เมื่อสมัยก่อนตอนที่ไปเยือนแดนใต้ ได้ลิ้มลองอาหารจานหนึ่งที่รสชาติอร่อยแต่กรรมวิธีการทำไม่ซับซ้อน เป็นเพียงแค่การนำหมูสับหมูบะช่อไปผัดกับปลาเค็มจนหอม กินแนมคู่กับยอดคะน้าและสมุนไพรต่างๆ ห่อกินรวมกันแลดูคล้ายเมี่ยง แต่บางคนก็ถือวิสาสะเอาไปคลุกกับข้าวสวยร้อนแล้วบีบมะนาวตามก็อร่อยไม่หยอก

ปลาเค็มที่ใช้ก็ไม่จำกัดว่าจะต้องใช้ปลาอะไรเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นปลากุเลา ปลาเสียด ปลาทู ปลาสีกุน แต่วันนี้จะใช้ปลาอินทรี ดังนั้นชื่อเมนูจึงกลายเป็น "หมูอินทรี" ไปโดยปริยาย

เทคนิคการนำปลาทั้งตัวไปควักไส้ พอกเกลือ เค้นน้ำ แล้วนำไปตากแดดเป็นอาทิตย์ๆจนเนื้อแห้งสนิท เป็นพื้นฐานเบื้องต้นของการทำปลาเค็ม สำหรับเก็บปลาที่เน่าเสียเร็วเอาไว้ให้แบ่งกินได้ในระยะเวลานาน ด้วยกลิ่นและรสอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อปลาเค็ม เมื่อถูกความร้อนจะส่งกลิ่นหอมและเพิ่มรสอร่อยให้กับเมนูอาหาร หลายๆครัวเรือนจึงมักจะมีปลาเค็มติดบ้านไว้ตลอดอยู่ไม่ขาด เพราะสามรถเก็บไว้ได้นาน อีกทั้งยังช่วยยกระดับมื้ออาหารของครอบครัวให้สูงขึ้นอีกด้วย


เมนูนี้ง่ายมากๆ แต่เอากระเทียมสับ หอมแดงสับ มาผัดกับหมูสับและเนื้อปลาเค็มสับ ผัดไฟกลางไปเรื่อยๆจนสุกหอม


ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำกับน้ำตาลเล็กน้อย จากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไปพอท่วมเนื้อหมู แล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆจนน้ำงวด


เคี่ยวไปเรื่อยๆจนน้ำงวดแห้ง ลองชิมดู ถ้าหากยังเค็มไม่พอก็เติมน้ำปลาลงไปเพิ่มก็ได้


จัดใส่จาน กินคู่กับ หอมแดงสับ กระเทียมสับ พริกขี้หนูสับ ห่อกินคู่กับยอดคะน้า อย่าลืมบีบมะนาวลงไปสักหน่อยก่อนเอาเข้าปาก


หมูอินทรีห่อกินคล้ายเมี่ยง รสของหมูอินทรีย์รสเค็มๆมันๆอมหวานนิดๆ โรยกระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู เพื่อเพิ่มรสสมุนไพรลงไปดับคาว ห่อกินกับใบยอดคะน้าสดเนื้ออ่อนๆรสมันๆไร้ความขมปร่า การผสมผสานอย่างลงตัวทำให้เกิดความสมดุลย์แห่งรสชาติ จะทำเก็บไว้เยอะๆแช่ตู้เย็นแล้วค่อยอุ่นกินวันหลังก็ไม่มีปัญหา 
อร่อยเค็มๆมันๆหอมสมุนไพรได้ประโยชน์ กินเพลินเคี้ยวเพลิน จะกินเป็นมื้อหลักหรือจะกินเล่นระหว่างมื้อก็แล้วแต่ใจจะปรารถนา ลองทำดูง่ายนิดเดียว ลงทุนน้อย แต่รับรองอร่อยมหาศาล


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "