี่ยวประมาณ 3 ชั่วโมง

เมื่อขั้นตอนการต้มน้ำซุปเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการทำกระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วย
โดยใส่กระเพาะปลา 1,500 กรัม
(แช่น้ำให้นุ่ม ต้มให้สุก ล้างด้วยน้ำเย็น บีบให้พอหมาดๆ แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ)
แล้วใส่ เห็ดหอม 300 กรัม (แช่น้ำให้นิ่ม และหั่นเป็นชิ้นๆ เช่นกัน)

ใส่ยอดมะพร้าวหั่นต้ม 1.5 กก. จากนั้นค่อยๆ ละลายแป้งท้าวยายม่อมและแป้งถั่วอย่างละ 200 กรัม
กับน้ำในปริมาณที่พอประมาณ ดูว่าไม่ใสเกินไป-ไม่ข้นเกินไป ละลายแป้งแล้วก็ใส่ลงไปในหม้อ
ตามด้วยใส่เลือดไก่ 5 ถ้วย ซึ่งต้องล้าง และต้มให้สุกเสียก่อน จากนั้นใส่ไข่นกกระทาต้ม 50 ฟอง
เท่านี้ก็เรียบร้อยไปส่วนหนึ่ง

ในส่วนของเม็ดแปะก๊วยนั้น จากสูตรส่วนผสมข้างต้น
จะใช้ประมาณ 1.5 กก. (ล้างให้สะอาด และต้มให้สุก) โดยจะแยกไว้ต่างหากไม่ใส่ผสมเลยทีเดียว
และรวมถึงเส้นหมี่ลวกสุกกับผักชีหั่น ที่ก็แยกไว้เช่นกัน

นอกจากนี้ก็ต้องเตรียมน่องไก่และปีกไก่ตุ๋น 2 กก.
(การตุ๋นน่องไก่หรือปีกไก่นั้น ให้นำลงต้มพร้อมกับน้ำซุปกระเพาะปลาให้สุกก่อน
เมื่อน่องไก่หรือปีกไก่สุกแล้ว ก็ให้ตักออกมาใส่หม้อตุ๋นอีกใบต่างหาก
โดยตุ๋นด้วยน้ำซุปกระเพาะปลาที่แบ่งมา และปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำพอประมาณ ตุ๋นไปจนงวดก็เป็นอันใช้ได้)

การขาย ก็ตักกระเพาะปลาใส่ถุงหรือชาม ขายชุดละ 25 บาท
โดยกะปริมาณกระเพาะปลา ยอดมะพร้าว เส้นหมี่ และแป้ง ให้พอดีๆ
ใส่ไข่นกกระทา 2 ฟอง, น่องไก่หรือปีกไก่ 1 ชิ้น และเม็ดแปะก๊วยต้มจำนวนหนึ่ง
โรยหน้าด้วยผักชีซอย และพริกไทย เสิร์ฟ-ขายพร้อมเครื่องปรุง อาทิ น้ำตาลทราย, จิ๊กโฉ่ว

จากปริมาณส่วนผสมที่ว่ามาข้างต้นนั้น เจ้าของสูตรนี้บอกว่า
ถ้าขายหมดจะมี รายได้ประมาณ 2,000 บาท โดยต้นทุนจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท
ซึ่งก็นับว่าเป็นเมนูอาหารที่สร้างรายได้น่าสนใจทีเดียว

ใครสนใจ “กระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วย
สูตรของป้าเจียม-อารยา อยากชิม หรือต้องการติดต่อไปออกร้าน
ก็ติดต่อสอบถามไปได้ที่ โทร. 0-2526-5681, 08-1699-7505, 08-9484-7167
ส่วนใครที่ได้ไอเดียทำกินจากอาหารที่เน้นสรรพคุณ เพื่อสุขภาพเป็นจุดขาย ก็รีบฝึกฝนเพื่อทำขาย
อย่ารอช้า !!.




ล้างกระเพาะปลาไม่ให้มีกลิ่นน้ำมัน
คิดจะทำอาหารเมนูเกี่ยวกับกระเพาะปลาทั้งที
ก็ต้องมาเจอกับปัญหากลิ่นคาวน้ำมันของกระเพาะปลา ที่ติดแน่นและล้างยาก
วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีแก้มาฝาก...

การล้างกระเพาะปลาให้หมดกลิ่นน้ำมัน คือ เริ่มแรกให้แช่กระเพาะปลาให้นิ่ม
และล้างน้ำทิ้งสักหนึ่งรอบก่อน บีบกระเพาะปลาให้สะเด็ดน้ำ
จากนั้นต้มน้ำร้อน แล้วนำกระเพาะปลาใส่ลงไป
ตามด้วยขิงแก่หั่นเป็นแผ่นๆ ทุบพอแตก (ให้ใส่เยอะๆ) ต้มไปสักพัก พอกระเพาะปลาพองตัวใช้ได้
ค่อยยกลงเทใส่ตะกร้าหรือกระชอนเพื่อเป็นการถ่ายน้ำร้อนออก แล้วล้างตามด้วยน้ำเย็นอีกสัก 2 ครั้ง
แล้วบีบกระเพาะปลาให้สะเด็ดน้ำ

เพียงเท่านี้ก็จะได้กระเพาะปลาที่ปราศจากกลิ่นคาวน้ำมันแล้ว.


ที่มาข้อมูล :
//www.horapa.com
//v2.zmeal.com
//www.dailynews.co.th
//www.thaismeplus.com
//www.mcdang.com
//new.goosiam.com



Create Date : 08 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 20 มีนาคม 2554 11:17:38 น. 2 comments
Counter : 62550 Pageviews.

 
ช่วย!!!!!!!! ด้วยค่ะ อรทอดกกระเพาะปลาแล้วมันไม่ฟูเหมือนที่เค้าวางขายกันค่ะ อยากทราบวิธีทอดให้กระเพาะปลาขึ้นฟูค่ะ ตอนนี้อรมีกระเพาะปลาริวกิวแห้งอยู่ค่ะ อยากทราบวิธีและขั้นตอนที่ถูกต้องค่ะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: อร IP: 117.47.105.134 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:13:08 น.  

 
ทอดแบบเค้าทอดแคปหมูกันน่ะครับ ถึงจะพอง


โดย: cookaek@gmail.com IP: 180.183.81.234 วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:18:13:27 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.