เปิดสูตรหมูแห่งยอดกวีในตำนาน ..... "ตงพอโหล่(Dong Po Rou)"
ในตำนานจีนกล่าวถึงยอดกวีผู้หนึ่งนามว่า "ซูตงพอ (ซูซื่อ)" รับราชการอยู่ในเขตหูโจวยุคซ่งเหนือ ภายหลังได้ถูกย้ายมารับราชการในเขตหวงโจว อยู่มาวันหนึ่ง ท่านกวีซูได้ต้มหมูกับเครื่องสมุนไพรเพื่อรับประทานเป็นปกติ ได้มีข้าราชการท้องถิ่นเข้ามาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน จากนั้นจึงได้ชวนกันเล่นหมากรุกเพราะได้ยินคำล่ำลือเรื่องความสามารถของท่านกวีซู หมากกระดานนั้นกินเวลายาวมากจนกระทั่งมีกลิ่นบางอย่างโชยมาเตะจมูก ท่านกวีซูตกใจเพราะพึ่งนึกได้ว่าต้มหมูเอาไว้นานแล้ว จึงรีบแจ้นเข้าไปในครัว สิ่งที่พบคือต้มหมูสามชั้นที่น้ำเกือบงวด เนื้อเปื่อยหนังมันวาว มีกลิ่นหอมจากเครื่องสมุนไพร ครั้นแล้วทั้งสองจึงลองชิมดูปรากฎทั้งว่าเนื้อและหนังเปื่อยนุ่มละลายในปาก มีกลิ่นหอมและรสเข้มข้นจากเครื่องสมุนไพร ถึงแม้จะมีความมันแต่ก็ทานได้แบบไม่เลี่ยน ท่านกวีซูจึงได้นำเมนูนี้มาทำเป็นอาหารเลี้ยงแขกอยู่ร่ำไป และเรียกเมนูนี้ว่า "ตงพอโหล่"

ภายหลังท่านกวีซูได้ย้ายไปรับราชการอยู่ที่เขตหางโจว ด้วยชื่อเสียงของท่านจึงมีชาวบ้านและขุนขางในท้องที่นำข้าวของมาให้เป็นจำนวนมาก หนึ่งในของเหล่านั้นคือเหล่าบรรดาเนื้อหมู ท่านกวีซูจึงได้นำเนื้อหมูทั้งหมดมาทำเมนู "ตงพอโหล่" แจกจ่ายคนในท้องที่ เมนูนี้จึงกลายเป็นเมนูที่แพร่หลายและเป็นที่รู้จักต่อมาในภายหลังนั่นเอง


เริ่มต้นจากการหั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นหนาๆ แล้วเอาไปต้มให้เนื้อและหนังพอสุก จากนั้นก็เผาด้านหนังให้ไหม้ แล้วขูดเอาคราบไหม้ออกให้หมด


เตรียมน้ำต้ม โดยผสมน้ำซุปหมู 1 ลิตร ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ผงพะโล้ 1 ช้อนชา


จัดวางเนื้อหมูลงในกระทะ เอาผักกาดขาวรองก้นไว้ก่อน จากนั้นวางขิงหั่นบางและต้นหอม แล้วค่อยเอาเนื้อหมูหันด้านหนังลง


ค่อยเทน้ำต้มที่เตรียมไว้ลงไปต้ม ปล่อยไฟแรงให้น้ำเดือดสักพัก แล้วค่อยลดเป็นไฟเดือดอ่อนๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆประมาณชั่วโมงครึ่ง


หลังจากต้มเสร็จ เราจะเอาเนื้อหมูมานึ่งกันต่อ โดยหาถ้วยหรือจานก้นลึกมา เอาเนื้อหมูวางหันด้านหนังขึ้น เอาน้ำต้มที่เหลือจากการเคี่ยวมาเทใส่ให้พอท่วมช่วงเนื้อ แต่อย่าให้ท่วมหนัง จากนั้นก็นึ่งไปเรื่อยๆประมาณสามชั่วโมงครึ่ง


หลังจากนึ่งเสร็จ เอาน้ำต้มที่เหลือจากการนึ่งมาเทใส่กระทะแล้วชิมรสดู ถ้าจะเอาเค็มเพิ่มก็ใส่ซีอิ๊วขาว ถ้าจะเอาหวานเพิ่มก็ใส่น้ำตาล โดยปกติรสเค็มและรสหวานจะต้องนัวๆเท่าๆกัน จากนั้นจึงใส่น้ำละลายแป้งมันลงเคี่ยวให้พอข้น


เอาเนื้อหมูจัดลงจาน ราดน้ำซอสที่เคี่ยวไว้ลงไป ก็ถือเป็นอันเสร็จพิธีกับเมนูหมูแห่งกวีในตำนาน "ตงพอโหล่"
หนังหมูมีความมันวาวเป็นประกาย ช่วงเนื้อแลดูเป็นชั้นๆเรียงตัวกันสวย มีกลิ่นหอมๆของเครื่องสมุนไพร พอกัดดูช่วงหนังและชั้นไขมันเป็นราวกับเยลลี่นิ่มๆที่ละลายในปากไปพร้อมแรงกดของแรงลิ้น ช่วงเนื้อก็ไม่น้อยหน้ามีความเปื่อยนุ่มจากการเคี่ยวกรำกับน้ำซอสเป็นเวลานาน พร้อมแตกระแหงไปตามแรงกดของฟันในปาก รสชาติเข้มข้นหวานมันเค็ม เป็นความหฤหรรษ์อันโอชะที่โลดแล่นอยู่ในปากของผู้บริโภค อร่อยสมคำร่ำลือสมฉายาหมูในตำนาน "ตงพอโหล่"


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 07 กันยายน 2564
Last Update : 7 กันยายน 2564 8:27:50 น.
Counter : 1329 Pageviews.

0 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku

ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Donny87.BlogGang.com

เสือตะหลิว
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด