ปลอดภัยไหม เมื่อต้องกินอาหารที่แถมสารกันบูด
สารกันบูดหรือวัตถุกันเสีย เป็นสารเคมีที่ช่วยในการถนอมอาหาร ช่วยยืดอายุการเก็บรักษา โดยจะช่วยชะลอ หรือยับยั้งการเจริญเติบโต และทำลายจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุให้อาหารเน่าเสีย
ชนิดของสารกันบูด ที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปอาจแบ่งเป็นกลุ่มได้ดังนี้
*1. กรดและเกลือของกรดบางชนิด เช่น กรดเบนโซอิก และเกลือเบนโซเอต กรดซอร์บิกและเกลือซอร์เบต กรดโปรปิโอนิกและเกลือโปรปิโอเนต ฯลฯ อาหารที่ผสมสารกันบูดเหล่านี้ ได้แก่ เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ ซอส ผักผลไม้ดอง แยม เยลลี่ เครื่องแกงสำเร็จรูป และขนมปัง เป็นต้น
*2. พาราเบน เช่น เมทธิลพาราเบน โปรปิลพาราเบน นิยมใช้กับอาหารประเภท เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ เยลลี่ ขนมหวานต่างๆ และสารปรุงแต่งกลิ่นรส เป็นต้น
*3. ซัลไฟต์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์นิยมใส่ในไวน์ น้ำผลไม้ ผักและผลไม้แห้ง เป็นต้น
*4. ไนไตรท์ เกลือไนไตรท์นิยมใช้กับเนื้อสัตว์ต่างๆ เบคอน แฮม เป็นต้น
การใช้สารกันบูด ปริมาณของสารกันบูดที่ใช้จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นกับชนิดของอาหาร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้กำหนดปริมาณที่อนุญาตให้ใส่ในอาหารได้
สารกันบูดเหล่านี้ หากใช้ตามที่กฎหมายกำหนด หรือใช้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค แต่หากใช้ในปริมาณมากเกินไป หรือนำไปใช้ไม่เหมาะสม ก็จะก่อให้เกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังห้ามใช้วัตถุกันเสียในอาหารที่ไม่จำเป็นต้องใช้สารกันบูด นั่นก็คือ อาหารกระป๋องที่ผ่านการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์แล้ว
ผู้ผลิตที่ผสมสารกันบูดลงในอาหาร ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยเลือกใช้สารกันบูดให้เหมาะสมกับชนิดของอาหาร และใช้ในปริมาณที่กำหนดเท่านั้น และในระหว่างกรรมวิธีการผลิต จะต้องระมัดระวังการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ให้น้อยที่สุด เพราะหากมีจุลินทรีย์ปนเปื้อนมาก ทำให้อาหารเกิดการเน่าเสียมาก่อน การใส่สารกันบูดก็ไม่เกิดผลดีแต่อย่างใด
อันตรายจากสารกันบูด
หากในแต่ละวัน เราได้รับสารกันบูดในปริมาณน้อย ร่างกายจะสามารถกำจัดออกทางปัสสาวะได้ตามปกติ แต่หากได้รับในปริมาณมากทุกวัน ตับและไตจะต้องทำงานหนักขึ้น และหากกำจัดออกไปไม่หมด ก็จะเกิดการสะสมในร่างกาย ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของตับและไตในการกำจัดสารเคมีเหล่านี้ ลดลง และอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยต่อตับและไตได้
สารกันบูดในกลุ่มกรดและเกลือของกรดบางชนิด รวมทั้งพาราเบน ถือว่ามีความเป็นพิษต่ำ และสามารถขับออกจากร่างกายได้ แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่น เกลือเบนโซเอต โดยทั่วไปแล้วจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็พบว่าทำให้เกิดอาการแพ้ได้ โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคภูมิแพ้
สารกันบูดในกลุ่มซัลไฟต์ แม้จะถูกขับออกจากร่างกายได้ แต่หากได้รับในปริมาณมากเกินไป สารดังกล่าว จะไปลดการใช้โปรตีนและไขมันในร่างกาย นอกจากนี้ยังทำลายไธอามีน หรือวิตามินบี 1 ในอาหารด้วย
สารกันบูดในกลุ่มไนไตรท์ ยกตัวอย่างเช่น ดินประสิว ซึ่งนิยมนำมาใช้กับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ หากใช้เกินกว่าที่กำหนด จะทำให้ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาซึ่งมีข้อบ่งชี้ว่า การได้รับไนไตรท์ในปริมาณมากๆ จะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
ข้อแนะนำ สำหรับผู้บริโภค เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากสารกันบูด มีดังนี้ ก่อนซื้ออาหารสำเร็จรูป ควรอ่านฉลากอาหารและเลือกอาหารที่ระบุว่าไม่ใส่สารกันบูดหรือวัตถุกันเสีย หากฉลากนั้นไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ใช้สารกันบูดหรือไม่ ก็ควรหลีกเลี่ยง หรือบริโภคให้น้อยที่สุด
หลีกเลี่ยงการซื้ออาหารที่ขายไม่หมดวันต่อวัน หลีกเลี่ยงอาหารที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะใส่สารกันบูด เช่น แหนม หมูยอ กุนเชียง เนื้อเค็ม และน้ำพริกชนิดต่างๆ เป็นต้น
มีการศึกษาพบว่า การลวกหมูยอในน้ำเดือดก่อนนำมารับประทาน จะช่วยลดปริมาณสารกันบูดลงได้ ซึ่งน่าจะได้ผลเช่นเดียวกันในผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์อื่นๆ
โดยสรุปก็คือ การใช้สารกันบูดตามปริมาณที่กำหนดจะไม่เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม อาจมีผู้ผลิตบางรายที่ละเมิดกฎหมาย ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย การหลีกเลี่ยงอาหารที่สุ่มเสี่ยงต่อการใส่สารกันบูดหรือบริโภคแต่น้อย น่าจะดีต่อสุขภาพที่สุด
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
Create Date : 08 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 21:29:17 น. |
|
1 comments
|
Counter : 940 Pageviews. |
|
|
|
ไม่เจือสีนะคะ
เอาหัวเป็นประกันค่ะ