ป่าไม้บนภูเขาคือ ความอุดมสมบูรณ์และความมั่นคงของชาติไทย

ในช่วง 20-30 ปี ประชาชนได้นำพื้นที่ป่าไม้มาใช้ในการเกษตร ทำให้ผลผลิตด้านการเกษตรของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย แต่เมื่อเลยจุดของความพอดีไป คือเมื่อตัดไม้ทำลายป่ามากๆเข้า ป่าไม้ซึ่งเคยช่วยปกคลุมดินไม่ให้หน้าดินถูกเซาะไปและดูดซับน้ำไว้มิให้เกิดน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว ก็ไม่สามารถจะทำหน้าที่ได้เกิดปัญหาการพังทลายของดิน และน้ำท่วม ซึ่งกลับมาเป็นอันตรายต่อพืชผลการเกษตร ณ จุดนี้ ซึ่งเราเลยจุดของความพอดีในการนำพื้นที่ป่าไม้มาใช้เพื่อการเกษตรเสียแล้ว จึงเกิดเหตุในทางกลับกัน ก็คือในระยะนี้ถ้ายิ่งหันกลับไปปลูกป่าผลผลิตทางการเกษตรอาจจะกลับดีขึ้นกว่าเดิมก็อาจเป็นได้

“ผลลบของการที่ทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม จนก่อให้เกิดความอ่อนแอและด้วยศักยภาพที่จะเจริญเติบโตของเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต”
นั่นก็คือ ในระยะนี้ถ้าหากมีการปลูกป่า ป่าไม้จะมีผลเชิงบวกต่อบุคคลอื่นๆทั่วไปทั้งประเทศ ป่าไม้เป็นสมบัติของโลก และเป็นประโยชน์ต่อสิ่งที่มีชีวิต แต่ไม่ได้เป็นสมบัติของใครคนใดคนหนึ่ง
คำถามลึกๆก็คือ ตัวเลขความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเรา รวมทั้งความสำเร็จอย่างงดงามในทางเศรษฐกิจที่เราวัดกันอยู่นี้ เราใช้อะไรแลกมา ”

ทำไมคนจึงตัดต้นไม้มากกว่าการปลูกต้นไม้

คุณค่ากับราคาของต้นไม้/ป่าไม้(คนเราจะทำอะไรเราจะดูประโยชน์ของตนก่อน)

ทำไมคนจึงตัดต้นไม้ ต้นไม้มีราคามาก เมื่อตัดฟันลง นำไปสร้างบ้านเรือน ทำเฟอร์นิเจอร์ ทำพื้น ใครตัดคนนั้นได้ ใครขายคนนั้นรวยประโยชน์ตรงๆเห็นชัดๆ ดังนั้นจึงเกิดการตัดไม้
ส่วนผลเสียที่เกิดขึ้นจากการตัดต้นไม้คือ มีฝนแล้ง น้ำท่วม เราไม่เกี่ยวเพราะเราไม่ใช่เกษตรกร เราอยู่บ้านติดเครื่องปรับอากาศ บ้านเราน้ำไม่ท่วม
สิ่งที่คนทำได้ประโยชน์ แต่ก่อให้เกิดความลำบากกับผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเลยโดยตรง เรียกว่า ผลภายนอกชิงลบ Negative Externalities

ทำไมคนไม่ปลูกต้นไม้/ปลูกป่า

ต้นไม้มีค่าต่อส่วนรวม คนดูแลต้นไม้อาจได้ประโยชน์บ้าง แต่เพียงเล็กน้อย ประโยชน์ใหญ่อยู่ที่คนอื่น(นภพร เรืองสกุล) ผลประโยชน์อันเกิดจากป่าไม้หรือ ผลภายนอกเชิงบวก Positive Externalities ของการมีป่าไม้หรือการพัฒนาเพื่อเพิ่มปริมาณป่ามีประโยชน์หลายประการด้วยกันได้แก่
1) คนจำนวนมากในเมืองไทยได้อาหารจากป่า และได้ฟืนจากป่า ซึ่งเชื้อเพลิงเหล่านี้ จัดหาหรือจัดซื้อกันนอกระบบตลาด เป็นสิ่งที่คนจนใช้
2) ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ได้จากป่า เช่น หญ้าคามุงหลังคา หวาย กล้วยไม้ และพรรณไม้ต่างๆมีคุณค่าทางสายพันธุ์ มีประโยชน์ทางด้านอาหาร และมีคุณค่าทางยา
3) ป่าไม้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของบุคคลเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการจัดเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ
4) ป่าไม้ช่วยลด คาร์บอนไดออกไซด์ ที่เป็นต้นเหตุให้โลกร้อนขึ้น
5) ป่าไม้ทำให้มีฝนตก

หลักการทีว่ายังคงทำงานอยู่ ตราบใดที่มนูษย์ไม่มีสิทธิเหนือตนไม้ทีตนเองปลูกขึ้นและรัฐบาลไม่แก้กฏหมายป่าไม้ให้เอื้อต่อการลงทุนปลูกต้นไม้ของประชาชน  การปลุกจิตสำนึกจึงเป็นแค่ยาหอมไม่ใช่ยารักษาโรคร้ายอย่างแท้จริง.