Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
1 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

ถอดรหัสน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ



ปริมาณน้ำที่ดื่มในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญ คนดื่มน้ำน้อยเลือดจะข้น ระบบไหลเวียนของเหลวในร่างกายผิดปกติ
ผิวพรรณหยาบกร้าน รวมทั้งอาจเกิดการเจ็บป่วยต่างๆ แต่หากดื่มน้ำมากเกินไปก็ใช่ว่าจะเป็นผลดี
เพราะไตจะทำงานหนัก ส่งผลให้ปวดศีรษะ อาเจียน กล้ามเนื้อเป็นตะคริว ความดันสูง น้ำหนักมากขึ้น
ร่างกายบวมน้ำ รวมถึงอาจส่งผลถึงระบบสืบพันธุ์ แต่ละวันมนุษย์ควรดื่มน้ำปริมาณเท่าไร
และดื่มน้ำอะไรถึงจะปลอดภัย เราจะมาถอดรหัสกันค่ะ

สูตรคำนวณปริมาณน้ำดื่มที่เหมาะกับคุณ
องค์การอนามัยโลกได้กำหนดสูตรคำนวณปริมาณน้ำดื่มที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของแต่ละคน ในแต่ละวันไว้
ดังนี้ น้ำหนักตัว (ก.ก.)/2 x 2.2 x30 = … C.C. (1000 C.C. = 1 ลิตร, 1 ลิตร = 5 แก้ว)

สมมติว่ามีน้ำหนักตัว 55 กิโลกรัม 55/2 x 2.2 x 30 = 1815 C.C. 1815 C.C. = 1.8 ลิตร 1.8 ลิตร = 9 แก้ว

เมื่อทราบปริมาณน้ำดื่มต่อวันแล้ว จะต้องมีเทคนิคในการดื่มน้ำให้เกิดประโยชน์กับร่างกายมากที่สุด
ด้วยเทคนิคง่ายๆ ที่ว่านั้นมีอยู่ 2 ข้อคือ

หลังตื่นนอน ก่อนแปรงฟัน
ให้ดื่มน้ำทันที 2-5 แก้ว เพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย
ควรเป็นน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่น ไม่ใช่น้ำเย็น ที่ต้องดื่มตอนเช้าเพราะเป็นช่วงที่ร่างกายขับสารพิษได้ดีที่สุด

ดื่มน้ำแต่น้อยระหว่างรับประทานอาหาร ไม่ควรเกิน 1 แก้ว
หลังรับประทานอาหารเสร็จแล้ว 40 นาทีจึงค่อยดื่มน้ำตาม เพื่อให้กระเพาะย่อยอาหารได้เต็มที่
ที่สำคัญไม่ควรดื่มน้ำเย็น เพราะจะไปรบกวนการย่อย


ทุกวันนี้เราดื่มน้ำอะไรกันอยู่

น้ำประปาดื่มได้
ปัจจุบัน น้ำประปาของการประปานครหลวงผ่านการผลิตและควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอนตามมาตรฐานของ
องค์การอนามัยโลก จึงดื่มได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระบบเดินท่อประปาในบ้าน
ท่อเหล็กมีอายุใช้งานไม่เกิน 5 ปี ที่ปลอดภัยที่สุดคือท่อพลาสติก เพราะไม่เป็นสนิม
การต้มน้ำประปาจะช่วยฆ่าเชื้อโรคในน้ำและลดความกระด้างไปพร้อมกัน ทั้งยังลดกลิ่นคลอรีนได้ด้วย
ส่วนน้ำประปาที่ผ่านระบบกรอง ก็ขึ้นอยู่กับตัวกรองที่เลือกใช้ บางบ้านอาจใช้ตัวกรองถ่าน (Activated carbon)
และเรซิน (Resin) ซึ่งก็สะอาดเพียงพอใกล้เคียงน้ำบรรจุขวด
เว้นแต่ไม่ได้ผ่านขั้นตอนการฆ่าเชื้อด้วยรังสีอัลตร้าไวโอเลตหรือโอโซน

น้ำดื่มบรรจุขวด
The International Bottled Water Association หรือสมาคมน้ำบรรจุขวดนานาชาติ ได้ให้นิยามของน้ำบรรจุขวด
ไว้ว่า น้ำดื่ม (Drinking Water) น้ำดื่มในบ้านเรานั้นได้มาจากแหล่งน้ำบาดาลและน้ำประปา ผ่านการกรองชั้นถ่าน
เพื่อดูดกลิ่น ตามด้วยการผ่านสารเรซินเพื่อลดความกระด้าง ขั้นตอนสุดท้ายคือการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่อาจปนเปื้อน
ในน้ำด้วยการผ่านแสงอุลตร้าไวโอเลตหรือก๊าซโอโซน ที่เราเรียกกันจนคุ้นเคยว่าน้ำUV หรือน้ำโอโซนนั่นเอง

น้ำธรรมชาติ (Natural Water)
คือ น้ำใต้ดิน รวมทั้งน้ำพุ(Spring) น้ำแร่(Mineral) น้ำบ่อ(Well) และน้ำพุที่เจาะขึ้นมาจากแหล่งใต้ดิน
(Artesian Well) ไม่นับรวมแหล่งน้ำสาธารณะและน้ำประปา
ในการผลิตน้ำธรรมชาติห้ามใช้กระบวนการอื่นใดนอกจากการกรองเศษฝุ่นละอองและการฆ่าเชื้อโรค
ด้วยวิธีการผลิตดังกล่าวจึงทำให้น้ำแร่บรรจุขวดมีความใกล้เคียงกับน้ำจากแหล่งกำเนิดมาก
และการที่น้ำแร่มีคุณสมบัติแตกต่างกันตามแหล่งน้ำธรรมชาตินี้เอง จึงต้องมีการกำหนดค่าปริมาณเกลือแร่
ซึ่งอาจเกิดผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กและสตรีมีครรภ์ที่มีระบบย่อยอาหารไม่ดีเท่าคนทั่วไป
เพราะน้ำแร่จะออกฤทธิ์เป็นยาระบาย หากมีปริมาณซัลเฟตมากกว่า 600 มก.ต่อลิตร (ยกเว้นแคลเซียมซัลเฟต)

น้ำเพียวริไฟด์ (Purified Water)
เรียกง่ายๆ ว่าน้ำกลั่น เป็นน้ำที่ผลิตด้วยการกลั่น คือต้มน้ำจนเดือดแล้วระเหยกลายเป็นไอ เมื่อไอน้ำกระทบพื้นผิว
ที่เย็นจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ หรืออีกวิธีคือ การใช้กระแสไฟฟ้าแยกเกลือแร่ (Deionization) ที่ปนอยู่ออก
แล้วน้ำไปผ่านขั้นตอนการกรองด้วยวัสดุที่มีรูขนาดเล็ก 0.0006 ไมครอน (1 เมตรเท่ากับ 1 ล้านไมครอน)
เมื่อแร่ธาตุต่างๆ ถูกกรองออกหมดจะได้น้ำที่บริสุทธิ์มากจนแทบไม่เหลือความกระด้างอยู่เลย
แต่ที่จริงแล้วร่างกายคนเราก็ไม่จำเป็นต้องได้รับน้ำบริสุทธิ์ขนาดนั้น


ขวดแบบไหนเหมาะใส่น้ำดื่ม
ขวดที่นิยมใช้บรรจุน้ำดื่มในปัจจุบัน มี 4 ชนิด คือ ขวดแก้วใส ขวดพลาสติกใสและแข็ง (Polystyrene)
ขวดพลาสติกเพท (Polyethylene terephthalate, PET) ซึ่งมีลักษณะใสและกรอบ
และสุดท้าย ขวดพลาสติกขาวขุ่น (High-density polyethylene, HDPE)

ขวด 3 ชนิดแรกใช้บรรจุน้ำดื่มได้ดีกว่าขวดพลาสติกสีขาวขุ่น เคยมีการทดลองนำน้ำดื่มบรรจุขวดสีขาวขุ่น
ไปตั้งกลางแดดนานๆ จะมีกลิ่นของพลาสติกปนมากับน้ำ แม้ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
แต่ก็ทำให้คุณภาพของน้ำลดลง ข้อเสียอีกประการหนึ่งคือ ขวดขาวขุ่นไม่เหมาะที่จะนำมารีไซเคิล
ต่างจากขวดอีกสามชนิดที่รีไซเคิลง่ายและใช้ได้ทนทานกว่า
ส่วนวันหมดอายุของน้ำดื่มบรรจุขวดนั้นคือประมาณ 2 ปี นับจากวันผลิตที่ระบุไว้บนฉลาก

รู้เรื่องน้ำดื่มดีขึ้นแล้ว คุณคงดื่มน้ำได้อย่างสบายใจและปลอดภัยขึ้นนะคะ...




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2552
1 comments
Last Update : 2 มิถุนายน 2552 22:47:28 น.
Counter : 902 Pageviews.

 

ดีมากคร้า

 

โดย: น้ำ IP: 203.144.144.164 21 มกราคม 2553 19:04:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.