มีการพยากรณ์จากกูรูระดับโลกทางเศรษฐกิจว่า ปี2013จะเป็นการสิ้นสุดยุคการเจริญเติบโตและจะเกิดภาวะการซบเซา-ถดถอยทางเศรษฐกิจอันเนื่องจากความเสื่อมโทรมของกระบวนทัศน์เก่า 3 ประการ ดังนี้
1.การเกิดภาวะหนี้สูง การเป่าฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์-ตลาดหุ้น และการลดการลงทุน ถึงขั้นที่ว่า การบริโภคภายในประเทศไม่สามารถรักษาอัตราการเติบโตและการจ้างงานได้
2. ฐานสำคัญทางเศรษฐกิจ ได้แก่ สินทรัพย์ทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ และทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบก-ทะเล ถูกทำลายลงไปมาก จนเกิดมหาภัยพิบัติและเพิ่มต้นทุนทางสังคม (การล่มสลายของอาณาจักรอินคาและอาณาจักรนครวัดที่รุ่งเรืองทีสุดในโลกในอดีต เกิดจากปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ )
3. การรวมศูนย์ความมั่งคั่งและอำนาจไว้ในมือคนจำนวนน้อย เป็นการทำลายการบริโภคและการลงทุน ส่งเสริมการฉ้อฉลโดยสุจริตในภาครัฐและเอกชน(การปฏิวัติดอกมะลิ ARAB SPRINGเกิดจากปัญหานี้ )
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและความอยู่รอด 3 ประการ
1.เปลี่ยนจากการเน้นความเจริญเติบโตทางGDP เป็น GHP สร้างเศรษฐกิจพอเพียงและเอื้ออาทร
2.สร้างแบบหรือนวัตกรรมใหม่ทางการผลิต การขนส่ง และ การบริโภคที่เกิดของเสียน้อยที่สุด LOW CARBON ECONOMY และ GREEN ENERGY
3.สร้างเศรษฐกิจแบบเรียบง่ายหรือวิสาหกิจชุมชน OTOP BIOGASทุกตำบลทั่วไทยให้โชติช่วงชัชวาลย์ เพราะเป็นสินค้าผลิตและที่จำหน่ายได้24ชั่วโมง ไม่มีสินค้าค้างสต๊อค ใช้วัตถุดิบจากหญ้าพลังงานทีปลูกโดยเกษตรกรเป็นแกนคู่ขนานกับเศรษฐกิจมหภาค-AEC.
วิกฤติคราวนี้กล่าวได้ว่าเป็นมารดาของวิกฤติ ที่ไม่อาจใช้วิธีการแบบเดิมๆเยียวยาแก้ไขได้อีกต่อไป จำเป็นต้องสร้างนวัตกรรมใหม่และปรับกระบวนทัศน์การพัฒนาประเทศใหม่ทั้งหมดจึงจะอยู่รอดได้ GOING GREEN THAILAND