Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
30 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

แปลงโฉมขนม อาหารว่าง บริโภครู้หลักหลีกไกลโรค

อาหารการกิน

สุขภาพดีสิ่งนี้มีความหมายความสำคัญยิ่ง
และการจะมีสุขภาพดี ไกลห่างจากโรคต่าง ๆ นั้นการบริโภคอาหารในชีวิตประจำวัน
การกินหลากหลายในสัดส่วนที่เหมาะสมเพียงพอเป็นสิ่งที่ต้องไม่ละเลยมองข้าม

พฤติกรรม การบริโภคที่ขาดความเหมาะสม ไม่ระมัดระวัง เป็นที่ทราบกันถึงสัญญาณอันตราย
อันนำสู่โรคภัยสุขภาพอนามัยที่ ไม่ดี ขณะที่การรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน
นอกเหนือจากอาหารหลัก 3 มื้อแล้ว อาหารมื้ออื่นไม่ว่าจะเป็นขนม เครื่องดื่ม รวมถึงผลไม้ ต่าง ๆ
ที่พร้อมเสิร์ฟเป็นอาหารว่างยังมีให้ได้เลือกรับประทาน

การ รู้หลักเลือกจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะขนม อาหารว่าง หากบริโภคไม่ถูกหลัก
เลือกอาหารที่มี ไขมัน เกลือ แป้ง น้ำตาล เกินความต้องการของร่างกาย
บวกรวมกับพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดโรคอ้วนรวมถึงโรคภัยไข้เจ็บ ต่าง ๆ ได้

การเลือกอาหารว่าง ขนม ฯลฯ ที่มีปริมาณความเหมาะสม
จึงมีบทบาทต่อการเสริมสร้างคุณค่าสารอาหารส่งผลดีต่อสุขภาพ

ผศ.ดร.อุไรพร จิตต์แจ้ง หัวหน้าฝ่ายโภชนาการชุมชน สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลให้ความรู้ว่า
จากที่ผ่านมากล่าวกันว่าการกินหวานทำให้เกิดโรคอ้วนแต่เวลานี้ไม่เพียง ปัจจัยดังกล่าว พฤติกรรมการบริโภคที่
ไม่เหมาะสมอีกหลากหลายประการ การดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปล้วนแต่มีส่วนก่อเกิดโรคทั้งสิ้น

การ บริโภคอย่างไรให้สุขภาพดีเป็นสิ่งสำคัญเป็นแนวทางป้องกันสกัดโรคต่าง ๆ
และไม่เพียงเฉพาะอาหารที่มีรสหวาน อาหารที่มากด้วยไขมัน เกลือ แป้งเหล่านี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังใน
การเลือกบริโภคและจากขนม อาหารว่างอีกมื้ออาหารที่ปัจจุบันมีเพิ่มจากมื้ออาหารหลัก

ที่ผ่านมาสถาบันฯ ได้จัดประกวดขนม อาหารว่างเพื่อสุขภาพทั่วประเทศขึ้น ชิงรางวัลโล่พระราชทานจาก
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อสร้างสรรค์ปรับปรุงผลิตภัณฑ์อาหารว่าง ขนมที่มีคุณค่า
ทางโภชนาการร่วมส่งเสริมสร้างสุขภาพดีรณรงค์สร้างวัฒนธรรมการบริโภคที่ดีเพื่อ ส่งเสริมสุขภาพเด็กไทย

อีกทั้งยังมีส่วนส่งเสริมรักษาเอกลักษณ์ไทย และแนะนำ รูปแบบการบริโภคในทางปฏิบัติสอดคล้องความเป็นไป
ได้ในชีวิต ประจำวัน ซึ่งอาหารว่าง ขนมไทยที่ผ่านเกณฑ์การตัดสินพิจารณาได้แก่ ฟักทองทรงเครื่อง
หรุ่มข้าวเงี้ยวสมุนไพร ข้าวพองหนอนไหม ข้าวเกรียบปากหม้อผักหวานไส้กุ้ง ผลงานนักศึกษาจากทุกภูมิภาค
ซึ่งสูตรขนมที่ผ่านมาพิจารณาเป็นไปตามมติอนุกรรมการโภชนาการและการกล่าวอ้าง ทางโภชนาการและสุขภาพ
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก (WHO)
ซึ่งกำหนดให้ การบริโภคอาหารระหว่างมื้อ (ขนม อาหารว่าง) นั้นมีปริมาณพลังงาน น้ำตาล ไขมันและ
โซเดียมน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวันต่อคน
และจากข้อแนะนำไม่ควรมี อาหารว่างมากกว่า 2 มื้อต่อวัน

ขนม อาหารว่างที่ผ่านการประ กวดจึงพิจารณาตำรับที่มีปริมาณพลังงาน น้ำตาล ไขมันและโซเดียม น้อยกว่าหรือ
เท่ากับ 5 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวันต่อคนเป็นลำดับแรก

" อาหารไทยเป็นอาหารที่มีชื่อของคนไทยแต่บางอย่างอาจเค็มไปนิด หวานไปหน่อย
แต่เพื่อให้เกิดการพัฒนาการบริโภคที่ดีเพื่อส่งเสริมสุขภาพจึงมีการศึกษา ซึ่งในโครงการนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง

อาหารว่างไทยความจริงได้เปรียบตรงที่ไม่ได้มีแต่เพียง แป้ง น้ำตาล ไขมัน แต่เรามีศิลปะในการประกอบอาหาร
โดยมีส่วนประกอบที่มาจากกลุ่มอาหารอื่นเพิ่ม รสชาติและคุณค่าอาหาร"

การเลือกรับประทานขนม อาหารว่างอย่างน้อยจึงควรมีมากกว่า 3 หมู่ หากมีผัก เนื้อสัตว์เข้ามามีไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง
ไม่ได้มีแต่แป้ง น้ำตาล ไขมันก็จะยิ่งเพิ่มประโยชน์ ยกตัวอย่าง ข้าวต้มมัดขนมไทย มีพร้อมทั้งหมู่แป้งซึ่งได้จากข้าว
กล้วยเป็นผลไม้ มีกะทิเป็นไขมัน แล้วมีถั่วเมล็ดแห้งที่มีทั้งโปรตีน ใยอาหารและแร่ธาตุเหล็ก
แต่ทั้งนี้ก็ต้องบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย
ไม่ใช่ได้ขนม ของว่างเหล่านี้แทนอาหารมื้อหลัก

ทุกวันนี้ปัญหาความ อ้วนในเด็กมีผลทั้งจากการไม่ค่อยทานผัก ผลไม้ ซึ่งพอไม่ยอมทาน
แล้วพ่อแม่ก็ไม่ได้ฝึกบริโภคนิสัยที่เหมาะสมให้ ก็จะเกิดปัญหาการกินอาหารที่ไม่สมดุล
พฤติกรรมการเลี้ยงดูจึงมีส่วนสำคัญ อย่างถ้าลูกไม่ทานข้าว พ่อแม่กลัวว่าลูกจะไม่โตก็จะหาอะไรก็ได้ที่ลูกชอบ
รับประทาน อย่าง ขนม น้ำหวาน ฯลฯ แทนการกินอาหารที่มีประโยชน์แทนอาหารหลัก
ซึ่งก็อาจทำให้เด็กขาดสารอาหารได้

การรับประทานอาหารว่างหน้าทีวี ทานอาหารไม่เป็นเวลา ไม่ออกกำลังกาย กินจุบจิบ ฯลฯ
เหล่านี้ก็ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกลายเป็นปัญหาของโรคอ้วน ซึ่งการบริโภคที่เหมาะสมอย่างที่กล่าวมา
ควรมีทั้งความหลากหลายของชนิดอาหาร ในแต่ละหมู่ ปริมาณเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย
ส่วนการเลือกรับประทานอาหารว่างที่ดีสุดคือ ผลไม้

และข้อกำหนดต่อมาคือมีอาหารว่างไม่ควรเกิน 2 ครั้งต่อวัน ไม่ควรรับประทานแทนมื้อหลัก
ส่วนอาหารว่าง ขนมของเด็กที่ไม่อยากให้มีคู่กันไม่ว่าจะเป็น แป้งกับน้ำตาล หรือว่าแป้งกับน้ำมัน
อีกทั้งถ้าเป็นแป้งกับน้ำมันแถมมีเกลือก็ต้องระมัดระวัง อย่างที่กล่าวมาที่ง่ายสุดคือ ผลไม้
ควรฝึกการรับประทานตั้งแต่เล็ก ซึ่งการเตรียมก็ง่าย อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่าย
และเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพสำหรับคนทุกวัยในครอบครัว

นอกจากนี้ จากคู่มือ สกัดโรคอ้วนในเด็กของมูลนิธิ สาธารณสุขแห่งชาติยังให้ความรู้กล่าวถึงอาหารว่างต้าน
อ้วนสำหรับเด็ก ว่า ขนม และอาหารว่าง เป็นอีกมื้อสำคัญที่มีคุณค่าต่อร่างกายเด็ก ๆ ต้องการสารอาหารใน
ปริมาณสูง เพื่อการเจริญเติบโต แต่อาหารว่างที่ไม่เหมาะอาจเกิดผลเสียได้เช่นกัน
และจากข้อมูลจากการสำรวจการ รับประทานอาหารว่างของเด็กในปัจจุบัน พบว่า
เด็กเล็กอายุระหว่าง 3-5 ขวบ ได้รับพลังงานจากอาหารว่างและขนม มากกว่าที่ควรได้รับ
ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์จากอาหารมื้อหลักลดลง อีกทั้งขนมและของว่างที่เด็กไทยนิยม
รับประทานมีส่วนประกอบของแป้ง ไขมันและน้ำตาลในปริมาณมาก
ส่งผลให้เด็กไทยมีปัญหาโภชนาการเกินและเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้น

ส่วนอาหาร ว่างที่ดี ผลไม้ สด อาทิ กล้วย ส้ม มะละกอ ฝรั่ง ชมพู่ ฯลฯ ให้มื้อละ 1 ส่วน
ซึ่งเท่ากับผลไม้ขนาดกลาง 1 ผล เช่น
*กล้วย ส้ม 1 ผล ฝรั่ง หรือสาลี่ ครึ่งลูก หรือผลไม้ตัดเป็นชิ้น 6-8 คำ
*หากจะให้ผลไม้อบแห้งให้เลือกชนิดไม่เติมน้ำตาลไม่เกิน 6-8 คำ
*น้ำผลไม้ ควรเป็นน้ำผลไม้สดไม่เติมน้ำตาล เช่น น้ำส้ม น้ำฝรั่ง
*หรือน้ำผลไม้สำเร็จรูปที่มีน้ำผลไม้แท้เป็นส่วนผสมไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 มีน้ำตาลไม่เกินร้อยละ 5
ดื่มวันละไม่เกิน 1 แก้ว หรือ 1 กล่องเล็ก
*เบเกอรี่ ขนมปังกรอบชนิดที่มีใยอาหารสูง คือชนิดที่ทำจากโฮลวีท ถั่ว
*และธัญพืช ต้มหรืออบ เช่น ถั่วต้ม หรือถั่วอบ มันเผือกต้ม ข้าวโพดต้ม
*ไอศกรีมที่มีไขมันต่ำ หวานเย็นที่ไม่แต่งสีจัด
*ขนมไทยที่มีน้ำมันหรือกะทิน้อย ไม่หวานจัด เช่น ถั่วแปบ ข้าวต้มมัด ขนมกล้วย เม็ดขนุน ถั่วเขียวต้ม
เต้าส่วน เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ของว่างที่ดี ควรมีอาหารหลายหมวดหมู่อยู่รวมกัน

แต่ อย่างไรก็ดีการบริโภคที่เหมาะสมควรเดินสายกลาง อะไรที่มากไป น้อยเกินไปก็ไม่ดีควรมีความพอดี
อีกทั้งการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ
การออกกำลังกายและการพักผ่อนที่เพียงพอเป็นอีกสิ่งสำคัญหนึ่งที่ช่วยให้ สุขภาพดี.


ขี้เหล็กช่วยให้ผ่อนคลายหลับสบาย
ขี้เหล็ก เดิมเป็นไม้ในบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับจากหมู่เกาะต่าง ๆ ของประเทศอินโดนีเซียไปจนกระทั่ง
ถึงประเทศศรีลังกา แต่ในประเทศไทยเราจะพบไม้ขี้เหล็กในแทบทุกจังหวัด
โดยในดอกตูมและใบอ่อนมีคุณค่าทางสารอาหารคือ มีวิตามินเอ และวิตามินซี ค่อนข้างสูง
โดยเฉพาะในดอกจะมีมากกว่าใบ การใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร ดอก รักษาโรคเส้นประสาท นอนไม่หลับ
ทำให้หลับสบาย รักษาโรคหืด รักษาโรคโลหิตพิการ รักษารังแค ขับพยาธิ

ราก รักษาไข้ เหน็บชา แก้เส้นอัมพฤกษ์ให้หย่อน แก้ฟกช้ำ แก้ไข้บำรุงธาตุ ไข้ผิดสำแดง
ลำต้นและกิ่ง เป็นยาระบาย รักษาโรคผิวหนัง แก้โรคกษัย แก้นิ่ว ขับปัสสาวะ ขับระดูขาว ทั้งต้น แก้กษัย
ดับพิษไข้ แก้พิษเสมหะ รักษาโรคหนองใน รักษาอาการตัวเหลือง เป็นยาระบาย บำรุงน้ำดี
เปลือกต้น รักษาริดสีดวงทวาร โรคหิด ฝัก แก้พิษไข้เพื่อน้ำดี พิษไข้เพื่อเสมหะ แก้ลมขึ้นเบื้องสูง-เบื้องบน
โลหิตขึ้นเบื้องบน ทำให้ระส่ำระสายในท้อง เปลือกฝัก แก้เส้นเอ็นพิการ ใบ รักษาโรคบิด รักษาโรคเบาหวาน
แก้ร้อนใน รักษาฝีมะม่วง รักษาโรคเหน็บชา ลดความดันโลหิต ขับพยาธิ เป็นยาระบาย รักษาอาการนอนไม่หลับ

ขี้เหล็กเป็นไม้ต้นขนาดกลาง-ใหญ่ สูง 10-18 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นไม่ตรงมีเปลือกบางเรียบสีเทาปนน้ำตาล
หรือเขียวปนเทา เนื้อไม้มีประโยชน์ สามารถนำไปแปรรูปใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน เช่น เสา รอด ตง
เครื่องเรือนอย่างดี
ส่วนดอกและใบให้ประโยชน์ทางด้านโภชนาการแปรรูปใช้ในการรับประทานทำเป็นแกงขี้เหล็ก
และด้านอุตสาหกรรมสามารถทำสีย้อมผ้าได้อีกด้วย โดยใบให้สีเขียว ส่วนเนื้อไม้ให้สีเหลือง

จากการวิจัยพบว่าในใบขี้เหล็กนี้มีสารที่ ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ช่วยให้นอนหลับ
และระงับอาการตื่นตัวทางประสาทได้ แต่ไม่ใช่ยานอนหลับโดยตรง
และไม่พบอาการเป็นพิษมีความปลอดภัยในการใช้สูง

วิธีใช้ สำหรับแก้อาการท้องผูก ให้ใช้ใบขี้เหล็ก (ทั้งใบอ่อนและใบแก่) 4-5 กำมือ ต้มเอาน้ำดื่มก่อนอาหาร
หรือเวลาที่มีอาการ สำหรับแก้อาการนอนไม่หลับ กังวลเบื่ออาหาร ให้ใช้ใบแห้งหนัก 30 กรัม
หรือใช้ใบสดต้มเอาน้ำดื่มก่อนนอนหรือใช้ใบอ่อนดองกับเหล้า ใส่เหล้าขาวพอท่วมยาแช่เอาไว้ 7 วัน
ต้องมีการคน ทุกวันวันละครั้งให้สม่ำเสมอ กรองกากยาออก ดื่มครั้งละ 1-2 ช้อนชา ก่อนนอน

รู้ แบบนี้แล้วใครที่ไม่ชอบรับประทานขี้เหล็กควรจะเปลี่ยนใจมาทดลองชิมดู
โดยเฉพาะแกงขี้เหล็กที่รู้จักกันดีในบ้านเรา ถึงแม้หน้าตาจะไม่น่ารับประทาน สักเท่าไหร่
แต่มากมายด้วยสรรพคุณขนาดนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากมีสุขภาพดีและหันมารับประทานขี้เหล็กกันมากขึ้นนะคะ

ข้อมูลจาก เดลินิวส์




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2552
0 comments
Last Update : 30 กรกฎาคม 2552 20:43:26 น.
Counter : 1112 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.