อาหารญี่ปุ่นหลังยุคสงคราม ท่ามกลางความขาดแคลนยังมีของอร่อย ...... พิซซ่าญี่ปุ่น (โอโคโนมิยากิ)
โอโคโนมิยากิ หรือ พิซซ่าญี่ปุ่น เป็นอาหารที่เกิดขึ้นหลังช่วงยุคสงครามโลก โดยภายหลังจากที่จักรวรรดิญี่ปุ่นแพ้สงคราม สภาพเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นก็ทรุดลงอย่างหนัก เกิดสภาวะขาดแคลนอาหารและสิ่งอุปโภคบริโภค ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ 

การช่วยเหลือในเบื้องต้นคือการช่วยเหลือด้านอาหาร มีการนำเข้าแป้งสาลีจำนวนมากเข้ามาภายในประเทศ ชาวญี่ปุ่นในยุคนั้นยังไม่มีความรู้เรื่องขนมปัง จึงได้นำแป้งสาลีมาผสมกะหล่ำปลีซอยแล้วย่างกินคล้ายๆแพนเค้ก โดยชาวญี่ปุ่นในสมัยนั้นอาจจะได้แรงบันดาลใจจากขนมโบราณของญี่ปุ่นอย่าง fudoyaki ที่เป็นการย่างแป้งแผ่นบางๆแล้วราดน้ำซอสหวานๆ จึงได้ประยุกต์สูตรดังกล่าวแล้วกลายเป็นโอโคโนมิยากิในเวลาต่อมา

โอโคโนมิยากิในยุคแรกๆจะเป็นการผสมแป้งสาลีกับไข่และกะหล่ำปลีซอยเท่านั้น โดยอาจจะมีการใส่ผักดองลงไปผสมด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่จะยังไม่มีการใส่เนื้อสัตว์ลงไปเพราะขาดแคลนแถมยังมีราคาสูง ส่วนตัวน้ำซอสในยุคนั้นจะเป็นการใช้ซอสเปรี้ยวแบบฝรั่งที่เรียกว่า worcestershire ซึ่งจะให้รสเปรี้ยวเพียงอย่างเดียวและมีความเหลวที่ไม่ข้น ภายหลังจึงมีการประยุกต์ใช้ถั่วหมักหวานมาผสม จนกลายเป็นซอสโอโคโนมิยากิแบบในปัจจุบัน

โอโคโนมิยากิจะแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ คือแบบโอซาก้าและแบบฮิโรชิม่า แบบโอซาก้าจะเป็นโอโคโนมิยากิแบบที่เห็นได้ทั่วๆไป เป็นการผสมแป้งกับส่วนผสมทุกอย่างแล้วนำลงย่างในคราวเดียว ราดด้วยซอสและมายองเนส โรยสาหร่ายกับปลาแห้ง ส่วนอีกแบบฮิโรชิม่า จะเป็นการผัดเส้นคล้ายยากิโซบะ แล้วโปะหน้าด้วยแป้งเครปบางๆกับกะหล่ำปลีฝอยเป็นกำๆ ปิดท้ายด้วยไข่ แล้วค่อยราดซอส แต่จะไม่มีการใส่มายองเนส


วันนี้เราจะทำโอโคโนมิยากิสไตล์โอซาก้า 
เริ่มต้นจากการซอยกะหล่ำปลีก่อน เน้นเอาเฉพาะส่วนใบ ไม่เอาส่วนแกนแข็งๆ


ผสมแป้งง่ายๆ ใช้แป้งชุบทอดสำเร็จ 100 กรัม น้ำซุป(อุณหภูมิห้อง) 100 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง กะหล่ำปลีซอยประมาณครึ่งลูก ต้นหอมซอยเล็กน้อย ขิงซอยเล็กน้อย 
ถ้าใครจะใส่หมึกใส่กุ้งหรือส่วนผสมอื่นๆก็ใส่ลงไปตามชอบได้เลย
น้ำซุปสามารถใช้น้ำซุปหมู ซุปสาหร่าย หรือซุปเห็ดได้ตามชอบ ถ้าหากรู้สึกว่าแป้งข้นเกินไปก็สามารถเติมน้ำซุปเพิ่มได้ตามชอบ


ตั้งกระทะไฟกลางน้ำมันเล็กน้อย เทส่วนผสมลงย่างในกระทะ ปิดท้ายด้วยสามชั้นสไลด์ เอาน้ำแป้งเหลือๆมาเกลี่ยฉาบสามชั้นอีกสักหน่อย จากนั้นก็หาฝามาปิดแล้วย่างประมาณด้านละ 3-5 นาที


ซอสโอโคโนมิยากิ ผสมเองเลยง่ายๆแค่
ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ซอสมะเขือเทศ อย่างละช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำหวาน น้ำตาล น้ำส้มสายชู อย่างละช้อนชา
ผสมให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกันไปเลย 
จะเพิ่มหรือลดส่วนผสมอันไหนก็ลองชิมดู


มาแต่งหน้ากันเลย เอาด้านที่มีเนื้อหมูหันขึ้น ฉาบซอสโอโคโนมิยากิให้ทั่วๆ บีบมายองเนสหรือน้ำสลัดครีมอีกชั้น โรยด้วยปลาทาโร่ทอดกรอบป่นละเอียด ปิดท้ายด้วยสาหร่ายเถ้าแก่น้อยซอยบางๆ ก็เป็นอันเสร็จพิธี กับโอโคโนมิยากิแบบบ้านๆ หาส่วนผสมได้ง่ายๆ แต่รสชาติระดับอลังการ

โอโคโยมิยากิผิวเกรียมๆเนื้อในฉ่ำๆมันๆ หนักด้วยเครื่องกะหล่ำปลีฝอยหวานๆ ขิงดองและต้นหอมซอยตัดรส อีกทั้งเนื้อสามชั้นนุ่มๆ ราดด้วยซอสรสเปรี้ยวหวานมันเค็มกลมกล่อม ตบท้ายด้วยปลาทาโร่ป่นและสาหร่ายเถ้าแก่รสชาติแสนอูมามิ 
นี่แหละโอโคโนมิยากิแบบบ้านๆ ที่สามารถหาส่วนผสมได้ง่ายๆ แต่รสชาติกลับอร่อยเหลือหลาย 
ความอร่อยที่เกิดมาท่ามกลางความอดอยาก ภายใต้สถานการณ์ที่ย่ำแย่ แม้จะยากลำบาก แต่ก็อาจจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นมาก็เป็นได้


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 17 สิงหาคม 2564
Last Update : 17 สิงหาคม 2564 8:50:20 น.
Counter : 1827 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณhaiku, คุณnewyorknurse

  
น่ากินสุดๆครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 17 สิงหาคม 2564 เวลา:11:02:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Donny87.BlogGang.com

เสือตะหลิว
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด