Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
เมนู หัวใจแข็งแรง



โรคหัวใจที่มาก่อกวนผู้หญิง (รวมถึงคุณผู้ชายด้วยเช่นกัน) นั้น
สาเหตุใหญ่ๆ อย่างหนึ่งก็มาจากเรื่องอาหารที่เรากินแบบตามใจปาก
นอกจากนั้นก็จะเป็นการไม่ดูแลสุขภาพดีพอ ความเครียดและวิตกกังวล ฯลฯ

ไปรู้ข้อมูลมาแบบนี้แล้วก็เริ่มได้คิดค่ะ
จะเริงร่าชะล่าใจคิดว่าผู้หญิงอย่างเราๆ จะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ชายเหมือนเมื่อก่อนคงไม่ได้แล้ว
หลังจากหาข้อมูลที่จะดูแลหัวใจให้แข็งแรง ก็ไปเจอคำแนะนำตั้งหลายอย่าง
แต่ที่สะดุดหยุดความสนใจมากๆ ก็คือเรื่องอาหารการกินนี่แหละ
กินอะไรล่ะหัวใจถึงแข็งแรง อยากรู้เหมือนกันแล้วใช่ไหมล่ะ…


ไขมันต่ำ มากคุณภาพ

ไขมันต่ำในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงงดการกินไขมันไปเลยนะคะ แต่เลือกกินไขมันที่ไม่สูงเกินไป
และที่สำคัญควรเลือกที่เป็นไขมันคุณภาพดี ซึ่งก็คือไขมันไม่อิ่มตัวที่มาจากพืช ถั่ว ปลา
แทนไขมันอิ่มตัวที่มาจากสัตว์

ที่บอกอย่างนี้ก็เพราะว่า ไขมันอิ่มตัวจากเนื้อติดมันสามชั้น กากหมู ในกระเทียมเจียว ฯลฯ ที่หลายๆ คนชอบนั้น
จริงๆ แล้วมันเป็นตัวการที่ทำให้เส้นเลือดหรือหลอดเลือดในตัวคุณ อุดตันเหมือนท่อน้ำที่สนิมเกรอะกรังไม่มีผิดค่ะ
และยิ่งถ้าไปอุดตันที่เส้นเลือดแถวๆ หัวใจขึ้นมา ไม่ต้องบอกก็รู้นะคะว่าจะเกิดอะไรขึ้น
(ถ้าอดใจไม่ไหว ก็อาจจะบริโภคให้น้อยลงหรือนานๆ ครั้ง)


กินให้เหมาะ

* เน้นกินปลาที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ มีไขมันคุณภาพดีชนิดไม่อิ่มตัวอย่างโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 สูง
เช่น ปลาแซลมอล แมคคอเรล ปลาทู ปลาเก๋า แทนเนื้อหมูเนื้อวัวติดมัน อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง

* หันมาอิ่มอร่อยกับอาหารปิ้ง นึ่ง ย่าง แทนของทอดอุดมน้ำมัน
เพราะเมื่อทอดแล้วไขมันดีจะออกไปอยู่กับน้ำมันที่ใช้ทอดแทน

* ปรุงอาหารด้วยไขมันจากพืช อย่างน้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดทานตะวัน
ซึ่งเป็นน้ำมันคุณภาพดีแทนไขมันจากสัตว์


อ่อนเค็ม เน้นรสธรรมชาติ
อาหารเค็มนอกจากจะมีผลกับไตซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระดับน้ำเกลือแร่ และของเสียในร่างกายแล้ว
ความเค็มยังเป็นตัวการที่ทำให้ความดันสูงด้วยค่ะ
ซึ่งจะส่งผลทำให้หัวใจทำงานหนัก เส้นเลือดแข็งตัวได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ



กินให้เหมาะสม

* เน้นการกินอาหารสดใหม่ที่ผ่านกระบวนการแปรรูปน้อย เช่น ผัก ไข่ต้ม เนื้อปลาสดใหม่
แทนที่จะเป็นไข่เค็ม ปลาเค็ม ผักดองต่างๆ ไส้กรอก แฮม แหนม เต้าหู้ยี้ ฯลฯ
เพราะอาหารกลุ่มนี้จะมีการเติมเกลือไปในกระบวนการทำค่อนข้างมาก
หากเพลินปากกินเข้าไปเยอะๆ ก็จะลำบากตัวได้

* เวลาทำอาหารหรือจะเติมความเค็มเพิ่มรสชาติ
ให้ลองเปลี่ยนมาใช้ซีอิ้วขาวหรือซอสหอยนางรมที่มีปริมาณเกลือ หรือโซเดียมน้อยกว่าน้ำปลาแทนดูค่ะ
แต่ทางที่ดีควรบ่อยๆ ปรับลิ้นลดความเค็มในอาหารที่กินให้คุ้นเคยจะดีที่สุดค่ะ


ปริมาณโซเดียมในเครื่องปรุงรสต่างๆ เทียบจากปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ


สำหรับปริมาณโซเดียมที่สถาบันโภชนาการไทย (Thai RDI) แนะนำให้กินในแต่ละวัน ไม่ควรเกิน 2,400 มิลลิกรัม


อ่อนหวาน มากไฟเบอร์
ของหวานแสนอร่อยที่กินแล้วชื่นใจก็เพราะมีส่วนผสมของน้ำตาล (เชิงเดี่ยว) ที่ไม่ต้องเสียเวลาย่อยอีก
ร่างกายจึงเอาไปใช้ได้เลยทันที

ของหวานจัด
ความจริงนานๆ กินทีหรือกินน้อยๆ ก็คงไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเผลอตัวกินบ่อยๆ เห็นทีจะไม่ไหวค่ะ
เพราะด้วยคุณสมบัติใช้ได้ทันใจ เวลากินของหวานมากๆ จึงทำให้น้ำตาลสูงปรี๊ดเกินระดับอย่างรวดเร็ว
คราวนี้ก็เดือดร้อนถึงตับอ่อนที่ต้องผลิตอินซูลิน มาคอยจัดการควบคุมดูแลน้ำตาลเหล่านี้ให้พอเหมาะ
ซึ่งจะทำให้ตับอ่อนทำงานหนัก แถมยังเสี่ยงกับการที่เส้นเลือดจะตีบได้ง่ายอีกด้วย
นอกจากนั้นส่วนที่เหลือใช้ ก็จะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นไขมันสะสมไว้ยามขาดแคลนแถวๆ รอบเอว ต้นขานั่นเอง
ที่โบราณบอกว่าหวานเป็นลม ขมเป็นยา ก็เพราะเป็นอย่างนี้นี่เอง


กินให้เหมาะ

* เลือกกินผลไม้สดได้รสหวานจากธรรมชาติที่มีประโยชน์กับสุขภาพดีกว่า
เพราะจะเป็นน้ำตาลที่ต้องผ่านกระบวนการย่อยก่อน ปริมาณน้ำตาลจึงไม่พุ่งปรู๊ดปร๊าดเกินไปนัก
ในผลไม้สด (ที่รสไม่หวานจัด) ยังอุดมด้วยวิตามินและไฟเบอร์ (ใยอาหาร)
ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้คล่องแคล่วดีเป็นผลพลอยได้ด้วย

* น้ำสะอาด เป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุด สำหรับร่างกายไม่ต้องเพิ่มภาระให้ร่างกายต้องจัดการใดๆ ให้วุ่นวายอีก

* อย่าลืมว่าอาหารประเภทแป้งทุกอย่างที่เรากินเข้าไป จะกลายเป็นน้ำตาลในที่สุด
เพราะฉะนั้นควรเลือกกินแป้งประเภทที่ผ่านการขัดสีน้อยๆ เช่น ข้าวกล่อง ขนมปังโฮลวีต
เพื่อให้ร่างกายใช้เวลาจัดการแป้งเหล่านี้อย่างพอเหมาะ จะทำให้อิ่มนานอยู่ท้อง ไม่หิวบ่อย
แถมยังมีใยอาหารดีกับสุขภาพของคุณๆ อีกด้วยค่ะ

ได้รู้เทคนิคเลือกเมนูดูแลและกุมหัวใจลูกและสามี (คนนี้แหละสำคัญมากๆ) ให้อยู่กับคุณตลอดไปแล้วล่ะค่ะ


ข้อมูลโดย : นิตยสารดวงใจพ่อแม่ vol.11 No.125
ที่มา : //www.elib-online.com
ภาพจาก : //www.living-eating-healthy.com



Create Date : 07 กรกฎาคม 2553
Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 11:03:16 น. 0 comments
Counter : 1383 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.