สุดยอดเมนูแห่งท้องทะเล...จากอาหารริมทางสู่ความหรูหราระดับภัตตาคาร "เทมปุระเกล็ดปะการัง"
สวัสดีครับ ... วันนี้เสือตะหลิวจะมานำเสนอเมนูอาหารญี่ปุ่นที่เป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆคน ถ้าคุณชอบกินกุ้ง หลงรักความเด้งและรสหวานของเนื้อกุ้ง ยามใดที่คุณย่างกรายเข้าสู่ซุ้มประตูแห่งภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น เมนู "กุ้งเทมปุระ" จะต้องเป็นหนึ่งในเมนูที่คุณจะต้องลิ้มลองอย่างแน่นอน
แต่รู้ไหมครับว่าเมนู เทมปุระ นั้น มีจุดกำเนิดที่สามารถย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 16 ของประเทศญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นในสมัยก่อนจะไม่มีวัฒนธรรมการชุบแป้งทอด แต่เมื่อบาทหลวงชาวโปรตุเกสได้มีโอกาสเข้ามาเผยแพร่ศาสนาในประเทศญี่ปุ่น บาทหลวงได้นำเอาวิธีทำอาหารมาเผยแพร่ไปพร้อมๆกับศาสนาด้วย
จุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจากเขตใต้สุดของญี่ปุ่นอย่างเมืองนางาซากิ หลังจากนั้นผ่านไปอีกเกือบร้อยปี เทคนิคการทำเทมปุระก็ได้เดินทางมาถึงอ่าวโตเกียว คนญี่ปุ่นคิดว่าเทคนิคการทำเทมปุระนั้นเหมาะมากๆที่จะเอามาใช้กับอาหารทะเล เพราะจะช่วยดึงเอาความสดความหวานอร่อยอันเป็นธรรชาติของอาหารทะเลออกมา
เมนูเทมปุระนั้นเริ่มมาจากร้านรถเข็นข้างทาง เอาอาหารทะเลจากตลาดสดมาทอดแล้วกินกันเปล่าๆง่ายๆแบบไม่มีน้ำจิ้ม แลดูคล้ายๆกับกล้วยทอดของบ้านเรา 55555 แต่ต่อมาภายหลัง เหล่าบรรดาภัตตาคารได้ทำการประยุกต์สูตรและคิดค้นน้ำจิ้มที่เหมาะที่จะกินคู่กัน จนทำให้เมนูเทมปุระได้ผงาดจากเมนูรถเข็นริมทางสู่เมนูสุดหรูในภัตตาคารจวบจนถึงยุคปัจจุบัน
เมนูเทมปุระที่เสือตะหลิวจะมาทำในวันนี้ ไม่ใช่เมนูเทมปุระแบบธรรมดา แต่จะเป็นเมนูเทมปุระเกล็ดปะการัง มีจุดเด่นอยู่ความกรอบของเกล็ดแป้ง แต่หลังจากทานคู่กับน้ำจิ้มแล้วเคี้ยวในปาก เกล็ดแป้งเล็กๆกลับเริ่มละลายในปากอย่างน่าอัศจรรย์ แต่รับรองว่าทำได้ไม่ยากและไม่ได้ใส่ปะการังลงไปอย่างแน่นอน 55555
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8q6jp6cCSzcqp79HX-o.jpg)
เริ่มต้นง่ายๆจากเตรียมกุ้งกันก่อนนะครับ ดูเรียงเบอร์ไปเลย 55555
1.วันนี้เสือตะหลิวใช้กุ้งขาวไซด์กลาง
2.แกะเปลือก ดึงหัวออก เหลือหางไว้สักหน่อยนะครับ
3.บั้งด้านท้องกุ้งเป็นแนวขวางนะครับ บั้งไม่ต้องลึก
4.กลับด้านผ่าหลังกุ้ง ดึงเส้นดำออก ไม่ต้องผ่าลึกนะครับ
5.หลังจากดึงเส้นดำ ก็บั้งด้านหลังกุ้งเป็นแนวเฉียงต่อเลย บั้งไม่ต้องลึกนะครับ
6.จับจีบสามนิ้วทั้งสองมือ โป้งชี้กลาง ค่อยๆไล่กดลงไปบนตัวกุ้ง กดให้มีเสียงดังกรุบ เพื่อให้เส้นเอ็นกุ้งขาด กุ้งจะได้เหยียดตรงๆ
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8q7i7hqdpZ0ixMLdM-o.jpg)
มีกุ้งอย่างเดียวเดี๋ยวจะเลี่ยน มีเห็ดหอมหั่นครึ่ง กับเห็ดเข็มทองแบ่งเป็นจับๆ เอาวัตถุดิบทั้งหมดมาคลุกกับแป้งเค้กให้ทั่วๆนะครับ ถ้าไม่มีแป้งเค้กก็เป็นแป้งชุบทอดปกติก็ได้
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8q83d3dd87Ama5rc6-o.jpg)
ผสมแป้งกันเลยง่ายๆเลยครับแค่
แป้งชุบทอดสำเร็จ 100 กรัม
ไข่แดง 1 ฟอง
น้ำเย็นหรือโซดาหรือเบียร์ 200 ML ต้องเย็นจัดๆเลยนะครับ
แป้งเทมปุระจะเป็นน้ำๆไม่เหนียวข้นเหมือนแป้งชุบแป้งทอดนะครับ ดูจากรูปได้เลย
ถ้าหากใครไม่อยากใช้แป้งชุบทอดสำเร็จก็ผสมเองง่ายๆได้เลยครับแค่
แป้งเค้ก 70 กรัม แป้งมัน 30กรัม ผงฟู 1/2 ช้อนชา
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8q8l23eWqd8s523Z9-o.jpg)
ตั้งน้ำมันไฟปานกลาง ไม่ต้องร้อนมากนะครับ
พอร้อนได้ที่ก็ตักแป้งลงไปเททั่วๆสักประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ แป้งจะกระจายตัวเป็นเกล็ดๆอย่างที่เห็นนะครับ
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8q987hlxx2RnCeIHY-o.jpg)
ไม่รอช้ารีบเอากุ้งไปชุบแป้งต่อเลย ค่อยๆทำทีละตัวนะครับ เมนูนี้ต้องปราณีต แต่รับรองว่าไม่ยากเกินความสามารถ
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8q9rj3j9QmLs4aWnP-o.jpg)
เอากระชอนหรือตะแกรงโกยพวกเกล็ดแป้งมารวมไว้ขอบกระทะด้านใดด้านหนึ่ง จากนั้นก็เอากุ้งลงไปวางบนเกล็ดแป้งแล้วเอาเกล็ดแป้งที่เหลือวางทับคลุมลงบนตัวกุ้งให้ทั่ว
ตรงนี้อาจจะต้องใช้ฝีมือนิดหนึ่งนะครับ จินตนาการคล้ายๆกับการคลุกเกล็ดขนมปัง แต่อันนี้คือเราเอากุ้งมาหุ้มกับเกล็ดแป้งในกระทะ
ในรูปนี่คือสาธิตนะครับ จริงๆอีกมือหนึ่งต้องถือตะแกรงที่ช้อนเกล็ดแป้งมารวมกันไว้ นึกภาพออกไหมครับ เหมือนเราปูผ้าปูที่นอนเอากุ้งวางแล้วก็เอาผ้าห่มมาห่มอีกทีหนึ่ง แต่ผ้าปูที่นอนกับผ้าห่มในที่นี้ก็คือเกล็ดแป้ง
ทอดไม่ต้องนานนะครับ ไม่เกิน 2 นาทีก็เหลือแหล่ เนื้อกุ้งจะได้เด้งๆหวานๆกำลังดี
ทำสลับกันไปเรื่อยๆนะครับ ตักแป้งใส่กระทะ ชุบกุ้ง คลุกเกล็ดแป้ง ทำวนไปเรื่อยๆ
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8qadghyafP1QYoWiE-o.jpg)
ทอดเสร็จก็สะเด็ดน้ำมันพักไว้ได้เลย แป้งมาเป็นเกล็ดๆทั้งกรอบทั้งเนียน เนื้อกุ้งเด้งๆหวานๆกำลังดี
กุ้งมาเป็นเกล็ดปะการังอย่างสวย ราวกับกุ้งกลับไปมีชีวิตอีกครั้ง ในปากของเรา 55555
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8qau26ds7ctnB7c8S-o.jpg)
ทำแบบเดียวกันกับเห็ดได้เลยนะครับ เทคนิคการทอดแบบเดียวกันเป๊ะ
กลายเป็นเห็ดปะการังไปซะแล้ว ถ้าใครถามว่าเห็ดอะไรอยู่ในทะเล ก็บอกว่าเห็ดเทมปุระแบบในรูปนี่ยังไง 55555
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8qbaggo87GuR1ecD0-o.jpg)
เทมปุระจะขาดน้ำจิ้มไปได้ยังไง ไม่ต้องไปเสียตังค์ซื้อแพงๆครับ เรามาประยุกต์สูตรกับแบบง่ายๆได้เลยแค่
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
เหล้า 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนชา
ตั้งน้ำเดือดๆคนให้เข้ากันก็เป็นอันเสร็จ จะลดจะเพิ่มส่วนผสมไหนตามชอบก็แล้วแต่เลยนะครับ
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8qbu1rvlEMwXKmIdsM-o.jpg)
ทานคู่กับหัวไซเท้าสับละเอียดกับขิงสับละเอียด
ความจริงต้องใช้ที่ฝน ฝนให้ละเอียด แต่เสือตะหลิวไม่มีก็เลยสับให้เละไปเลย 55555
หัวไชเท้าให้รสซ่าๆหวานๆส่วนขิงก็ให้รสร้อนๆหอมๆ
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8qc87yvjx8LDS3rHCe-o.jpg)
กุ้งพร้อม
เห็ดพร้อม น้ำจิ้มพร้อม รออะไรอีกล่ะ ก็เสร็จแล้วนี่ไงล่ะ
เรียบร้อยแล้วครับกับเมนู เทมปุระเกล็ดปะการัง เกล็ดแป้งกรอบๆ
เนื้อกุ้งเด้งๆหวานๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มหอมๆ
กัดไปคำแรกได้ความกรอบของเกล็ดแป้ง สัมผัสได้ถึงความเด้งพร้อมเนื้อกุ้งหวานๆ แต่พอเคี้ยวอีกรอบ เกล็ดแป้งเล็กๆกรอบๆก็พร้อมใจกันละลายในปากโดยมิได้นัดหมาย เป็นเมนูที่กินแล้วเพลินมากๆ เห็ดก็ใช่ย่อยเนื้อหนึบๆหวานๆเพลินลิ้นไม่แพ้กัน
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8qcvgimjMKx2kM6Gz-o.jpg)
ดูอีกทีให้ชื่นใจ กุ้งมาเป็นเกล็ดปะการังราวกับกำลังแหวกว่ายอยู่ในท้องทะเล
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8qdcp7eJp85YarqS3-o.jpg)
เห็นแล้วขอสามคำ เกล็ด!!! กร๊อบ!!! กรอบ!!!
55555
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8qdtglaXLTKd68e4R-o.jpg)
สุดท้ายขอฝากเมนูนี้ไว้ในอ้อมใจกันอีกสักหนึ่งเมนูกับเมนู เทมปุระเกล็ดปะการัง วัตถุดิบน้อยไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แต่ต้องอาศัยความปราณีตและความพิถีพิถันกันสักหน่อย แต่รับรองว่าถ้าทำออกมาได้คล่องแล้วคุ้มมากๆกับฝีมือที่ลงแรงไปแน่นอน
จากเมนูอาหารญี่ปุ่นระดับริมทางนำไปสู่ความหรูหราประจำชาติระดับภัตตาคาร ความอร่อยที่เคยผ่านลิ้นมาแล้วกันทุกระดับชนชั้นอย่างแพร่หลาย
เมนูเทมปุระเกล็ดปะการัง เป็นราวกับท้องทะเลที่ยังมีชีวิตและเต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติ
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8qecgf9A87IUd2rOJ-o.jpg)
โดย facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
![](https://f.ptcdn.info/796/065/000/px8qfcd3du8Ao6v3vST-o.png)