Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
3 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
ปวดกระเพาะปวดใจแก้ได้ด้วยอาหาร


* โรคกระเพาะอาหาร ให้เน้นกินอาหารที่มีกากใยเยอะ

ใครที่ป่วยเป็น "โรคกระเพาะอาหารอักเสบ" คงรู้ว่าอาการปวดนั้นหนักหนาสาหัสเช่นไร
บางคนเข้าขั้นทรมานจนปวดลามไปถึงศรีษะถึงกับต้องหยุดทำงาน
เพราะก็ต้องปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารทานให้ตรงเวลา และเอาใจใส่ในอาหารที่ทานเข้าไปให้ มากขึ้น
ซึ่งอาหารที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับป้องกันโรคกระเพาะมีดังนี้

"คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน" แห่งอุดมของเส้นใย ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่เกิดขึ้นเองจากการสะสมตามธรรมชาติ
โดยผ่านกระบวนการแปรรูปน้อยที่สุด หรือไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปใดเลย
คาร์โบไฮเดรตที่ไม่ผ่านการแปรรูปนี้จะอุดมไปด้วยเส้นใย ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อระบบย่อยอาหาร
เพราะอาหารที่มีเส้นใยสูง ใช้เวลาในการย่อยในกระเพาะอาหารน้อยมาก
หากปรุงให้สุกและกินให้พอดี ถั่วและพืชชนิดต่างๆ จะใช้เวลาในการย่อยประมาณ 80-90 นาที เท่านั้นเอง

ยิ่ง เราทานอาหารที่เป็นกากใยในแต่ละวันมากขึ้นเท่าใด อาหารก็จถูกย่อยเร็วมากขึ้นเท่านั้น
เพราะเส้นใยที่รับประทานเข้าไปจะช่วยดูดซับน้ำเอาไว้ และกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งยังช่วยในการดูดซึมของผนังกระเพาะอาหาร สมานแผลในกระเพาะอาหารให้หายเร็วขึ้น
ช่วยเพิ่มกากใยในกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ จึงทำให้การขับถ่ายดีขึ้น

และนอกจากนั้น การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยมากยังช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนาน ไม่หิวบ่อย
และไม่ต้องกินจุบจิบตลอดเวลา ทำให้กระเพาะอาหารได้พักผ่อนนั่นเอง

คาร์โบ ไฮเดรตเชิงซ้อนพบในข้าวกล้องทุกชนิด ข้าวสาลีไม่ขัดขาว ข้าวโพด ข้าวบาร์เลต์ ข้าวเจ้า ถั่วฝักอ่อน
ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เมล็ดพืชชนิดต่างๆ เช่นทานตะวัน เมล็ดฟักทอง งา และผักใบเขียว
ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถกินเป็นอาหารหลักได้ และช่วยบำรุงกระเพาะอาหารของเราไปในคราวเดียวกัน

นอกจากนี้ "ไขมันไม่อิ่มตัว" ที่ มีมากในถั่วฝักอ่อน เมล็ดพืช ถั่วเปลือกแข็ง
รวมถึงน้ำมัน เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง
จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ กระเพาะอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลายในร่างกาย
ซึ่งรวมถึงระบบการเผาผลาญอาหารในกระเพาะอาหารด้วย ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เราจึงจำเป็นต้องทานไขมันไม่อิ่มตัวเพื่อบำรุงร่างกายของเราเอง เพราะไขมันชนิดนี้ร่างกายสร้างเองไม่ได้

อย่างไรก็ตาม การทานอาหารทอดมากๆ เช่น มันฝรั่งทอด หอมทอด ถือว่าเป็นการทำร้ายกระเพาะของเราเช่นกัน
เพราะอาหารเหล่านี้ หากนำไปทอดในน้ำมันความร้อนสูง จะมีการเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมี
ทำให้เกิดกรดไขมันอิสระ ซึ่งออกฤทธิ์ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและเยื่อบุลำ ไส้ได้

คนที่เป็นโรคกระเพาะอยู่แล้วควรทาน "เนื้อปลา" ให้ มากๆ
เพราะในเนื้อปลาจะมีโปรตีนคุณภาพดีและมีประโยชน์ต่อกระเพาะอาหาร คือเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายมาก
เมื่อเทียบกับโปรตีนชนิดอื่น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผนังกระเพาะอาหารดูดซึมได้เร็วขึ้นแล้ว
ในปลายังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต้องที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

ส่วนอาหารโปรตีนสูงที่มาจาก เนื้อสัตว์ใหญ่เช่น เนื้อวัว เนื้อควาย หมู ไก่ เป็ดนั้น
เป็นโปรตีนที่ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร
เพราะใช้วลาในการย่อย และการเผาผลาญนานมาก 2-3 วันทีเดียวเชียว
และหากกระเพาะอาหารไม่สามารถย่อย และดูดซึมโปรตีนเหล่านี้ได้หมด
อาจเกิดการตกค้างและนำไปสู่โรคอันตราย เช่น มะเร็งได้

ผักใบเขียวหลายชนิดมีวิตามินเคสูง ช่วยให้แผลในกระเพาะหายเร็วขึ้น ป้องกันเลือดออกในกระเพาะ
และช่วยเพิ่มการดูดซึมอีกด้วย ผักใบเขียวจัดเหล่านี้ได้แก่
"คะน้า" ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยบำรุงสายตา ต้านทานการติดเชื้อในกระเพาะอาหาร
"ผักโขม" มีวิตามินเอ กรด อะมิโน่ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
และ "ปวยเล้ง" ซึ่งมีโพแทสเซี่ยมสูง ช่วยควบคุมความดันโลหิตทั้งยังช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น

นอกจากนี้ผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูง เช่น ฟักทอง มะเขือเทศ มะละกอ
ก็มีส่วนช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร ป้องกันการติดเชื้อในกระเพาะอาหารได้เช่นกัน

สำหรับ คนที่เป็นโรคกระเพาะทั้งหลาย ก็ควรรับประทานอาหารดังกล่าวไว้อย่าให้ขาด
ขณะที่คนที่ยังไม่เป็นก็อย่าได้ชะล่าใจ เพราะถ้ากระเพาะประชดคุณด้วยอาหารปวดขึ้นมาเมื่อไหร่
การรักษาให้หายขาดจะทำได้ยาก ดังนั้น คุณควรถนอมรักษากระเพาะอาหารไม่แพ้อวัยวะใดๆ
และถ้าจะทานอะไรในมื้อต่อไปก็ใส่ใจกระเพาะอาหารกันให้มาก


ข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ
ที่มา : //www.thaihealth.or.th




Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2553 10:43:52 น. 3 comments
Counter : 1027 Pageviews.

 


โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:24:07 น.  

 


โดย: ตาอ้วนชวนคุย วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:30:37 น.  

 


โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:19:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.