Group Blog
 
All Blogs
 

ขั้นตอนการเพาะฟางกองเตี้ย

ขั้นตอนการเพาะฟางกองเตี้ย ให้ดอกใหญ่และรสหวาน
วัสดุ และอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1. กากมันสำปะหลัง ( จะใช้กากดิน )
2.ไม้แบบ ทำเป็นบล็อกขนาด ความกว้าง 30ซม. ยาว 70ซม. 20ซม.
3.โครง ( ไม้ไผ่ผ่าซีก กว้าง 1นิ้ว ยาว 2.50 เมตร
4.บัวรดน้ำ
5.น้ำสะอาดควรเป็นน้ำสระไม่เค็มจะดีที่สุด
6.อาหารเสริม ( มูลสัตว์แห้ง,ปุ๋ยรองพื้น,รำอ่อน)
7.พลาสติกสำหรับคลุมกองเห็ด
10.ฟางสำหรับคลุมกองเห็ด.

วิธีการเพาะ
1.เตรียมแปลงเพาะโดยขุดตากดินยกแปลงเพื่อฆ่าเชื้อโรคตากทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน
ย่อยดินให้ละเอียดขนาดแปลง กว้าง 1.20 เมตร ยาวตามความต้องการ.
2.นำกากมันจะเป็นกากดิน มาอัดลงในไม้แบบอัดที่เตรียมไว้ให้เป็นแท่งพอแน่นจากนั้นถอดไม้แบบ แล้วอัดแท่งกากมันเรียงในแปลงที่เตรียมไว้ห่างกันแต่ละแท่ง การอัดแท่งนั้นต้องดูที่สภาพอากาศด้วยถ้า อากาศเย็นให้ห่างกันน้อย. ถ้าอากาศร้อนให้ห่างกันมากขึ้นพอประมาณครับ
3.ในช่วงขณะที่อัดแท่งกากมันลงบล็อกนั้น ถ้าแห้งให้รดน้ำพอชุ่มให้กากมันจับตัวกันไม่ให้แท่งพังแตก
4.ในการอัดแท่งกากมันนั้นควรจะได้อย่างน้อยแปลงละ 18-20 แท่ง เพื่อให้การควบคุมอุณหภูมิในแปลงไม่ให้เปลี่ยนแปลงมากเกินไปอุณหภูมิจะสม่ำเสมอ.
5.หลังจากนั้นก็ทำการโรยอาหารเสริมระหว่างช่องว่างของแท่งกากมันบางๆ จะเป็นรำอ่อน บวกกับปุ๋ยคอกที่การใส่รำอ่อนและปุ๋ยคอกนั้นจะช่วยให้ดอกเห็ดเป็นสีขาว ดอกใหญ่ มีรสหวาน
6.ทำการโรยเชื้อเห็ดฟางบนอาหารเสริมโดยเชื้อเห็ดฟางต้องนำมาขยำรวมกันก่อน อัตราการใช้ 1ถุง ต่อ 2 ตารางเมตร แล้วรดน้ำให้ชุ่มทั่วแปลง ต้องพยายามไม่ให้น้ำโดนก้อนกากมันจะทำให้ก้อนนั้นแตกได้
7.คลุมด้วยพลาสติกให้ชิดกองใช้พลาสติก. 1 ผืนแล้วกลบชายพลาสติกด้วยดินให้สนิท
8.ขึ้นโครงโดยใช้ไม้ไผ่ปักโค้งห่างกันพอควรแล้วคลุมพลาสติกแบบเกยทับ 2 ผืน แล้วคลุมด้วยฟาง.
9.นำเศษมาคลุมบนพลาสติกอีกครั้งหนึ่ง
10.ทิ้งไว้ประมาณ 3-4 วัน (ถ้าเป็นหน้าร้อน)
11.เส้นใยเห็ดจะเดินขาวฟูในกองให้ทำการตัดใย โดยใช้น้ำสะอาดผสม EM และกากน้ำตารดบางๆ พอเส้นใยขาด
12.หมั่นตรวจดูอุณหภูมิในกองเห็ด ถ้าร้อนจัดให้เปิดข้างกองตอนเช้าหรือเย็น ครั้งละ 5-10นาที แล้วปิดตามเดิม
13.จากนั้นประมาณ 5-7 วัน ดอกเห็ดจะโตสามารถเก็บมาบริโภคและจำหน่ายได้
.14.การเก็บดอกเห็ดควรเก็บในช่วงเช้ามืดและเก็บเมื่อเห็ดขนาดดอกตูมหัวแหลมจะได้น้ำหนักดีแต่ถ้าจะเก็บเพื่อทำป่นให้เก็บดอกบานมาย่างไฟจะอร่อย
15.จะสามารถเก็บเห็ดได้ประมาณ 3-5วัน ก็จะหมดรุ่นจากนั้นให้เปิดกองรดน้ำพอชุ่ม ปิดไว้อีก 5-7 วันเห็ดจะเกิดดอกให้เก็บอีก1รุ่น แต่ดอกเห็ดจะเกิดน้อยและดอกเห็ดจะมีขนาดเล็ก
16.และที่สำคัญครับหลังเก็บดอกเห็ดหมดแล้วพี่ประมวลจะ นำถั่วมาเพาะในแปลงเห็ดเก่าจะอาศัยความชื้นที่อยู่ในแปลงเห็ด จะทำให้ถั่วเจริญงอกงามดี เพราะได้ปุ๋ยจากกองเห็ดเก่านั้นเอง
ส่วนเรื่องรายได้จากการขายเห็ดนั้นพี่ประมวลจะขาย กก.ละ60 บาท เก็บขายวันละ 6-7 กก.




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2558    
Last Update : 26 มิถุนายน 2558 5:24:37 น.
Counter : 1402 Pageviews.  

ปลาดุกผักพริกหยวก

สูตรอาหารไทย ปลาดุกผักพริกหยวก
ปลาดุกผัดพริกหยวกสูตรอาหารไทย ส่วนผสมสำหรับทำปลาดุกผักพริกหยวก

ปลาดุกหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต้ะ
หัวกะทิ 2 ถ้วย
น้ำเปล่า ครึ่ง ถ้วย
กระชายหั่นเป็นฝอย ครึ่งถ้วย
พริกหยวกหั่น 3 ช้อนโต้ะ
ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต้ะ
ใบโหระพา 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต้ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต้ะ

สูตรอาหารไทย ขั้นตอนการทำปลาดุกผักพริกหยวก

1. ตั้งกระทะน้ำมันโดยใช้ไฟอ่อน นำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดให้สุกจากนั้นเติมหัวกะทิลงไปต้ม ตามด้วยน้ำเปล่า
2. รอให้กะทิเริ่มแตกมันใส่เนื้อปลาดุลงไปต้ม ใส่ใบมะกรูด พริกหยวกและกระชายลงไป
3. ปรุุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล
4. เสริฟใส่ชาม โรยหน้าด้วยใบโหระพา




 

Create Date : 24 กันยายน 2557    
Last Update : 25 มิถุนายน 2558 18:53:19 น.
Counter : 605 Pageviews.  

การปลูกมะนาวใ

การปลูกมะนาวให้รอดตาย 100%
การขยายพันธุ์ที่เกษตรกรนิยมกันมากที่สุดคือ การตอนกิ่ง การตอนกิ่งมะนาวจะใช้เวลาไม่นาน นิยม
ทำกันช่วงต้นฤดูฝน เมื่อกิ่งตอนมีรากแล้วก็ควรจะเอามาชำไว้ในถุงดำที่มีวัสดุปลูกเป็นขี้เถ้า แกลบดำ การชำควรจะชำราว 10 วัน ก็เพียงพอแล้ว (ซึ่งระยะดังกล่าวรากของกิ่งตอนจะแผ่พอดีเต็มถุงดำ) ข้อแนะนำในการชำกิ่งพันธุ์มะนาว ไม่จำเป็นต้องชำใต้ตาข่ายพรางแสงเลย ให้ชำไว้ในบริเวณกลางแจ้งได้เลย ให้ต้นมะนาวชินต่อสภาพ แต่ถ้าเราเอากิ่งชำที่ชำไว้ใต้ตาข่ายพรางแสงไปปลูกในแปลง เรามักพบว่ากิ่งพันธุ์จะมีเปอร์เซ็นต์ของการตายค่อนข้างสูง และเวลาเอาไปปลูกให้แกะถุงดำออก ให้เอาส่วนของรากกิ่งพันธุ์มะนาวจุ่มน้ำให้ขี้เถ้าแกลบดำหลุดออกจนเหลือ เพียงรากมะนาวเท่านั้น (คุณมานิด ให้เหตุผลว่า ถ้าเราไม่ล้างเอาแกลบดำออก เวลาที่เราปลูกลงหลุมในแปลงเมื่อรดน้ำ ขี้เถ้าแกลบดำมันมักจะอุ้มน้ำไว้มาก ต้นมะนาวจะมีอาการใบเหลืองหรือไม่ก็จะเป็นโรคเชื้อรา เช่น รากเน่า โคนเน่า และตายในเวลาต่อมา)

ขั้นตอนของการล้างรากเอาขี้เถ้าแกลบดำออก เกษตรกรจะต้องตักน้ำใส่ถังพลาสติกหิ้วไปด้วย เพื่อ
สะดวกในการล้างราก ส่วนการปลูกไม่ต้องปลูกให้ลึกเกินไป ขุดหลุมให้ลึกประมาณ 10 เซนติเมตร ก็เพียงพอแล้ว แผ่รากมะนาวให้ทั่วหลุม จากนั้นกลบดินให้แน่น ปักไม้ไผ่ไว้ค้ำต้นไม่ให้ลมโยก ก็หาเศษหญ้าหรือเศษฟางมาคลุมบริเวณโคนต้นแล้วรดน้ำให้ชุ่มเป็นอันเสร็จ ในกรณีที่เกษตรกรจะนำกิ่งตอนที่ตัดมาจากต้นแล้วลงปลูกในแปลงเลยก็สามารถทำ ได้ แต่เราพบว่ากิ่งพันธุ์จะมีการตั้งตัวและเติบโตช้ากว่าวิธีที่เราแนะนำไปอีก เคล็ดลับหนึ่งของคุณมานิดคือ การให้ปุ๋ยทางดินกับต้นมะนาวเล็ก จะให้ 20 วัน ต่อครั้ง ปุ๋ยที่ให้จะใช้ปุ๋ยยูเรีย (สูตร 46-0-0) ผสมน้ำรดให้ อัตราที่ใช้คือ ปุ๋ยยูเรีย 1 กิโลกรัม ผสมกับน้ำ 10 ลิตร ประมาณการให้ปุ๋ยยูเรียที่ละลายน้ำแล้วต่อต้น ประมาณ 1 แก้วน้ำ ต่อต้น แต่ก่อนที่จะให้ปุ๋ยแก่ต้นมะนาว ดินควรมีความชื้นเพื่อที่จะทำให้ต้นมะนาวสามารถดูดใช้ปุ๋ยได้ดีขึ้น แต่การราดปุ๋ยระวังอย่ารดปุ๋ยให้ชิดโคนต้นมะนาว ให้ห่างออกมาอย่างน้อย 1 คืบ คือการใส่ปุ๋ยยูเรียบำรุงต้นมะนาวเล็ก เปรียบเทียบกับการใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ พบว่าการใช้ปุ๋ยยูเรียต้นจะโตเร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด ต้นที่ให้ปุ๋ยยูเรียอายุ 1 ปี จะสูงถึง 1.50-1.70 เมตรเลยทีเดียว แต่เราจะมาหยุดให้ปุ๋ยยูเรียก็ต่อเมื่อช่วงที่จะเตรียมออกดอกเท่านั้น ต้นมะนาวเล็กมักมีกิ่งกระโดงให้เด็ดปลายยอดทิ้ง ไม่นานกิ่งกระโดงที่ถูกเด็ดยอดอ่อนทิ้งมันจะแตกพุ่มอ่อนออกมาอีกจำนวนมาก พุ่มมะนาวเล็กของเราก็จะขยายใหญ่ขึ้นอีก การดูแลรักษาต้นมะนาวเล็ก คุณมานิดจะเน้นบำรุงดูแลรักษาใบอย่างเดียว ปลูกช่วงมะนาวเล็ก อยากให้ทรงพุ่มสวยก็ต้องใส่ปุ๋ยเป็น อย่างต้นมะนาวปลูกแล้วเอนไปทางซ้ายก็ต้องใส่ปุ๋ยข้างขวามากหน่อย ต้นมันจะตั้งตรงขึ้นมา ส่วนต้นพุ่มสวยปกติก็ใส่บริเวณทรงพุ่มมะนาว โคนต้นควรสูงราว 1 ศอก ให้โล่งหน่อย ถ้าดูแลรักษาดีต้นมะนาวอายุ 1 ปี ก็จะได้พุ่มเกือบ 2 เมตร เลย




 

Create Date : 20 กันยายน 2557    
Last Update : 20 กันยายน 2557 14:21:18 น.
Counter : 588 Pageviews.  

การแปรรูปเห็ดนางฟ้า

การแปรรูปเห็ดนางฟ้า

  1. การทำแหนมเห็ด

เครื่องปรุง

  1. เห็ดนางฟ้า ฉีกฝอยนึ่งสุก                                  1 กิโลกรัม
  2. เนื้อหมูสับละเอียด                                             200 กรัม
  3. กระเทียบสับ                                                     200 กรัม
  4. ข้าวสวย                                                           80 กรัม
  5. เกลือป่น                                                           18 กรัม
  6. ซีอิ้วขาว                                                           10 กรัม

วิธีทำ

  1. เลือกเห็ดที่กำลังจะบาน ล้างเห็ดให้สะอาด ตัดเอาส่วนที่เป็นโคนออก ให้เหลือแต่ดอกเก็ด แล้วฉีกเป็นฝอยชิ้นเล็ก ๆ เหมือนหนังหมูที่หั่นใส่แหนม แล้วนำเห็ดไปนึ่ง 5- 10 นาที นำมาผึ่งให้เย็นแล้วบีบคั่นน้ำออก
  2. นำเนื้อหมูสับละเอียด ลวกน้ำร้อนให้พอสุก ใส่ตะแกรงปล่อยให้สะเด็ดน้ำแล้วนำไปคลุกกับเห็ดที่ผึ่งไว้ กระเทียมสับละเอียด ข้าวสวย เกลือ ซีอิ้วขาว นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันในภาชนะปากกว้าง เช่น กะละมัง หรือหม้อ  โยการบีบ นวด คั้น จนเหนียว ปั้นได้ ปั้นเป็นก้อน ก้อนละ 100 กรัม (1ขีด) แล้วนำมาห่อด้วยถุงพลาสติก หรือใบตองกล้วย

วิธีบรรจุแหนมเห็ด

  1. ใช้ถุงพลาสติกใส ขนาด 4x6 นิ้ว ห่อแหนมเห็ดเข้ามุมเป็นสามเหลี่ยม ใช้ยางรัดให้แน่น จะได้แหนมเห็ดตามต้องการ
  2. ใช้ใบตองกล้วยสดห่อแบบข้าวต้มผัด ใช้ยางรัด 2-3 เปาะ เก็บไว้ในอุณหภูมิปกติ 25-30 องศาเซลเซียส ประมาณ 2 วัน แหนมจะเปรี้ยวรับทานได้

ถ้าต้องทำเป็น “แหนมเจ”ไม่ต้องใส่เนื้อหมูสับ




 

Create Date : 17 กันยายน 2557    
Last Update : 17 กันยายน 2557 13:33:29 น.
Counter : 666 Pageviews.  

ปลาซัคเกอร์

“ปลาซัคเกอร์” เอเลี่ยนที่จะทำให้ปลาไทยถึงกาลอวสาน PDF พิมพ์ อีเมล
ปลาซัคเกอร์ เมื่อวันที่ 26 ก.พ.51 มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดจังหวัดตาก จำนวนกว่า 20 นาย พร้อมด้วยชาวบ้านได้ร่วมกันจับปลาซัคเกอร์จากหนองน้ำขนาดใหญ่ในเขตเทศบาลเมืองตากเพียงแหล่งเดียวสามารถจับได้กว่า 5 ตัน ซึ่งปัจจุบันพบว่าปลาชนิดนี้ได้แพร่กระจายพันธุ์ไปตามแหล่งน้ำสาธารณะหลายแห่งทั่วประเทศไทย

ปลาซัคเกอร์มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น ปลากดเกราะ ปลาเทศบาล หรือปลาดูดกระจก จัดเป็นปลาสวยงามที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเมื่อนานมาแล้ว ถือเป็นสิ่งมีชีวิตต่างถิ่น (Alien species) ที่ประชาชนนิยมเลี้ยงเพื่อกินตะไคร่น้ำหรือเศษอาหารในตู้ปลา เมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักหลายกิโลกรัม ผู้เลี้ยงจึงมักจะนำไปปล่อยในแม่น้ำลำคลองต่างๆ

เนื่องจากปลาซัคเกอร์เป็นปลาที่มีความอดทนสูง สามารถอาศัยในแหล่งน้ำได้ทุกรูปแบบและกินอาหารได้เกือบทุกชนิด อีกทั้งยังสามารถวางไข่สืบพันธุ์ได้เองตามธรรมชาติ จึงทำให้มีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งการเพิ่มจำนวนของมันจะส่งผลกระทบต่อพันธุ์ปลาพื้นเมืองของไทยที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เพราะมันจะกินไข่ปลา หรือกินแม้กระทั่งลูกปลาวัยอ่อน

ขณะนี้ทางหน่วยราชการได้ประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจถึงอันตรายของปลาซัคเกอร์ มีทั้งให้ช่วยทำลายเมื่อจับได้รวมถึงให้นำมาแลกเปลี่ยนกับปลาเศรษฐกิจหรือปลาสวยงามเพื่อช่วยลดประชากรปลาซัคเกอร์ที่มีอยู่ทั่วไปในแหล่งน้ำสาธารณะ




 

Create Date : 16 กันยายน 2557    
Last Update : 16 กันยายน 2557 8:02:22 น.
Counter : 587 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

noknaka55
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • .
  • Friends' blogs
    [Add noknaka55's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.