ขันธ์ 5 คือตัวของคนเราแต่ละคน จึงเท่ากับสนามยุทธ แต่ยุทธวิธีของพระองค์ การแพ้คือการเข้าไปยึดถือ การชนะคือการปล่อยวางให้มันเป็นไปตามสภาพเดิมของมัน ข้าศึกที่แพ้แก่พระองค์แล้วไปตั้งทัพอยู่ ณ ที่ไหน ตอบว่าเมื่อแพ้ต่อพระองค์แล้วก็ต้องเป็นบ่าวรับใช้ของพระองค์ต่อไป ผู้ที่เอาชนะมันไม่ได้เท่านั้นจึงยอมเป็นทาสของมันต่อไป ฉะนั้น ขันธ์ที่ยังไม่มีใครเอาชนะได้จึงยังมีอิสระครอบครองโลกทั้งสามอยู่ (กามโลก-รูปโลก-อรูปโลก ) ความเกิดดับของขันธ์ตามความเป็นจริง ดังอุปมา
1.รูปขันธ์ เปรียบเหมือนฟองนํ้าอันเกิดจากคลื่นหรือระลอก เป็นต่อมเป็นฟองขึ้นมาชั่วครู่หนึ่งประเดี๋ยวแล้วก็ดับแตกไปเป็นนํ้าตามเดิม
2.เวทนา เปรียบเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ลูกคลื่นเหมื่อนกับเป็นตัวตนกลิ้งมากระทบกับฝั่งดังซู่ซ่าแล้วสลายหายตัวไปเป็นนํ้าตามเดิม
3.สัญญา เปรียบเหมือนพยับแดด ธรรมดาอันเกิดจากไอระเหยของความร้อน เมื่อบุคคลเพ่งมองดูอยู่แต่ที่ไกลจะแลเห็นเป็นตัวระยิบระยับเป็นกลุ่มเป็นหมู่ๆ เมื่อเข้าถึงไกล้แล้วสิ่งที่เห็นอยู่นั้นก็หายไป
4.สังขาร เปรียบเหมือนต้นกล้วย ธรรมชาติของต้นกล้วยไม่มีแก่นเป็นธรรมดา
5.วิญญาณ เปรียบเหมือนมายา ธรรมดาเรื่องของมายาแล้ว มีแต่จะหลอกหลวงผู้อื่นให้เข้าใจผิดคิดตามไม่ทันในเรื่องของตัวเท่านั้น
คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นคำสอนยุทธวิธีเพื่อผจญกับกิเลสข้าศึกความชั่ว ซึ่งมันฝังอยู่ในตัวของแต่ละบุคคลมานานแล้ว
(ที่มา: หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย )