happy memories
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
26 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 

เสพงานศิลป์ ๑๙




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - ‪Yuhki Kuramoto‬










พระพิฆเนศ นาฏลีลาประทานพร ร่วมบุญโครงการที่อยู่ถาวรช้างไทย



มูลนิธิกองทุนรักษ์ช้าง ก่อตั้งขึ้นจากการรวมตัวของคณะบุคคลที่เห็นพ้องต้องกันว่า “ช้าง” เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลก สมควรอนุรักษ์ไว้ยั่งยืนสืบไปพิไลพรรณ สมบัติศิริ ประธานมูลนิธิกองทุนรักษ์ช้าง ร่วมกับ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ริเริ่มจัดตั้ง โครงการที่อยู่ถาวรของช้างไทย (Elephant Sanctuary) ตั้งอยู่เลขที่ ๓๖๑ หมู่ ๒ ริมทางหลวงหมายเลข ๓๒๕๙ (สนามชัยเขต-คลองหาด) กิโลเมตรที่ ๓๖ ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๔


วัตถุประสงค์ เพื่อให้มีสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเลี้ยงดูช้าง ทั้งช้างบริจาค ช้างป่วย ช้างชรา ช้างพิการ ช้างของกลาง และรับช้างเลี้ยงที่มีปัญหา เพื่อเป็นต้นแบบมาตรฐานสำหรับการเลี้ยงช้างและจัดการสวัสดิภาพช้างให้มี คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีที่อยู่ มีรายได้ มีอาหารเพียงพอ และมีสภาพแวดล้อมที่ดี


ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์อุปถัมภ์ สถาบันคชบาลแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิกองทุนรักษ์ช้าง จึงจัดสร้าง พระพิฆเนศ นาฏลีลาประทานพร มอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ใจบุญที่ร่วมบริจาคใน โครงการที่อยู่ถาวรของช้างไทย ปั้นแบบโดย อาจารย์เสวก สงเคราะห์ ประติมากรชื่อดังจากมหาวิทยาลัยศิลปากร แบ่งเป็น ขนาด ๖๖ ซม. ทำด้วยซิลิคอนบรอนซ์ สูง ๙๐ ซม. จำนวน ๖๖ องค์ บูชาองค์ละ ๑๙๙,๙๙๙ บาท (เลือกหมายเลขได้) ขนาด ๓๖ ซม. ทำด้วยซิลิคอนบรอนซ์ สูง ๕๐ ซม. ๖๖๖ องค์ บูชาองค์ละ ๓๖,๖๖๖ บาท ขนาด ๑๖ ซม. ทำด้วยซิลิคอนบรอนซ์ สูง ๒๔ ซม. ๖,๖๖๖ องค์ บูชาองค์ละ ๙,๙๙๕ บาท ขนาด ๒ ซม. ๓ ซม. ๖ ซม. ทำด้วยทองแดง ๑ ชุด ๓ องค์ บรรจุกล่องสวยงาม บูชาชุดละ ๒,๙๙๖ บาท


ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ให้เกียรติเป็นประธานใน พิธีพุทธาภิเษก โดยมี พระสมณศักดิ์จาก ๔ พระอารามหลวง คือ พระเทพสารเวที วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร พระเทพประสิทธิโสภณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร พระราชพิจิตรธรรมวาที วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรวิหาร และพระเมธีวราลงกรณ์ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร พระไผ่ เตชะปุญโญ วัดสระมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา กับคณะอธิษฐานจิต จัด พิธีเทวาภิเษก โดยพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณฯ ประธานพระครูพราหมณ์ ณ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป ฤกษ์พิธีเททองเวลา ๑๕.๕๙ น.


สนใจส่งใบจองและเขียนเช็คสั่งจ่าย มูลนิธิกองทุนรักษ์ช้าง–พระพิฆเนศ โครงการที่อยู่ถาวรของช้างไทย (ขีดคร่อมและขีดฆ่าหรือผู้ถือ) หรือโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขาย่อยเซ็นทรัลชิดลม ชื่อบัญชี มูลนิธิกองทุนรักษ์ช้าง–พระพิฆเนศ โครงการที่อยู่ถาวรของช้างไทย เลขบัญชี ๗๘๗-๒-๐๗๒๙๕-๕ ประเภทออมทรัพย์ แล้วส่งสำเนาการโอนเงินพร้อมรายละเอียดไปที่ มูลนิธิกองทุนรักษ์ช้าง โทรสาร ๐-๒๒๕๒-๐๑๔๒ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ๐-๒๕๒๕-๐๑๔๑ หรือ ๐๘-๑๗๓๕-๘๗๑๑ อีเมล : kunjarika@gmail.com


ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com
dailynews.co.th













"๙๙ กษาปณ์แห่งองค์ราชัน คลังมรดกแห่งแผ่นดิน"


กรมธนารักษ์ จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “๙๙ กษาปณ์แห่งองค์ราชัน คลังมรดกแห่งแผ่นดิน" ๘o ปี กรมธนารักษ์ ร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมโชว์สุดยอดเหรียญกษาปณ์และสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ทันสมัยและเฉลิมฉลองครบรอบ ๘o ปี กรมธนารักษ์ ในฐานะเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม ให้ประชาชนชาวไทยเห็นความสำคัญของเงินตราเหรียญกษาปณ์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ แห่งการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ โดยงานกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๒ - ๒๕ พฤศจิกายน ศกนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์






วันนี้ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๕) ณ กรมธนารักษ์ นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในปีมหามงคล ๒๕๕๕ นี้ กรมธนารักษ์ ได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “๙๙ กษาปณ์แห่งองค์ราชัน คลังมรดกแห่งแผ่นดิน" ๘o ปีกรมธนารักษ์ ขึ้น โดยจัดเป็นงานนิทรรศการเพื่อเผยแพร่พระปรีชาสามารถ พระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกิจที่ทรงสร้างรากฐานที่เข้มแข็งให้กับราษฎร ทรงได้มอบปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นหนทางในการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้ กับประเทศ และวัตถุประสงค์ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ให้ประชาชนชาวไทยหันมาใช้เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความคุ้มค่าและประหยัดงบประมาณแผ่นดินในการผลิตเหรียญใหม่






นายนริศ กล่าวต่อว่า ภายในงานเฉลิมพระเกียรติฯ “๙๙ กษาปณ์แห่งองค์ราชัน คลังมรดกแห่งแผ่นดิน" ๘o ปี กรมธนารักษ์ได้จัดแสดงเหรียญกษาปณ์ในรัชกาลที่ ๙ ซึ่งเป็นสุดยอดกษาปณ์แห่งองค์ราชัน รวมทั้งสิ้น ๙๙ เหรียญ โดยได้นำเทคโนโลยีมัลติมีเดียอันทันสมัยมาเป็นหลักในการจัดแสดงนิทรรศการ ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ อาทิ การฉายภาพทรัพย์สินอันมีค่าของแผ่นดิน ผ่าน Magic Theater ที่ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมแสดงระบบภาพเสียงที่ทำให้ผู้เข้าชมงานรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง และเทคนิควัน-เวย์ มิลเลอร์ (One-way Mirror) ที่เป็นการมองผ่านกระจกทะลุได้เพียงด้านเดียว ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชมนิทรรศการรู้สึกถึงความงดงามกับการโชว์สมบัติอันล้ำค่า ของแผ่นดินที่หาดูได้ยาก






พร้อมกันนี้ ยังได้มีการจำหน่ายเหรียญกษาปณ์ของกรมธนารักษ์ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยหันมาสะสมเหรียญกษาปณ์ที่ทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดเด่นภายในงานครั้งนี้ เป็นการนำเสนอห้องนิทรรศการในรูปแบบต่างๆ โดยได้แบ่งห้องนิทรรศการออกเป็น ๒ ห้อง คือ ห้องนิทรรศการที่ ๑ “พระคลังหลวง”และห้องนิทรรศการที่ ๒ จะมีทั้งหมดรวม ๖ โซน ได้แก่ โซนที่ ๑ ตลาดโบราณ โซนที่ ๒ ถุงแดง โซนที่ ๓ เหรียญบรรณาการ โซนที่ ๔ วิวัฒน์โรงกษาปณ์ โซนที่ ๕ ผลิตเหรียญกษาปณ์ และโซนที่ ๖ “๙๙ กษาปณ์แห่งองค์ราชัน” ซึ่งเป็นไฮท์ไลท์ของงานที่จัดแสดงสุดยอด ๙๙ กษาปณ์แห่งองค์ราชัน ที่หาชมได้ยาก พร้อมกันนี้ ผู้ที่เข้าชมงานจะได้สัมผัสกลิ่นไอ และร่วมย้อนเวลาไปพบกับบรรยากาศที่เสมือนจริงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ ถึงรัชกาลที่ ๕ พร้อมได้สัมผัสวิถีชีวิตและความเจริญรุ่งเรืองในแต่ละสมัยที่พัฒนามาจนถึง ปัจจุบันนี้







งานเฉลิมพระเกียรติฯ “๙๙ กษาปณ์แห่งองค์ราชัน คลังมรดกแผ่นดิน” ๘o ปี กรมธนารักษ์ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒ – ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ณ ห้องบอลลูม เอ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา ๑o.oo - ๒o.oo น. โดยได้เรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานเปิดงาน ซึ่งการจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะทำให้ประชาชนได้ความรู้และตระหนักในคุณค่า ทรัพย์สินของแผ่นดิน และเหรียญกษาปณ์ไทย นอกจากนี้แล้ว ยังได้อัญเชิญพระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติลอยองค์ มาให้ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ได้ร่วมสักการะเพื่อขอพรในการดูแลพิทักษ์ทรัพย์สมบัติอีกด้วย นายนริศกล่าวในตอนท้าย






ภาพและข้อมูลจากเวบ
thaigov.go.th
krobkruakao.com













"วิถีชีวิต- ธรรมชาติและวัฒนธรรม"


ร่วมสืบสานตำนานประเพณีลอยกระทง พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมแห่งเมืองกรุงศรีอยุธยา ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุค เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๘o พรรษา ได้ระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ณ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา






ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ จัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘o พรรษา และงานลอยกระทงตามประทีป ประจำปี ๒๕๕๕ ภายใต้แนวความคิด “ศิลปาชีพฯ ประทีปศรัทธา ถวายบูชา ๘o พรรษา มหาราชินี” สัมผัสความรื่นเริงของประเพณีลอยกระทงในสามบรรยากาศ ตราตรึงกับมนต์เสน่ห์ของการจำลองพระราชพิธีจองเปรียง ลดชุด ลอยโคม พระราชพิธีที่เลือนหายกว่า ๑oo ปี ในบรรยากาศแห่งพิธีกรรมราชสำนัก ที่งดงาม ตระการตา หาดูได้ยาก โดยจะจัด ระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ตั้งแต่เวลา ๑o.oo น. เป็นต้นไป ณ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา






งาน “เฉลิมพระเกียรติ ๘o พรรษา มหาราชินี และลอยกระทงตามประทีป ประจำปี ๒๕๕๕” เป็นงานที่ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ จัดเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีลอยกระทงให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ตลอดจนส่งเสริมผลงานด้านศิลปกรรมของศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และด้วยปีนี้เป็นปีมหามงคลที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๘o พรรษา ทางคณะกรรมการจัดงาน โดยศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ จึงเปิดห้องทรงงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นครั้งแรกในรอบ ๓๒ ปี พร้อมชม ๘o ผลงานชิ้นเอก “๘o งานศิลป์ ศีลปาชีพฯ รังสรรค์” และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในแนวคิด “อัครราชินี ศรีแผ่นดิน” นอกจากนี้ภายในงานยังประกอบไปด้วย กิจกรรมอันหลากหลาย อาทิ พิธีกรรมแห่งราชสำนัก การจำลองพระราชพิธีจองเปรียง ลดชุด ลอยโคม เพื่อให้ ผู้ร่วมงานได้ชมขบวนพิธีอันสวยงามที่หาชมได้ยาก ความรื่นเริงแบบย้อนยุค ร่วมย้อนวันวานไปกับ โซนขายของที่ระลึกกับตลาดนัดวันวาน งานวัดย้อนยุค และการละเล่นพื้นบ้าน อาทิ รีรีข้าวสาร, ม้าก้านกล้วย ฯลฯ






นอกจากนี้ยังมีการประกวดกระทงและนางนพมาศ, หนูน้อยนพมาศ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และเพลิดเพลินไปกับการแสดงศิลปวัฒนธรรม ร่วมย้อนยุคไปกับบทเพลงสุนทราภรณ์ในบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมจากฝีมือช่างในศูนย์ศิลปาชีพฯ ชมการจุดพลุ การปล่อยโคม และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงาน พระนครศรีอยุธยา โทร. o-๓๕๒๖-๖o๗๖-๗






ภาพและข้อมูลจากเวบ
painaidii.com














"งานเพื่อนพึ่ง (ภา) ๒๕๕๕"


สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ทรงเป็นองค์ประธานเปิดงาน “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ๒๕๕๕ เฉลิมพระเกียรติมหาราชินี” โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ องค์ประธานกิตติมศักดิ์ เฝ้าฯรับเสด็จในวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๗.oo น. ณ วังสวนกุหลาบ ภายในงานมีการจัดซุ้มรูปนกยูงที่ประดิษฐ์จากดอกไม้หลากสีสันอันสวยงามตระการตา ให้ประชาชนที่ไปเที่ยวงานได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก พร้อมเชิญชวนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฝีพระหัตถ์ ตับบดเสวย ไส้กรอกหมูเห็ดเสวย ผักสวนครัวส่วนพระองค์ งานเดโคพาจดอกไม้สวย ๆ และพันธุ์ไม้หายาก






ในท้องพระโรงร้านวังรื่นฤดี นำน้ำอบ - น้ำปรุงสูตรพระพันปี หายากมาก หมดแล้วหมดเลย ร้านมูลนิธิพระพันวัสสาฯ จำหน่ายเหรียญแสตมป์ ๑๕o ปีพระพันวัสสา ร้านข้าราชบริพารวังเลอดิส มีขนมไทย ๆ หน้านวล - อาลัว - ถั่วกวน ผีมือชาววังเก่าที่อร่อยมาก พร้อมสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย งานจะมีไปจนถึงวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑o.oo - ๒๑.oo น. บัตรเข้าชมงาน ๒o บาทเท่านั้น รายได้จากการจัดงานสมทบมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยผู้ประสบภัยทั่วประเทศ










ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com
dailynews.co.th
thairath.co.th














"เทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ครั้งที่ ๓ “ภูมิรู้สู้วิกฤต"


เมื่อ เวลา ๑๓.oo น.วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์ การมหาชน) นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวในฐานะประธาน แถลงข่าวงานเทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ครั้งที่ ๓ ว่า กระทรวงวัฒนธรรมโดยศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์ การมหาชน) กำหนดจัดงานเทศกาลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ครั้งที่ ๓ ในหัวข้อ “ภูมิรู้สู้วิกฤต” ระหว่างวันที่ ๒๓ — ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์ การมหาชน) โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระ เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน และเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการในวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ โดยในงานเทศกาลจะมีการแสดงข้าวของจากพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ๖๙ แห่ง เวทีเสวนาห้องประดิษฐ์ครัวอาสาสาธิตการทำเมนูพื้นบ้าน และชมภาพยนตร์


นายสนธยา กล่าวต่อว่า การจัดเทศกาลฯ ในครั้งนี้ต้องการแสดงให้เห็นความหลากหลายของความรู้ในสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งที่อยู่ในตัวคน ชุมชน ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ที่ท้องถิ่นนำมาใช้จัดการกับปัญหาที่ตน เผชิญทั้งภัยสงครามภัยธรรมชาติ โรคภัยไข้เจ็บ หรือบางสถานการณ์ไม่ได้ส่งผลอย่างทันทีทันใด แต่เป็นเหตุให้วิถีชีวิตประเพณี วัฒนธรรมของคนต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยปราศจากทางเลือก เช่น ความทันสมัย โลกาภิวัตน์ ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม เป็นต้น ทั้งนี้ ภายในงานยังได้เชิญตัวแทนพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจำนวน ๖๙ แห่งทั่วประเทศมาร่วมบอกเล่าถึงความเดือดร้อน ความทุกข์ยาก ความลำบาก และปัญหาที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า คนในท้องถิ่นมีความทรงจำอะ ไรบ้างเกี่ยวกับเหตุการณ์ความทุกข์ยากที่เกิดขึ้น ที่สำคัญพวกเขามีวิธีรับมือกับปัญหาอย่างไรให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีกำลังใจ ตลอดจนพวกเขาปกป้องมรดกวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนเองอย่างไรให้ดำรงอยู่ได้ท่ามกลางสังคมที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งอวดข้าวของ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ เป็นภูมิความรู้ที่ใช้แก้ปัญหาของแต่ละท้องถิ่นภูมิรู้สู้วิกฤต โดยแบ่งการแสดงเป็น ๕ พื้นที่ ได้แก่ ภูมิรู้สู้โรคภัย ภูมิรู้สู้ภัยธรรมชาติ ภูมิรู้สู้ภัยสงคราม- การเมือง ภูมิรู้สู้เศรษฐกิจ และภูมิรู้สู้การ เปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม


ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ สอบถามรายละเอียด โทร. o๒-๘๘o-๙๔๒๙ หรือชมกำหนดการแบบสมบูรณ์ ได้ที่ //www.sac.or.th/ หรือ เฟสบุ๊ค //www.facebook.com/localmuseum.festival



ภาพและข้อมูลจาก
ardelgallery.com
thailandexhibition.com














"ระยะ : ไทยไท - Thaitai : A Measure of Understanding"


“ระยะ:ไทยไท” คือโครงการแลกเปลี่ยนศิลปะร่วมสมัย ริเริ่มโดยศิลปินไทยและไต้หวัน เป็นการเคลื่อนและร่วมมือกันระหว่างกลุ่ม OCAC (สาธารณรัฐไต้หวัน) และศิลปินคู่ jiandyin (ประเทศไทย) ผลงานของศิลปินที่สร้างสรรค์ขึ้นทั้งในประเทศและระหว่างประเทศคือผลลัพท์ของ การสื่อสารระหว่างกัน ที่ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็น ๒ ส่วน ส่วนแรกคือโครงการแลกเปลี่ยนศิลปะร่วมสมัย จัดแสดงขึ้นในประเทศไทย ณ หอศิลปและวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยนำเสนอผลงานฯจากศิลปินไต้หวัน ๑๒ ท่านและศิลปินไทย ๑o ท่าน เข้าร่วมโครงการฯ จัดแสดงผลงานในนิทรรศการ และกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ การสัมมนา การแสดงสด และการอบรมเชิงปฏิบัติการ ณ หอศิลปและวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร หอศิลป์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และศูนย์ศิลปะร่วมสมัย OCAC Bangkokส่วนที่ ๒ จัดโครงการฯที่สาธารณรัฐไต้หวัน ในปีพ.ศ. ๒๕๕๖


โครงการแลกเปลี่ยนฯ ระหว่างศิลปินไทย/ไต้หวัน มุ่งเน้นประสบการณ์การเรียนรู้ข้ามเส้นแบ่งวัฒนธรรมทางศิลปะร่วมสมัย และความเป็นไปได้ในการทดแทนแนวคิดกระแสหลักจากมุมมองแบบตะวันตก บทบาทของศิลปะร่วมสมัยนำเราก้าวล่วงเข้าสู่พื้นที่แห่งภูมิรัฐศาสตร์ ลักษณะการแทรกซึมและสถานะของมันแยกตัวอย่างเป็นอิสระออกจากความจริง บทบาทของศิลปะร่วมสมัยจึงมีความยืดหยุ่น เหมาะสมต่อการเติมเต็มและชดเชยสถานการณ์ของการแยกตัวออกจากกันระหว่าง ภูมิภาคท่ามกลางวาทกรรมการต่อต้านโลกาภิวัฒน์ อำนวยให้เกิดกระบวนการทางสุนทรียภาพของท้องถิ่นในระดับภูมิภาค ขณะที่วัฒนธรรมหลายแห่งถูกลดทอนคุณค่ากลายเป็นสินค้าตีตราดังปรากฏในตลาด ศิลปะ ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและความพยายามให้เป็นหนึ่งเดียวของศิลปะด้วยระบบลดทอน เหลือเพียงรูปสัญลักษณ์และภาพนั้น ทำให้รายละเอียดมากมายสูญสลายและตกหล่นไป ระหว่างกระบวนการ ระยะ:ไทยไท จึงตั้งคำถามและพยายามผลักดันให้ประสบการณ์ทางสังคม และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นสิ่งซึ่งไม่อาจลดทอนได้ โดยอาศัยกระบวนการสนทนาข้ามพรหมแดนและการลงพื้นที่ปฏิบัติการ เราจะทำอย่างไรให้สถานการณ์การสื่อสารทางศิลปะในระดับท้องถิ่น และการฟื้นฟูความหลากหลาย ความสลับซับซ้อนในการปฏิบัติงานศิลปะ เป็นเฉกเช่นประสบการณ์เชิงการสื่อสารแลกเปลี่ยนระหว่างกัน


โครงการนิทรรศการ การอบรมเชิงปฏิบัติการ และการสัมมนาศิลปะร่วมสมัยระหว่างศิลปินไทยและไต้หวัน จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒ พฤจิกายน ๒๕๕๕ – ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ชั้น ๗ หอศิลป Bacc เปิดนิทรรศการวันที่ ๒๒ พฤจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๗.oo น.


ภาพและข้อมูลจาก
fineart-magazine.com













หนังสือ "หนองคายคมเลนส์ : ๑oo ภาพเด่นริมฝั่งโขง


"หนองคายคมเลนส์ ร้อยภาพเด่นริมฝั่งโขง"


จังหวัดหนองคาย ร่วมกับ สห+ภาพ ชุมชนคนถ่ายภาพ จัดนิทรรศการและหนังสือภาพ “หนองคายคมเลนส์ : ๑oo ภาพเด่นริมฝั่งโขง” ณ ศูนย์จำหน่ายสินค้าภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและบริการการท่องเที่ยวหนองคาย (ศูนย์ OTOP) อ.เมือง จ.หนองคาย เพื่อเป็นการเผยแพร่ความงดงามของธรรมชาติ ประเพณี วิถีชีวิต และแหล่งท่องเที่ยวของหนองคาย ที่ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองพักผ่อนที่ดีที่สุดในโลก อันดับที่ ๗





อาทิตย์ดวงเดียวกัน สะพานมิตรภาพไทย-ลาว (ภาพ ชัชวาล ดาจันทร์)



เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายนที่ผ่านมา จังหวัดหนองคายร่วมกับกลุ่มสห+ภาพ เปิดนิทรรศการ และเปิดตัวหนังสือ "หนองคายคมเลนส์: ๑oo ภาพเด่นริมฝั่งโขง" ( Miracle Nong Khai ) ณ ศูนย์จำหน่ายสินค้าภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและบริการการท่องเที่ยวหนองคาย (ศูนย์ OTOP) โดยมี นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และนางจิระนันท์ พิตรปรีชา ประธาน ที่ปรึกษากลุ่ม สห+ภาพ เป็นประธานเปิดงาน โดยจังหวัดหนองคาย ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองพักผ่อนที่ดีที่สุดในโลก อันดับที่ ๗ สำหรับพลเมืองผู้สูงอายุชาวอเมริกัน โดยผู้อ่านนิตยสาร Modern Maturity ฉบับพฤษภาคม - มิถุนายน ๒๕๕๔ และเป็นอีกจังหวัดในประเทศไทยที่งดงามอุดมสมบูรณ์ ทั้งภูมิทัศน์ วัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีชีวิตพื้นถิ่นอีสาน ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมที่สำคัญระหว่างชายแดนไทย-ลาว โดยมีสะพานมิตรภาพและทางรถไฟข้ามแม่น้ำโขงไปสู่เขตกำแพงนครเวียงจันท์ เมืองหลวงของประเทศลาว






การสาธิตวิธีการทำสินค้าหัตถกรรม (OTOP) จ.หนองคาย



ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการประสานความร่วมมือระหว่างจังหวัดหนองคายและกลุ่ม สห+ภาพ ชุมชนคนถ่ายภาพ จัดทำโครงการนิทรรศการภาพถ่าย และหนังสือภาพ “ หนองคายคมเลนส์: ๑oo ภาพเด่นริมฝั่งโขง” ขึ้น เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความงดงามของธรรมชาติ ประเพณี วิถีชีวิต และแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด โดยโครงการนี้ได้นำช่างภาพกว่า ๓o ชีวิต มาตระเวนบันทึกภาพหนองคายในแง่มุมที่หลากหลาย เพื่อจัดแสดงนิทรรศการภาพ และจัดทำหนังสือภาพ โดยมี เกรียงไกร ไวยกิจ และ ธีรภาพ โลหิตกุล เป็นบรรณาธิการภาพและบทความ เป็นอีกหนึ่งบทบันทึกของยุคสมัยก่อนที่หนองคายจะมีบทบาทสำคัญยิ่งในการที่ ประเทศไทยเราจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๕๘


นอกจากนี้แล้วภายในงานยังมีการจัดแสดงภาพถ่าย การสาธิตวิธีการทำสินค้าหัตถกรรม (OTOP) จ.หนองคายรวมถึงมีการจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ และมินิคอนเสิร์ต โดยศิลปินลูกหนองคาย พลพล พลกองเส็ง อีกด้วย


ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














"ศิลปะเพื่อการกุศล “ต้นธารแห่งความสุข"


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ขอเชิญชมนิทรรศการศิลปะเพื่อการกุศล “ต้นธารแห่งความสุข” ซึ่งคณะกรรมการวัดพระธรรมจักรร่วมกับศิลปินแห่งชาติ จัดขึ้นเพื่อระดมทุนซื้อที่ดินและสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมอันเป็นการฉลอง ปี“พุทธชยันตี” ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า โดยจัดแสดงผลงานศิลปะจาก ๘ ศิลปินแห่งชาติ ได้แก่ ชะลูด นิ่มเสมอ, ประหยัด พงษ์คำ, พิชัย นิรันต์, สันต์ สารากรบริรักษ์, ทวี รัชณีกร, นนทิวรรธน์ จันทนะผลิน, อิทธิพล ตั้งโฉลก และปรีชา เถาทอง พร้อมศิลปินระดับประเทศอีกหลายท่าน


“ศิลปะ”เป็นสิ่งที่สามารถยกระดับจิตใจคน ให้เข้าถึงความดี ความงาม และความจริงอันประเสริฐ ดังนั้น ธรรมะและศิลปะจึงมิเคยแยกจากกัน โครงการ “ต้นธารแห่งความสุข” จึงเกิดขึ้น เมื่อสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งชื่อว่า “ศูนย์กลางการศึกษาวิปัสสนาธุระ พุทธวิหาร” ตั้งอยู่ในวัดพระธรรมจักร ต.ดงละคร อ.เมือง จังหวัดนครนายก มีความจำเป็นต้องขยายพื้นที่ เพื่อรองรับการเรียนการสอนกัมมัฏฐานที่ขยายขอบเขตกว้างขึ้น แต่ยังขาดปัจจัยในการซื้อที่ดิน รวมทั้งปัจจัยในการก่อสร้าง


นิทรรศการนี้จัดแสดงระหว่างวันที่ ๓ - ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ผู้สนใจเข้าชมได้ทุกวันพุธ - อาทิตย์ ปิดวันจันทร์ – อังคาร เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพฯ


ภาพและข้อมูลจาก
finearts.go.th














"ในความแปรเปลี่ยน"


จิตรกรรมเทคนิคผสม ของบุญช่วย เกิดรี ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ของศิลปินในสถานการณ์ต่างๆที่เต็มไปด้วยความแปรเปลี่ยน ศิลปินใช้สัญลักษณ์บันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นแสดงออกถึงสภาวะภายในที่เงียบงัน ความกังวล บางครั้งก็เป็นความสะเทือนใจจากสิ่งที่คาดเดาได้ยาก ในความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่สังคมเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความผันผวนของมนุษย์โลก รวมไปถึงความผันผวนของธรรมชาติ นิทรรศการครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการเสียดสี ประเด็นต่าง ๆ ทางสังคม แต่เป็นการสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ให้ผู้คนได้คิดตระหนักถึงความแปรเปลี่ยนที่เกิดขึ้นทุกลมหายใจ


บุญช่วย เกิดรี ได้รับรางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๒ เหรียญเงินในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๔๙ และ รางวัลที่ ๒ ธนาคารกรุงไทย จากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๑ เคยฝากผลงานการแสดงเดี่ยวนิทรรศการ “จินตภาพเชิงลบ ๒๕๕๑” ณ หอศิลป์จามจุรี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอาจารย์ ประจำสาขา วิชาศิลปะการออกแบบพัสตราภรณ์ คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์


นิทรรศการจัดตั้งแต่วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน – ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๕



ภาพและข้อมูลจาก
wikalenda.com














“ดอกไม้จัดใจ โคริงกะ”


โรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์ จัดเวิร์กช็อป “ดอกไม้จัดใจ...โคริงกะ” ศิลปะบำบัด ปรับความคิด จิตใจเบิกบาน ฟังการบรรยายและชมสาธิตการจัดดอกไม้จาก อ.อภิสิรี จรัลชวนะเพท ประธานมูลนิธิบ้านรัก ในวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๕


การจัดดอกไม้ “โคริงกะ” เป็นการจัดดอกไม้แบบตะวันออก ซึ่งถือเป็นศิลปะบำบัดรักษาความเครียด ไม่มีการวางรูปแบบเหมือนการจัดดอกไม้ทั่วไป กล่าวคือ เป็นการจัดดอกไม้ตามใจดอกไม้ แสดงส่วนที่งดงามตามธรรมชาติมากที่สุด ดอกไม้จึงมีชีวิตชีวาเมื่อผู้จัดได้สัมผัสกับดอกไม้ ซึ่งมีพลังชีวิตทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ได้พลังจากดอกไม้ เกิดความสบายตา สบายใจ และผลงานที่ออกมาอาจจะแสดงอะไรบางอย่างราวกับว่ามีบุคลิกภาพ


อ.อภิสิรี จรัลชวนะเพท ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาวอลดอร์ฟ และ ประธานมูลนิธิบ้านรักได้เข้าคอร์สอบรมการจัดดอกไม้ โคริงกะ จาก มร.โมกิจิ โอทากะ แห่งสถาบัน MOA และได้เห็นประโยชน์มหาศาลจากการจัดดอกไม้สไตล์นี้ จึงต้องการจะเผยแพร่ให้กับทุกคนได้นำไปใช้ประโยชน์ จึงนับเป็น
ผู้สนใจสามารถร่วมฟังการบรรยายและชมสาธิตการจัดดอกไม้ โคริงกะ จาก อ.อภิสิรีได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากต้องการที่จะลงมือปฏิบัติการจัดดอกไม้โคริงกะ มีค่าใช้จ่ายสำหรับดอกไม้และวัสดุอุปกรณ์เพียงท่านละ ๓oo บาทเท่านั้น


เวิร์กช็อป “ดอกไม้จัดใจ...โคริงกะ” จะมีขึ้นในวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.oo น. ณ โรงแรมทวินทาวเวอร์ สำรองที่นั่งร่วมงานหรือเรียนจัดดอกไม้ล่วงหน้าได้ที่โทร. o๒-๒๑๖-๙๕๕๕


ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com
thaipr.net














"ประกายพรึก ๓"


ก้าวที่ ๓ ปีพ.ศ. ๒๕๔๘ กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาได้จัดการแสดงผลงานศิลปะ ขึ้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะแสดงทักษะความคิดความรู้สึกกลุ่มประกายพรึกจึงได้ เริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลานั้น


ด้วยประสบการณ์ชีวิตหลังจากผ่านพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัยสมาชิกหลายๆคนต้อง ดิ้นรนในการ ใช้ชีวิตผ่านความสุขความทุกข์เป็นประสบการณ์ที่สั่งสมกลั่นกรองและถ่ายทอด ออกมาในการแสดง ผลงานศิลปะ ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๕๒ ในปีพ.ศ. ๒๕๕๕ นี้การแสดงผลงานของกลุ่มประกายพรึกครั้งที่ ๓ ได้เกิดขึ้นอีกครั้งจากการรวมตัวกันของสมาชิกแม้ว่าหลาย ๆ คนจะมีวิถีทางที่แตกต่างกันไป บางคนก็ยังสามารถยืนหยัดในหนทางศิลปินอย่างแน่วแน่บางคนก็ต้องมีหน้าที่การงาน อื่นที่ต้องทำหากแต่ สิ่งที่ดึงดูดให้แต่ละคนได้มารวมตัวกันนั้นคือสายใยแห่งศิลปะและมิตรภาพอัน แน่วแน่ส่งผลให้เกิด ความเคลือนไหวต่อเนื่องเพื่อให้กลุ่มประกายพรึกก้าวเดินต่อไปประกายพรึก ๒๕๕๕


คุณวิรุณ คำภิโล กรรมการหอการค้าไทย ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤสจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๙.oo น. ณ 9 Art Gallery / Architect Studio เชียงราย


นิทรรศการ : “ประกายพรึก ๓″ (ของ กลุ่มประกายพรึก)

ศิลปิน : จักรนรินทร์ อินทร์วงศ์วาร, ทศพร หงษ์มณี , วิกรม วิชัยเนตร , ชัชวาล ปรัง , ณรงค์ยศ ทองอยู่

วันที่ : ๑๘ พฤศจิกายน – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕

สถานที่ : 9 Art Gallery / Architect Studio เชียงราย

ติดต่อโทร : o๕๓-๗๑๙-๑๑o, o๘๓-๑๕๒-๖o๒๑

อีเมล์ : artgallery9@hotmail.com

เว็บไซต์ : 9artgallery.com





จักรนรินทร์ อินทร์วงศ์วาร




ทศพร หงษ์มณี





วิกรม วิชัยเนตร





ชัชวาล ปรัง





ณรงค์ยศ ทองอยู่



ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com














"สมบูรณ์แบบ"


จากภาพถ่ายในยุคสมัยก่อนที่จัดฉาก วางองค์ประกอบ ใส่ใจในรายละเอียดทุกแง่มุม ถ่ายทอดภาพของผู้ที่ถูกถ่ายให้เป็นภาพแห่งความสมบูรณ์แบบ “Picture Perfect” หรือ “ภาพสมบูรณ์แบบ” กลายเป็นคำติดปากเพื่อใช้อธิบายถึงภาพลักษณ์แห่งความไร้ที่ติ


ความหมายของภาพสมบูรณ์แบบ ถึงจะตีความได้หลากหลายและแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่หัวใจของการสร้างภาพไม่ได้ไปไกลจากยุคสมัยก่อน ที่ภาษาของภาพพูดถึงการให้คุณค่าชีวิต แสดงออกถึงอุดมคติของความงาม สื่อตัวอย่างของความสัมบูรณ์ ครบถ้วน ถูกต้องมาตรฐานตามที่ควรเป็น


ภาพถ่ายแห่งความสมบูรณ์แบบกลายเป็นอุดมคติของภาพบนระนาบเดียวกันกับความ งามไร้ที่ติของหญิงสาวหรือความงามไร้กาลเวลาของพระอาทิตย์ตก หากการถ่ายภาพคือการสร้างความสำคัญให้กับสิ่งที่ถูกถ่าย อาจเป็นข้อถกเถียงได้ว่าทัศนคติในความงามและความสมบูรณ์แบบของภาพอาจได้เพิก เฉยต่อแง่มุมสำคัญที่อยู่นอกเหนือภาพ อุดมคติในความสมบูรณ์แบบบนภาพถ่าย สะท้อนความต้องการเชิงลึกในการสร้างภาพที่ ถึงแม้ทำให้เราสัมผัสได้ถึงคตินิยมที่อยู่เหนือภาวะของโลก หากแต่การยึดถือด้วยคุณค่าสูงสุดเช่นนั้นอาจได้บ่มเพาะศีลธรรมแห่งการมอง ที่กีดกันความเข้าใจในความซับซ้อนและเป็นไปของโลก ในความเปราะบางของมนุษย์ หรือในธรรมชาติของความไม่สมบูรณ์แบบในชีวิต


นิทรรศการภาพถ่ายซีรีย์ส “สมบูรณ์แบบ” จึงเป็นนิทรรศการที่นำเสนอวิถีแห่งการมองผ่านโลกของภาพถ่าย ที่เผยให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของชีวิตในยุคร่วมสมัย และแสดงให้เห็นถึงอีกมุมของความงาม หรือแม้แต่ความบริสุทธิ์ที่หลบซ่อนอยู่ในความไม่สมบูรณ์แบบ โดยจุดมุ่งหมายของนิทรรศการนี้ คือการสร้างพื้นที่เพื่อค้นหาชั้นความหมายแห่งการมอง เพื่อสร้างความเข้าใจในการมองผ่านพื้นผิวของภาพถ่าย โดย “ 3 Women” ซึ่งเป็นนิทรรศการแรกของภาพถ่ายซีรี่ยส์นี้ เปิดมิติในความหมายของความสมบูรณ์แบบ ด้วยมุมมองที่มีต่อเพศหญิงผ่านผลงานของช่างภาพหญิง นำเสนอรายละเอียดที่สะท้อนถึงเรื่องราวของชีวิต สื่อสารความเป็นไปที่อยู่นอกเหนือกรอบของภาพ
พิธีเปิดในวันเสาร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๘.๓o น.


นิทรรศการ : “สมบูรณ์แบบ”
ศิลปิน : ชไมพร วาดเขียน, ชรินทร ราชุรัชต
ภัณฑารักษ์ : พิชญา ศุภวานิช
วั
นที่ : ๒๕ พฤศจิกายน – ๖ มกราคม ๒๕๕๖

สถานที่ : หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชั้น ๓ - ๔

ติดต่อโทร : o๒-๒๑๔-๖๖๓o–๘



ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com














"ลำปางเซรามิคแฟร์ ครั้งที่ ๒๕"


นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายธนโชติ วนาวัฒน์ นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง และคุณสุรภี ขันอาษา ผู้จัดการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลำปาง ได้ร่วมกันจัดแถลงข่าวการจัดงาน "ลำปางเซรามิกส์แฟร์ ครั้งที่ ๒๕" ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ ๑ - ๑o ธ.ค. ๒๕๕๕ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลำปาง


ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จ.ลำปาง เป็นแหล่งผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างรายได้ให้กับจังหวัดลำปางปีละกว่า ๖ พันล้านบาท การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้สินค้าเซรามิกของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของ จ.ลำปาง โดยงานนี้ได้บรรจุอยู่ในปฏิทินท่องเที่ยวของจังหวัดและของประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ จ.ลำปาง ในการพัฒนาเซรามิก และส่งเสริมหัตถอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้าและการลงทุนทั้งระบบ


ด้านนายธนโชติ วนาวัฒน์ นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในงานจะมีการนำสินค้าเซรามิกคุณภาพส่งออกมาจำหน่ายโดยลดราคาลง ๕o - ๘o% จากโรงเรียนมากกว่า ๓oo แห่ง ในจังหวัดลำปาง มีโซนจำหน่ายสินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชน ส่วนบริเวณชั้น ๒ ภายในห้างฯ มีการจัดแสดงนิทรรศการเซรามิก และสินค้าที่เป็นไฮไลท์ของงาน จากศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเซรามิกลำปาง ส่วนกิจกรรมตลอดการจัดงาน ได้แก่ ประกวดร้องเพลงลูกทุ่งเซรามิก ประกวดหนูน้อยเซรามิก การแสดงภาคบันเทิงมากมาย การตกแต่งสถานที่จัดงานในบรรยากาศแนวร่วมสมัยพร้อมรับ AEC ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า ๑๕o,ooo คน และจะมียอดจำหน่ายภายในงานไม่ต่ำกว่า ๓o ล้านบาท มีคำสั่งซื้อไม่ต่ำกว่า ๑๘o ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อจังหวัดทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว


โดยในวันที่ ๑ ธ.ค. ๒๕๕๕ ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกิจกรรมภายในงานดังกล่าว ซึ่งจะได้รับชมพิธีเปิดอย่างสวยงามสมเกียรติ ตั้งแต่เวลา ๑๘.oo น. เป็นต้นไป วันที่ ๕ ธ.ค. ๒๕๕๕ เริ่มตั้งแต่เวลา ๑๘.oo น. เป็นต้นไป ภายในงานได้จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล สดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพร้อมเพรียงกัน การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ที่แต่ละโรงงานเซรามิกได้จัดส่งตัวแทนพนักงานเข้ามาประชันความสามารถกันในงานนี้ กิจกรรมประกวดหนูน้อยคนเก่ง และอื่น ๆ อีกมากมาย



ภาพและข้อมูลจากเวบ
obec.go.th
naewna.com













"มิรัยจัง หนูน้อยแก้มแดง"


Soi Music และ Practical Design Studio ร่วมกับช่างภาพเจ้าของผลงาน โคโทริ คาวาชิมา (Kotori Kawashima) และ สำนักพิมพ์นานะ โรคุชะ (Nana Roku Sha Publishing) ร่วมจัดนิทรรศการภาพถ่ายชุดนี้ขึ้นที่กรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อว่า “มิรัยจัง หนูน้อยแก้มแดง”


นิทรรศการ : มิรัยจัง หนูน้อยแก้มแดง
ศิลปิน : โคโทริ คาวาชิมา
วันที่ : ๑๖ พฤศจิกายน – ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๕
สถานที่ : แมส ยูนิเวิร์ส สุขุมวิท ๓๔
รายละเอียดเพิ่มเติมเว็บไซต์ : เฟซบุค มิรัยจัง












ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














"อักขระ"


หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล นำเสนอนิทรรศการ “อักขระ” ผลงานจิตรกรรมนามธรรมของศาสตราจารย์อิทธิพล ตั้งโฉลก ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี พ.ศ. ๒๕๕๑


ในรูปแบบของผลงานจิตรกรรมที่มีเนื้อหาในเชิงสัญลักษณ์ ภายใต้องค์ประกอบอันเรียบง่ายของทัศนธาตุพื้นฐานอันได้แก่ “จุด” และ “เส้น” ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสมือนตัวอักษรร้อยเรียงเรื่องราวผ่านกระบวนการการใช้สี แสดงให้เห็นถึงความงดงามจากสัจธรรมของจิตรกรรมที่เรียบง่ายและได้รับการตัด ทอนอย่างบริสุทธิ์


นิทรรศการ : “อักขระ”
ศิลปิน : อิทธิพล ตั้งโฉลก
วันที่ : ๒๒ มกราคม – ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
สถานที่ : หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล (ถนนบรมราชชนนี)
ติดต่อโทร : o๒-๔๒๒-๒o๙๒
แฟกซ์: o๒-๔๒๒-๒o๙๑
เว็บไซต์ : //www.ardelgallery.com










ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com












"มหกรรม​การ​เต้นนานาชาติ"


มูลนิธิ​เพื่อนศิลปะจัดงานมหกรรม​การ​เต้นนานาชาติ ๒o๑๒ (The International Dance Festival 2012) ระหว่างวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน-วันที่ ๙ ธันวาคม ๒o๑๒ ณ หอศิลปวัฒนธรรม กรุง​เทพมหานคร ​และ The Art Centre มหาวิทยาลัย​เชียง​ใหม่ จังหวัด​เชียง​ใหม่ ​เพื่อ​เฉลิมฉลอง​เนื่อง​ในว​โรกาสที่สม​เด็จพระนาง​เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรง​เจริญพระชนมพรรษา ๘o พรรษา ​ในงานจะมี​การ​แสดงจากคณะ​เต้นร่วมสมัยชั้นนำจากต่างประ​เทศ อาทิ คณะ​โปรตีน ​แดนซ์ ที่​ได้รางวัลคณะ​เต้นอิสระยอด​เยี่ยม​แห่งชาติจากประ​เทศอังกฤษ, คณะ​เต้นสมุทตรา จากประ​เทศอิน​เดีย, ทีฟอร์ทู จากประ​เทศสวิต​เซอร์​แลนด์ ​และคณะอื่นๆ​ทั้ง​ในประ​เทศ​ไทย​และต่างประ​เทศอีกมากมาย สัมมนา​เชิงปฏิบัติ​การ ชมภาพยนตร์​เต้น ​การ​เสวนาทางด้านศิลปะ​การ​แสดง ​การพบปะพูดคุยกับศิลปินรุ่น​ใหญ่​ในวง​การ​เต้น อย่าง​เจ้าหญิงของวง​การ​เต้น​แห่งประ​เทศอิสรา​เอล รินา ​เชล​เฟลด์ ระหว่างวันที่ ๒๔ - ๓o พฤศจิกายน ดูข้อมูล​เพิ่ม​เติม​ได้ที่ //www.friends-of-the-arts.info ​และส่วน​การ​แสดง​ไฮ​ไลต์ของงานสามารถจองบัตร​ได้ที่ thaiticketmajor.com


ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
mglobemall.com




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2555
0 comments
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2555 23:23:43 น.
Counter : 6215 Pageviews.


haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.