• ธนาคารความสุข Part 3
• ธนาคารความสุข part 2
• ธนาคารความสุข part 1
• ถามปัญหา เชิญที่นี่ครับ
• แวะมาเยี่ยมทั้งที ลงชื่อไว้ตรงนี้ได้ครับ

มุมมอง.. ในวันที่เราอกหัก มีกระทู้น่าสนใจมาฝากอีกแล้วครับ .. จากห้องสวนลุมฯ เหมือนเคย จขกท. เขาถามไว้แบบนี้.. คนที่เคยคิดว่ารักกัน เพิ่งเลิกกับคนที่เคยคิดว่า เค้ารักเราค่ะ เหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่เค้าให้มา เราได้ยินแค่คำสุดท้ายเท่านั้น คือ เค้าไม่รักเรา ไม่เคยรักเราเลย และให้เราไปเถอะ มันเจ็บมากค่ะ ก่อนหน้านี้มีสัญญาณบางอย่างบอกแล้ว ว่ามันสุดทาง มันไปต่อไม่ได้แล้ว แต่เราไม่ได้เตรียมใจ สำหรับคำว่า ไม่เคยรักเราเลย ตอนนี้เราแย่มากค่ะ ไปที่ไหนก็มีแต่ความทรงจำ ชัดมากๆ เหมือนฉายหนังซ้ำ ฝันถึงเค้ามาหลายคืนแล้ว และเมื่อลืมตาขึ้นมา เรื่องแรกที่เรานึกถึง คือ เรื่องของเค้า เราพยายามมากที่จะไม่ร้องไห้ เราไม่อยากให้ใครไม่สบายใจ โดยเฉพาะพ่อกับแม่ แต่ใจเราสิคะ ยับเยินมาก คิดแต่ว่า อยากให้เค้ากลับมา แต่ในเมื่อเค้าไม่รักเรา มันก็ไม่มีประโยชน์ ถามคนที่มีประสบการณ์หน่อยเถอะค่ะ เพราะเราอกหักจริงๆแบบนี้ครั้งแรก คุณผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้ยังไงคะ เราทำใจมาช่วงนึงแล้ว ยังทำใจไม่ได้ คุณห้ามตัวเองยังไงคะ ว่าจะไม่โทร.หาเค้า ไม่มองหาเค้า ไม่คิดถึงความทรงจำเก่าๆ ฝากถึงคนที่กำลังคบใครที่คุณไม่ได้รัก อย่าปล่อยไว้นานนะคะ ถ้าไม่แน่ใจตัวเองก็รีบถอยออกมาเถอะค่ะ อย่าทำร้ายคนที่รักคุณ ด้วยการแกล้งทำเป็นรักเลยนะคะ แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 49 08:19:32 จากคุณ : Orly - [ 19 เม.ย. 49 08:03:25 ]" ผมไปตอบไว้ในคคห. ที่ 13 ว่าอย่างนี้ครับ ความคิดเห็นที่ 13 ผ่านมาได้ ด้วยความรู้สึกดีๆต่อตัวเอง และอนาคตครับ ต้องเชื่อว่า.. มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดโลกแตกฟ้าถล่ม ถึงแม้ในใจจะรู้สึกแบบนั้นอยู่ก็ตาม :) ต้องเชื่อว่า.. เรามีแรงขับเคลื่อนชีวิตมาได้ ด้วยตัวของเราเอง เชื่อว่า.. จมูกที่ใช้หายใจอยู่ทั้งสองรู พ่อแม่เราให้มาแต่กำเนิด เกิดมาก็ไม่มีใครสอนให้หายใจ ..ฉันใด เราก็ไม่ต้องอาศัยให้ใครมาช่วยทำให้เราดีขึ้น .. ฉันนั้น มนุษย์เรามีสัญชาตญานการเอาชีวิตรอดทุกคน เพียงแต่ถ้ามันเป็นครั้งแรก มันจะยากกว่าทุกครั้ง ก็เหมือนครั้งแรกที่คุณหัดขับรถ หัดขี่จักรยานโดยไม่มีล้อช่วย วันก่อนเอา DVD เรื่อง The Terminal มานั่งดู ฆ่าเวลา มีตอนที่พระเอก เจอนางเอกครั้งที่สอง นางเอกเพิ่งอกหัก เพราะจับได้ว่า คนรักไปนอนกับผู้หญิงอื่น คนรักของเธอก็มีภรรยาอยู่แล้ว เธอเป็นเมียน้อย ว่างั้น.. เธอคุยกับพระเอกเรื่องนโปเลียนถึงประวัติ ตอนที่นโปเลียนแพ้สงครามที่วอเตอร์ลู เลยกินยาตาย แต่ไม่ตาย เพราะความที่คิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์เหนือมนุษย์ เลยกินยาพิษในปริมาณมากกว่าที่คนทั่วไปจะรับได้หลายเท่า ก็เลยไม่ตาย.. เพราะร่างกายมันขับออกมาหมด พระเอกบอกว่า.. นโปเลียนอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้นมั้ง แต่อาจเพราะสายตายาว.. เลยอ่านฉลากข้างขวดผิดไป ตอนหลังนางเอกบอกพระเอกว่า.. ให้ระวัง อย่ามาใกล้เธอ.. เพราะเธอป่วย ที่มักจะไปชอบคนที่ไม่ควรชอบ พระเอกบอกว่า.. คุณไม่ได้ป่วยหรอก.. ..คุณแค่ สายตายาวน่ะ.. หายไวๆนะครับ จากคุณ : aston27 คนอกหักส่วนมากทำพลาดอยู่เรื่องเดียวครับ คือยังติดอยู่ในบ่วงของอดีตที่สวยงาม ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องผิด เรื่องแปลกอะไรเลย เพราะส่วนที่อันตรายที่สุดของความรัก ก็คือส่วนที่เป็นความสุขทั้งหลายนั่นแหละ ถ้าความรัก ความสัมพันธ์ มันไม่มีอะไรสวยงาม ไม่มีอะไรเป็นสุขเลย คนเราคงไม่บ้าไปยึด ไปอยากได้อะไรมันตั้งแต่วันแรก แต่เพราะมันสุข มันสวย มันช่วยให้เรารู้สึกพิเศษ เราจึงฝัน จึงหวัง ว่ามันจะเที่ยงแท้ คงทน ถาวร จนลืมไปว่า.. คนรัก ก็เหมือนทุกอย่างในโลกนี้ ที่อยู่ภายใต้กฏพื้นฐานสามข้อ มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป.. พอถึงเวลามันจะไปจริงๆ เราจึงมักจะทำใจไม่ได้ ยอมรับไม่ได้ เราจึงเจ็บ จึงทุกข์ เพราะเหตุนี้.. พระพุทธเจ้าสอนว่า.. มนุษย์เราชอบวิ่งหนีทุกข์ วิ่งหาสุข อะไรที่ทุกข์จะไม่ชอบ จะพยายามผลักไส จะเกลียดมัน แล้วก็ต้องทุกข์ ซ้อนทุกข์เดิม เพราะการดิ้นรน การเกลียดทุกข์นั่นแหละ ที่ต้องทุกข์ซ้อน เพราะเราพยายามบังคับใจตัวเอง ไม่ให้ทุกข์ บังคับ ทั้งๆที่บังคับไม่ได้นั่นแหละ เลยขัดใจ อึดอัด แทนที่จะเข้าใจ ยอมรับมัน ด้วยสติ ด้วยปัญญา ว่าทุกข์เป็นของธรรมดา ยอมรับทุกข์ ก็ไม่เที่ยง สุขก็ไม่เที่ยง เฉยๆ ก็ไม่เที่ยง ไม่มีอะไรอยู่กับเรานาน ทั้งสุข ทั้งทุกข์ หรือเฉยๆ ทุกอย่างเป็นแค่อารมณ์ อารมณ์หนึ่ง ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป เหมือนสายลม ถ้ายอมรับได้ เข้าใจได้ ยามใดมีทุกข์นึงเกิดขึ้น เราก็จะไม่ดิ้นรนให้เกิดทุกข์ซ้อนใหม่อีกตัว ถ้าไม่ดิ้นรน.. ทุกข์นึงเกิดแล้ว เรารับมันด้วยสติ มันก็จะดับไปตามธรรมชาติของมันเอง ไม่ใช่เพราะเราอยากให้มันดับ เพราะอย่างที่บอก.. ทุกอย่างบนโลกนี้ ล้วนแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไปทั้งนั้น จะรักห่วยๆ หรือรักดีๆ มันก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไปเสมอกัน ใช่ว่ารักดีๆ เกิดแล้วจะคงอยู่ชั่วฟ้าดินสลายเสียเมื่อไหร่ เพราะคนเรา ไม่จากเป็น ก็จากตาย ไม่จากกันวันนี้ ก็วันหน้า วันใดวันนึง จะช้าหรือเร็ว จะจากด้วยดี หรือแบบแย่ๆ เท่านั้นเอง วันนี้ไม่ได้ทำงาน เลยมีเวลาตอบกระทู้ยาวๆ พอจะเอามาฝากกันได้ สุขสันต์วันเลือกตั้ง สว. ครับ   Create Date : 19 เมษายน 2549     Last Update : 2 พฤษภาคม 2549 9:39:18 น. Counter : 2549 Pageviews.   32 comment Share Tweet

...... เพราะ "รัก" คุณเคยนึกสงสัยไหมว่า.. คนเราทำอะไรได้บ้าง เพราะความรัก.. ไม่ต้องเอาอะไรใหญ่โตโอฬารขนาดทัชมาฮาลหรอกนะครับ เอาแค่การกระทำของเราและคนรอบๆตัวนี่แหละ ใครบางคนที่ผมรู้จักดีต้องคอยวิ่งหนีใครบางคนหลายครั้งหลายหน.. เพราะเขารักผู้หญิงคนนั้น.. แต่ทุกครั้งที่วิ่งหนี.. ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เคยเข้าใจเขาเลยว่า เขาทำแบบนั้น เพื่อให้เธอตัดใจ เพื่อเธอจะได้ไม่ต้องโน้มตัวลงมาให้เขาเด็ดดอม เธอกลับคิดไปว่า.. ไอ้หมอนี่ มาบอกรักแป๊บๆ แล้วก็ทิ้งเธอไป ต้องมาหลอกเธอแหงมๆ ผมถามว่า แล้วทำไมไม่บอกๆเขาไปว่าทำแบบนี้เพราะอะไร มันบอกว่า.. บอกแล้ว..แต่อาจบางที.. น้อยคนจะเข้าใจว่า..ความรักมันก็ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการครอบครองเสมอไป สำหรับคนทั่วไป.. ความรักเท่ากับการพยายามจะได้มาซึ่งการเป็นเจ้าของ ถ้าทุ่มเทมาก พยายามมาก แปลว่ารักมาก.. ผมไม่อยากฟันธงว่า ความคิดแบบนั้นผิดหรือถูก แต่เอาเป็นว่า.. บางที.. การรักตัวเอง กับรักคนอื่น มันแบ่งกันด้วยเส้นบางๆเพียงนิดเดียว บ่อยครั้ง ที่การอยากได้ใครมาเป็นของๆเรา เป็นคนในอาณัติของเรา หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า ..เป็นแฟนเรา มันสะท้อนถึงความรักตัวเอง อยากให้ตัวเองสมหวัง มากกว่าอยากให้อีกฝ่ายมีชีวิตที่ดี มีความสุข.. เพราะเรารักเขา เพราะบางทีเราเชื่อมั่นเหลือเกินว่า เรามีดี เราเจ๋งสุดในปฐพี เรารักเขาที่สุดแล้ว เลยจากชั้นไป ก็ไม่มีใครรักแกเท่าชั้นอีกแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน เรากลับไม่ค่อยจะรักสิ่งที่เขาเป็นเท่าไหร่ แถมบ่อยครั้ง กลับพยายามไปเปลี่ยนให้เขาเป็นคนอีกคน ที่เขาไม่เคยเป็น.. แล้วบอกว่า.. เพราะรัก เหมือนคนที่รักหมา แล้วพยายามไปแต่งขนมัน แต่งตัวให้มัน โดยไม่เคยถามหมามันเลยว่า.. มันชอบหรือเปล่าที่เจ้านายทำให้.. เพราะรัก..น่ะ แต่อันนั้นมันหมา .. จะไม่ถามก็ไม่แปลก ถ้าถามสิถึงจะแปลก แต่ถ้าเป็นเรื่องของคน ถึงจะรักปานโรเมโออยากจะกลืนจูเลียต ก็น่าจะชะงักซักถามกันหน่อย.. ว่าเธอยินดีไหม ถ้าฉันอยากทำแบบนั้น แบบนี้ให้เธอ.. เพราะรัก อันนี้ไม่ได้บอกว่า การเปลี่ยนแปลงทุกกรณีเป็นเรื่องเลวร้ายนะครับ หลายๆกรณี เป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่เขาควรทำอยู่แล้ว เช่นเลิกสูบบุหรี่ เลิกทำตัวสำมะเลเทเมา เลิกเล่นพนัน แต่เรื่องควรเปลี่ยน ไม่ควรเปลี่ยน เป็นเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับเรื่องการยอมรับตัวตนที่เขาเป็น ..หรืออยากเปลี่ยนเขา.. เพราะรัก.. บางคนเปลี่ยนคนอื่นไม่พอ.. ยังเปลี่ยนทุกคนที่อยู่รอบตัวแฟน แม้กระทั่งตัวเอง เปลี่ยนไปจนบางทีก็จำไม่ได้ว่า ตัวเองเคยเป็นคนยังไงมาก่อน ศาสนาพุทธมีหลักการที่แสนจะเรียบง่าย แต่ได้ผล .. คือแนวคิดว่าด้วยทางสายกลาง ที่จริง.. ทางสายกลาง ท่านหมายถึงการปฏิบัติที่ไม่สุดโต่งไปในทางทั้งสอง ทางหนึ่งคือ.. ไม่ปล่อยใจไหลไปกับกิเลสจนกู่ไม่กลับ ส่วนอีกทาง คือไม่ไปบังคับกดข่มไว้ จนรู้สึกนึกคิดอะไรตามปกติธรรมชาติไม่ได้เลย ถ้าอาศัยหลักคำสอนนั้นมาประยุกต์กับเรื่องความรัก.. ใครที่ทำตัวแบบทางแรก.. ก็จะออกมาประมาณว่า.. เพราะรัก.. ก็จะตามใจแฟนไปหมด แฟนฉันดีทุกอย่าง เหมือนเลี้ยงลูกด้วยการตามใจอย่างเดียว ยังไงยังงั้น แฟนชวนไปลงนรก ก็ไป หัวอ่อนไปหมด ไม่มีปากไม่มีเสียง อะมิโนโอเค ไปหมด ถ้าทำตัวแบบทางที่สอง .. เรา็จะคอยกด คอยคุม คอยข่ม บังคับให้แฟนทำโน่น ทำนี่ ตามกฏที่เราตั้ง เหมือนแฟนโดนเกณฑ์มาคบกัน ไม่ใช่สมัครใจมา.. แต่ทำด้วยความปรารถนาดี.. เพราะรักอีกเหมือนกัน .. ถามว่า.. แล้วไอ้ทางสายกลางของความรัก.. อยู่ตรงไหน ตอบว่า.. ก็อยู่ตรงที่ไม่ทำทั้งสองแบบ นั่นแหละ ไม่ใช่หลับหูหลับตา ปิดปาก ปิดหู ปิดตา ปิดสมอง เขาจะทำยังไงก็อะมิโนโอเค นะก๊ะ.. บางคนแฟนไปยืนขอเบอร์สาวแปลกหน้าอื่นกลางห้างพารากอนต่อหน้าตัวเอง ยังไม่ว่าอะไร.. อันนี้ เกินไปนะครับ ไม่ต้องใจกว้างขนาดนั้นก็ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องวีนแตกแหกอกกันตรงนั้นในบัดดล เพียงแต่คุณต้องแสดงออกให้เขารู้ว่า เขาทำอะไรล้ำเส้น และขอทราบเหตุผลที่เขาไม่แยแสความรู้สึกคุณ ให้เกียรติเขา อย่างที่เขาควรจะทำ แต่ไม่ได้ทำนั่นแหละ เพียงแต่ต้องคุย ต้องให้เขารู้ว่า อะไรคือสิ่งที่เรามองว่ามันพอเหมาะพอควร การให้เกียรติกัน ไม่ได้แปลว่าคุยกันไม่ได้ บอกกล่าวกันไม่ได้ แต่แปลว่า ไม่ควรวีนแตก โดยไม่ดูกาละเทศะ ไม่ควรรีบสรุปว่าเขาเจตนาร้าย ไม่ควรคุยด้วยโทสะ ไม่ได้บอกว่า คนมีแฟนแล้ว มีเพื่อนไม่ได้ แต่มันควรจะมีที่มาที่ไปนะครับ ไม่ใช่ไปปิ๊งกันริมถนน ในผับในร้านอาหาร เบเกอรี่ หรือสตาร์บั๊คส์ แล้วก็ขอเบอร์กันง่ายๆ คนให้ก็ให้แบบงงๆ .. ทั้งๆที่รู้ว่าเขามีแฟนมาด้วย ก็ยังให้ ฝ่ายนึงก็ประมาณว่า เอ็งกล้าขอ ฉันก็กล้าให้เอ็งขอ ..เพราะรัก(ว่ะ) อันนี้ไม่จำเป็นเลย อ่านแล้ว เข้าใจ ทำได้ ก็ดีไป ทำไม่ได้ ก็ตัวใครตัวมัน.. นะครับ บอกกล่าวกันไว้.. ไม่ใช่เพราะอะไร เพราะรัก.. เหมือนกันนั่นแล :)   Create Date : 17 เมษายน 2549     Last Update : 17 เมษายน 2549 23:21:54 น. Counter : 1335 Pageviews.   21 comment Share Tweet

ควันหลงจากสงกรานต์ ผมเพิ่งกลับจากการไปเยือนสงกรานต์เชียงใหม่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เชียงใหม่ ก็ยังเป็นเชียงใหม่เมืองเดิมสำหรับผม ถึงจะมีถนนใหม่ๆ ใหญ่ขึ้น มีหมู่บ้านจัดสรรผุดเป็นเห็ดหน้าฝน มีร้านเก๋ๆ ผุดสะพรั่งเต็มถนนนิมมานเหมินทร์ และเต็มไปด้วยรถทะเบียนกรุงเทพฯ ตอนสงกรานต์ แต่เชียงใหม่ ก็ยังเป็นเชียงใหม่ ที่มองไปทางทิศตะวันตกครั้งใด ก็ยังเห็นดอยสุเทพฯยืนตระหง่าน อยู่ที่เดิมตรงนั้น หลายปีที่ผ่านมา ผมค้นพบและยืนยันสิ่งที่ค้นพบนั้นมาหลายครั้งว่า.. ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบไปอยู่ในที่ๆคนจำนวนมากอยากจะแห่กันไป ผมถึงไม่ค่อยได้ไปดูคอนเสิร์ต แม้จะชอบฟังเพลง ผมถึงไม่ค่อยอยากไปงานมอเตอร์โชว์ แม้จะมีสาวๆลานตาให้มอง ผมถึงไม่ค่อยอยากไปงานสัปดาห์หนังสือ เพราะไม่อยากไปเบียดแย่งที่เดินกับใคร เพื่อนสนิทผมคนหนึ่ง สรุปเอาสั้นๆว่า .. เธอเป็นคนขี้รำคาญ กลับไปสงกรานต์เชียงใหม่เที่ยวนี้ วัตถุประสงค์หลัก จึงไม่ใช่เพื่อไปเล่นน้ำ แต่เพราะพี่สาวขอร้องให้ไปรวมญาติ เพื่ออาม่าที่อายุใกล้ 90 เต็มที อาม่าเป็นคนที่เลี้ยงผมมาตอนเด็กๆ เป็นทั้งพ่อและแม่ในปฐมวัยของผม ถึงผมจะขี้รำคาญขนาดไหน เล่นยกอาม่ามาอ้างแบบนี้ ผมก็ทำให้ได้แหละ เห็นอาม่าในวัยชรา ขนาดนี้ ก็เหมือนเห็นคนชราทั่วๆไป เห็นแล้วก็ปลงทุกทีว่า ความชรามันเป็นสิ่งที่เราเลี่ยงไม่ได้ ความเสื่อมไปของสังขาร มันเป็นสัจธรรม ที่เราต้องเจอ สิ่งที่เป็นผลพลอยได้อีกอย่างจากการรวมญาติเที่ยวนี้ นอกจากได้พาเด็กๆไปทำสิ่งที่เป็นความใฝ่ฝันสูงสุดอย่างหนึ่งในชีวิตของเด็ก .. คือการได้เล่นน้ำจนเปียกปอน โดยไม่มีผู้ใหญ่ดุ ผมยังมีโอกาสได้กราบพ่อผมด้วย อิอิอิ พ่อผมเป็นคนแบบผู้ชายรุ่นเก่าน่ะ เป็นคนที่ขาดความสามารถในการแสดงออกว่ารักลูก ทั้งๆที่หายใจเข้าออก ก็คิดแต่เรื่องลูก พ่อไม่เคยกอดลูก ไม่ว่าจะคนไหน อาจเพราะกลัวจะสูญเสียความเป็นชาย หรือยังไง อันนี้ ผมก็ยังไม่เข้าใจ เที่ยวนี้ พ่อพาไปสำนักปฏิบัติธรรมแถวจอมทอง ที่พ่อไปสร้างกุฏิปฏิบัติธรรมไว้ หลวงพ่อเลยให้ทำพิธีกราบขอขมาพ่อแม่ให้ ลูกหลานก็เลยได้กราบเท้าพ่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากทำมานาน แต่ไม่รู้จะบอกพ่อยังไง กลัวพ่อเขิน สุดท้าย.. คือได้เห็นพี่สาวทะเลาะกับพี่เขย อันนี้เป็นของแปลกสำหรับผม เลยได้เห็นว่า.. ชีวิตคู่ก็ยังเป็นเรื่องยากเหมือนเดิม แม้แต่สำหรับคู่ที่ดูเขามั่งคั่งมากอย่างพี่สาวกับพี่เขย ได้เห็นว่าเวลาเป็นคนนอกต้องนั่งฟังคนอื่นทะเลาะกันเนี่ย มันเหมือนเส้นผมบังภูเขานะ เราจะเห็นหมดเลยว่า ถ้าพี่สาวเราพูด หรือไม่พูดแบบนี้จะดีกว่า ถ้าพี่เขยเราหยุดพูดตั้งแต่ตรงนั้น หรือพูดอีกแบบ เรื่องก็จะจบได้ง่ายกว่านั้น เพราะเราก็รู้ว่า.. เขาเป็นคนดีทั้งคู่ แต่อาจจะเพราะโตมาจากครอบครัวที่ต่างกัน เลยคิดต่างกัน มองต่างกัน มองเผินๆ ..เขาน่าจะเข้าใจกันได้มากกว่านี้ เพราะอยู่กันมาสิบกว่าปีแล้ว แต่เชื่อไหม.. มองในอีกแง่นึง เพราะอยู่กันมานานนี่แหละ ถึงจะทำให้มันยากขึ้น เพราะฝ่ายนึงรู้สึกว่า เขาต้องเป็นฝ่ายยอมมาตลอด เวลาที่เขาขอให้อีกฝ่ายยอมอะไรบ้างนิดๆหน่อยๆ กลับยากเหลือเกิน ผมเลยต้องตอบคำถามเด็กๆว่า.. ลุงกับป้าเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร ทำไมเขาต้องเถียงกัน ผมบอกว่า มันก็เหมือนเด็กๆ ทำไมต้องทะเลาะกันนั่นแหละ พี่กับน้องก็รักกัน แต่พ่อก็เห็นทะเลาะกันทุกวัน ทำไมต้องทะเลาะกันล่ะ เพียงแต่.. คนเป็นพ่อแม่ลูก พี่น้อง ทะเลาะกันแล้ว ก็ยังเป็น พ่อ แม่ ลูก เป็นพี่ เป็นน้องกันเหมือนเดิม แต่คนรักนี่ โกรธกัน ทะเลาะกัน แยกกันแล้ว ก็ไม่เกี่ยวอะไรกันแล้ว เป็นคนแปลกหน้ากันไป เอาคร่าวๆเท่านี้ก่อน.. วันนี้ตั้งใจจะไปทำบุญอีกสักหน่อยครับ สุขสันต์วันอาทิตย์ปิดท้ายสงกรานต์ครับ   Create Date : 16 เมษายน 2549     Last Update : 16 เมษายน 2549 9:18:26 น. Counter : 1070 Pageviews.   16 comment Share Tweet

ห้องเก็บของ สมัยผมเป็นเด็ก.. กิจกรรมอย่างหนึ่งที่แสนจะไม่สนุก คือการรื้อห้องเก็บของ เพื่อเลือกคัดของที่ไม่ใช้ออกไปขาย หรือทิ้ง แล้วจัดใหม่ วันก่อนมีเหตุต้องพาตัวเองไปเปิดห้องเก็บของ รวมถึงรื้อตู้เสื้อผ้า จัดข้าวของใหม่ ทุกครั้งที่พยายามทำอะไรแบบนี้ ผมจะค้นพบว่า มีของหลายอย่าง ที่เรามักจะเก็บไว้ เพราะรู้สึกเสียดาย และคิดว่า มันน่าจะมีประโยชน์ไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่เราก็จะลงเอย ด้วยการลืมสนิท ว่าเรามีของชิ้นนั้นเก็บไว้ด้วยในที่สุด เสมอๆ กว่าจะรู้ตัวขึ้นมาอีกที.. ก็ตอนที่จะย้ายบ้านทีนึง ตอนที่อยากจะหาของอะไรสักอย่าง จากห้องเก็บของ หรือ.. ตอนที่เราต้องการพื้นที่ เพื่อเก็บของอะไรบางอย่างนั่นแหละ หลายปีที่ผ่านมา.. ผมพบว่า การรู้จักสละของบางอย่าง การรู้จักแบ่งปันของที่เราเก็บไว้เฉยๆ แต่ยังใช้งานได้ ให้คนอื่นที่เขาต้องการใช้ประโยชน์ นอกจากจะช่วยให้พื้นที่รอบตัวๆเราเพิ่มขึ้น เรายังได้ความสุขทางใจ และลดความ"แบก" ในใจลงได้ เก็บกวาดห้องเก็บของที่บ้านนี่..ไม่ยากหรอกนะครับ จะนั่งรื้อเมื่อไหร่ ก็เห็นได้เมื่อนั้น แต่จะเก็บกวาดห้องเก็บของในใจเรานี่ .. ยากหน่อย เพราะมันมองไม่เห็น และเราไม่ค่อยรู้ตัว ว่ายังแบกมันไว้ บางคนเก็บเรื่องอะไรไว้ ห้าปี สิบปี ยี่สิบปี ก็ยังอยู่ในใจแบบนั้น ไม่เคยให้อภัยตัวเอง ไม่เคยให้อภัยคนอื่น วันไหนว่างๆ ก็ไปเปิดห้องเก็บของในใจตัวเองออกมา ทรมานตัวเองเล่นๆ เคยได้ยินไหมครับ ที่เขาบอกว่า คนอื่นมาพูดจาว่าร้ายเราน่ะ เหมือนเขาเอามีดมาแทงเราครั้งนึง แล้วก็สะบัดก้นหนีไป แต่คนที่ไม่ชอบปล่อยวาง.. ชอบอาฆาตแค้นเคือง ก็เท่ากับหยิบเอามีดเล่มเดิม มาแทงตัวเองซ้ำๆๆๆ ห้องเก็บของในใจเรา จึงมักจะมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีปนกัน อยู่ที่เราจะเลือกเก็บอะไรไว้ ทิ้งอะไรไปบ้าง ชีวิตจะได้เบาขึ้น สบายขึ้น ..นะครับ เที่ยวเล่นสงกรานต์ ให้สนุก ระวังตัวด้วยนะครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ล่วงหน้าครับ   Create Date : 10 เมษายน 2549     Last Update : 11 เมษายน 2549 9:06:33 น. Counter : 1846 Pageviews.   11 comment Share Tweet

วันเสาร์ ฟุตบอล และหลุมพรางแห่งความสำเร็จ คืนวันเสาร์คุณทำอะไรกันบ้างครับ? สำหรับคนไม่เที่ยวกลางคืนอย่างผม ปกติ ถ้าผมไม่ไปดูหนัง .. ก็จะอยู่บ้านดู ดีวีดี ดูฟุตบอลครับ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ผมสนใจมาตั้งแต่เล็กจนโต หลายคนบอกว่า.. มองเผินๆ ฟุตบอลเหมือนกีฬาของผู้ชายบ้าๆกลุ่มนึง มีคนยี่สิบคนไปวิ่งไล่เตะลูกกลมๆไปทั่วสนาม ปล่อยให้คนอีกสองคน คอยกันไม่ให้ไอ้ยี่สิบคนที่ว่า เตะเข้าประตู ใครที่พอจะสนใจอ่านข่าวฟุตบอลอังกฤษอยู่บ้าง คงจะเดาได้ไม่ยากว่าผมเชียร์ทีม aston villa ทีมที่มี ปีเตอร์ วิธ อดีตโค้ชทีมชาติไทย เคยเล่นเป็นศูนย์หน้า ในชุดที่เอาชนะบาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ยุโรปไปครอง ในปี 1982 แอสตัน วิลล่า ปัจจุบัน ไม่ค่อยเหลือวี่แววของอดีตแชมป์ยุโรปแล้วครับ กลายเป็นทีมกลางๆ แถมปีนี้ต้องดิ้นรนตกชั้น อีกต่างหาก ที่จริงก็เป็นแบบนี้มาหลายปีดีดัก แต่ปีนี้หนักหน่อย เพราะผลงานการเล่นในบ้านไม่ดีเอาเลย ส่วนหนึ่ง เพราะแฟนๆของวิลล่า คาดหวังกับทีมไว้สูงมาก พอไม่ได้อย่างใจแฟนๆก็เริ่มส่งเสียงโห่ไล่ผู้จัดการทีมเสียเอง รวมถึงนัดไหนถ้าเล่นไม่ดี แทนที่จะให้กำลังใจกลับโห่ทีมตัวเองซะงั้น ตอนนี้ศรัทธาในทีมค่อนข้างมีต่ำ คนดูแต่ละนัดก็น้อยลงๆ เรื่องที่น่าแปลกก็คือ มีทีมบางทีมที่อยู่ก้นตาราง อันดับต่ำกว่าวิลล่า แต่เล่นนัดไหนคนเป็นเต็มสนาม แถมส่งเสียงเชียร์กันอึกทึก ส่วนนึงผมเชื่อว่า มันคือผลจาก "ความคาดหวัง" ที่ต่างกัน ในขณะที่คนกลุ่มนึง ประเมินว่า ตัวเองเป็นทีมเล็ก เพียงแต่ประคองตัวให้อยู่รอดในลีกสูงสุดของประเทศ ก็เป็นความสุขอย่างยิ่งแล้ว คนอีกกลุ่ม อย่างแฟนวิลล่า กลับยึดมั่นในอดีตอันยิ่งใหญ่ และตั้งความคาดหวังไว้สูง เมื่อผลที่ได้ต่ำกว่าที่คาด จึงเกิดอาการผิดหวังอย่างแรง มนุษย์เรามักจะตกหลุมพรางของความสำเร็จในอดีตบ่อยๆนะครับ แต่เราลืมไปว่า.. ที่จริงแล้ว ความสำเร็จมันไม่ใช่ของยืนยง เที่ยงแท้ ถาวร ก็เหมือนกับความล้มเหลวนั่นแหละ มันไม่ได้แปลว่า วันนี้ล้มเหลว ก็จะล้มเหลวไปตลอด เพียงแต่การพลิกผัน จากล้มเหลว ไปสู่ความสำเร็จ มันยาก แต่จะพลิกผันจากสำเร็จ ไปสู่ความล้มเหลว มันง่ายกว่าเยอะ สิ่งนึง ที่ช่วยให้คนที่เคยประสบความสำเร็จ ล้มเหลวได้ง่ายๆ ก็คือการตั้งความคาดหวังไว้กับตัวเองนี่แหละครับ ทั้งที่ลืมไปว่า ก่อนหน้านี้ เคยทำอะไรได้สำเร็จ เพราะไม่ได้คาดหวัง ไม่มีอะไรกดดัน ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ค่อยๆทำไปตามความสามารถและโอกาส หลุมพรางของความสำเร็จ จึงไม่ได้เกิดจากใคร นอกจากตัวเอง แม้แต่ ผู้ปฏิบัติหลายคนก็เป็นอย่างนี้นะครับ บางคน จากที่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยปฏิบัติธรรมเลย ไม่รู้ว่า ปฏิบัติน่ะเขาทำอะไรกัน พอเริ่มลงมือ เริ่มทำเป็น เริ่มเห็นผลนิดๆหน่อยๆ ก็เริ่มคาดหวัง เริ่มกดดันตัวเอง เริ่มอยากก้าวหน้า อยากได้ผลดีๆ อยากเก่ง อยากเห็นโน่น อยากได้นี่ จากจิตที่เป็นกุศล ก็เริ่มกลายเป็นอกุศลไป โดนความอยากมันครอบเอา หลักการเรื่องหลุมพราง กับความคาดหวังนี่ อธิบายได้ แม้แต่กับเรื่อง ความรัก และชีวิตคู่ครับ เริ่มจากเรื่องฟุตบอล จบด้วยเรื่องธรรมะ เขียนได้ไงเนี่ย.. สุขสันต์คืนวันเสาร์ครับ   Create Date : 08 เมษายน 2549     Last Update : 10 เมษายน 2549 23:17:50 น. Counter : 1026 Pageviews.   7 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• วิมุตติ
• แสงดาวส่องทาง
• มะลิเจี๊ยบ
• แหนมเนือง
• Fan Page aston27
• BlogGang.com