|
คนที่ใช่.. คนดี กับเศรษฐศาสตร์ความรัก
ไม่ได้ขี้เกียจนะ.. บอกก่อน.. แต่กระทู้น่าสนใจแบบนี้มีให้เห็นเป็นช่วงๆ ช่วงๆ ที่หมายถึงความถี่นะ.. ไม่ใช่แฟนคุณหลินฮุ่ย เอิก
กระทู้เพิ่งตอบสดๆ เลือดยังซิบๆ เขาถามว่าอย่างนี้ครับ
"ขอคำปรึกษา กลุ้มใจเรื่องความรักค่ะ เรียนไม่รุ้เรื่องเลย อยากเลิกคิด " คือเราคบกับแฟนเรามานานพอสมควรแล้วค่ะ เราก็รักเค้านะคะ แต่ก็รู้สึกมาตลอดว่าเค้าเป็นคนที่รักเรา แต่ไม่ใช่แบบว่าคนที่แบบใช่เลย เรารักเค้าเพราะความดีของเค้า แต่เค้าก็มีข้อเสียบางอย่างที่เราทนไม่ไหว ไอ้เรื่องจุกจิกเหมือนผู้หญิงอ่ะค่ะ บางครั้งเรารู้สึกเราขาดอิสระเกินไป
แล้วช่วงนี้ เรามีโอกาสได้คุย msn กับคนอื่นๆ ทำให้เรามีความรู้สึกดีกับคนๆนึงเกิดขึ้น ถึงแม้เรารู้ว่าเรื่องระหว่างเค้ากับเรามันคงเป็นไปไม่ได้ เค้าก็อาจไม่ได้รู้สึกดีกับเราแบบที่เรารู้สึกด้วยซ้ำ แต่มันก็ยังแอบรู้สึก
แล้วแฟนเราก็ชอบพูดเรือ่งแต่งงาน แทนที่เราจะดีใจ เรากลับรู้สึกกลัว ว่าเราแน่ใจเหรอ ว่าเราจะหยุดที่คนนี้ คือแต่ก่อนมันไม่คิดอ่ะค่ะ เราก็มั่นใจพอควร ว่าเราควรเลือกคนที่รักเรา เพราะไอ้ที่รักเค้ามากๆอาจเป็นเพราะความหลงก็ได้ จากประสบการ์ที่ผ่านๆมา เวลารักใครมากมันมีความสุขแต่มันก็ทรมานด้วยเวลาที่เค้าไม่เห้นค่า แต่ใจจริงเราก็ยังอยากเจอคนแบบนั้นอยู่
ตอนนี้เลยไม่มีสมาธิทำอะไรเลย เพราะแบบอยากคุยกับคนนั้นตลอด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไงดีจะทำให้ตัวเองตัดใจได้ แล้วพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ตรงนี้ได้ ดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ
จากคุณ : กลุ้มค่ะ - [ 15 พ.ค. 49 20:39:55 ]
ความคิดเห็นที่ 8
ถ้าผมเป็นคุณ.. ผมจะแยกปัญหาออกเป็นสองเรื่อง
หนึ่ง .. แฟนคนปัจจุบัน คือคนที่ใช่หรือยัง สอง.. จะจัดการกับความรู้สึกที่มีกับหนุ่ม MSN ยังไง
คำถามแรก.. คุณหาคำตอบเองนะครับ ผมมีบอกใบ้ให้นิดหน่อยว่า.. คนที่ใช่ที่คุณว่า อาจจะมีจริง แต่เชื่อเถอะว่า.. คนๆนั้น ต่อให้คุณได้เจอจริงๆ เขาก็จะมีอะไรบางอย่างให้คุณต้องทำใจอยู่ดี
อย่ามองหาคนที่ perfect 100% เพราะมันไม่มีอยู่จริง .. ต่อให้คุณถอดใครสักคนออกมาจากนิยายสักเรื่องได้ คุณจะพบว่า เขามีบางอย่าง ที่หนังสือไม่ได้บรรยายไว้ ซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดเสมอ
ไม่ได้บอกว่า คุณควรตัดสินใจยังไงนะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณต้องเลือกเอง
ส่วน ข้อสอง.. ความรู้สึกที่คุณมีกับหนุ่ม msn อย่างที่หลายคนว่าไว้.. คนใน msn นี่ทำเอาคนหงายหลังตึงมาเป็นแถบๆแล้วนะครับ
ผมเองถึงกับมีนโยบายว่า.. ถ้าไม่คอขาดบาดตายจริงๆ ยังไงก็จะไม่หาแฟนจาก MSN เด็ดขาด
เพราะเชื่ออะไรกับ MSN ก็เท่ากับเชื่อนิทานเรื่องนึง ที่เราไม่มีทางรู้ว่า มัน based on a true story สร้างจากเรื่องจริง จริงๆ หรือแค่โม้
คำแนะนำที่ผมอยากให้คือ.. อย่าเอาปัญหาสองเรื่องมาปนกัน ตอบปัญหาข้อหนึ่งให้ได้ก่อน ว่าคุณจะฟันธงว่าเขาไม่ใช่คนที่มองหา ก็จงหันหลังให้เขาไปเพราะคุณยังเลือกจะแสวงหาต่อไป
หรือถ้าต้องการจะเดินหน้ากับแฟนปัจจุบันต่อไป ก็อย่ามัวลังเล อย่ามัวแต่คิดหาข้อเสียของเขา เพื่อจะทิ้งเขาไปหาเงาในความฝันของคุณ
ต้องปักหลักให้มั่นคง อย่าเป็นไม้หลักปักขี้เลน ง่อนแง่นๆ เสียเกียรติลูกผู้หญิงหมด
สมัยเด็กๆ เคยเรียนนิทานอีสปเรื่องหมาคาบเนื้อไหมครับ
หมาหิวโซตัวนึง ไปขโมยคาบเนื้อชิ้นใหญ่มาได้จากตลาด วิ่งหนีมาไกลจะไปหาที่กินเนื้อให้สบายใจ
ระหว่างเดินข้ามสะพานพลันชะโงกไปเห็นเงาของตัวเองในน้ำ ก็นึกว่าเป็นหมาอีกตัวอยู่ข้างล่าง แถมยังเห็นไปว่า ไอ้เนื้อในปากของหมาตัวข้างล่างมันใหญ่กว่าเนื้อในปากตัวเอง
ด้วยความอยาก.. ก็คายเนื้อในปากทิ้งแล้วโดดลงไปหมายจะแย่งเนื้อจากเงาของตัวเองในน้ำ
ตอนจบเป็นยังไง คงไม่ต้องเล่า เพราะคุณน่าจะได้ฟังมาแล้ว เล่าไปก็เอามะพร้าวห้าวไปขายสวนเสียเปล่าๆ
แค่เอามาเตือนสติอีกที..
อ่านดีๆนะคุณน้อง.. ผมไม่ได้บอกว่า คนทุกคนมีแฟนแล้วเลิกไม่ได้ ถ้ามีเหตุอันควร จำเป็นจริงๆ อยากเลิกก็เลิกนะครับ แต่ไม่อยากให้เลิกเพราะไปเจออีกคน ที่มีตัวตนจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
มันจะกลายเป็นหาเหตุไปปฏิเสธเขา เพราะใจเราอยากไปวิ่งตามเงาของตัวเองในน้ำ
ถ้ามันกลุ้มใจขนาดเรียนไม่ได้.. ก็เลิกคิดฟุ้งซ่านให้ได้ เรียกสติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวเราก่อน
ไม่ต้องรีบตัดสินใจ ในข้อหนึ่ง แต่ข้อสองนี่.. พูดกันขนาดนี้ ถ้ายังหลงอีก.. ก็ไม่รู้จะช่วยไงแล้วครับ
ตัวใครตัวมันนะคุณน้อง..
จากคุณ : aston27
*******************************
เรื่องกระทู้ข้างบนจบไป.. อาจจะมีคนสงสัยว่า.. เออนะ.. ไอ้คนเราเนี่ย บางคนก็ดีแสนดี ทำไมอีกฝ่ายมันถึงไม่เห็นค่าความดี เหมือนโรตีเห็นค่าของนมข้นหวานมั่ง
ผมพาลไปนึกถึงทฤษฎีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ขึ้นมา หลักเรื่อง อุปสงค์ อุปทาน หรือ Demand กะ Supply
อุปทาน หรือซัพพลาย หมายถึงไอ้สิ่งที่เราผลิตออกมาได้ ดีมานด์ หรืออุปสงค์ ก็คือ ความต้องการนั่นแหละ
ในทางเศรษฐศาสตร์ เขาอธิบายว่า ถ้าสองข้อนี้มันสมดุลย์กัน ทุกอย่างก็แฮปปี้ ดีพร้อม
แต่ถ้าอย่างใดอย่างนึงมันมากกว่ากัน มันจะเริ่มมีปัญหา ถ้าซัพพลาย ที่ผลิตได้ มันมากกว่าความต้องการ ก็ยังนับว่าโชคดี เพราะของเหลือยังไงก็ดีกว่าขาด
แต่ถ้าความต้องการมีมาก แต่ซัพพลายมีไม่พอกับความต้องการ ก็จะมีความต้องการส่วนขาดเกิดขึ้น
เพราะส่วนขาดนี่แหละ ที่จะทำให้ เกิดความรู้สึก ไม่เต็ม ไม่อิ่ม มันพร่องๆ อยากไปหามาเติมจากที่อื่น
เคยมีผู้หญิงที่แสนดีที่สุดในโลกคนนึงในสายตาผม ถามผมว่า.. ผู้ชายชอบไหม ถ้าจะต้องเจอแฟนทุกวัน แฟนมาหาทุกวันเลยจะรำคาญไหม
ผมบอกว่า.. มันก็แล้วแต่คนสิ.. ถ้าเธอไปถามผู้ชายที่เขาอยากมีแฟนแบบนั้น เขาก็ชอบ ถ้าไปถามผู้ชายที่ชอบมีเวลาส่วนตัวเยอะๆ เขาก็ไม่ชอบสิ
ที่น่าสนใจคือ.. ดีมานด์ กับซัพพลาย มันก็ไม่ได้คงที่นะครับ มันแปรผันได้ตามเวลา ปัจจัยต่างๆและดินฟ้าอากาศ
วันนี้มันอาจจะขาด พรุ่งนี้ก็อาจสมดุลย์ มะรืนอาจจะเกิน เพราะชีวิตมันขึ้นกับเหตุและปัจจัย
ถ้าเติมเหตุ และปัจจัยที่ดี ผลก็จะออกมาดี อะไรเกินก็ลดลงบ้าง อะไรขาดก็เติมเข้าไป
คนเราถ้าเป็นฝ่ายให้ ก็ไม่ควรวิ่งตามดีมานด์ ไปตลอดเวลา แต่ก็ไม่ควรจะนิ่งเฉยไม่คิดจะเพิ่มซัพพลายให้ทันดีมานด์บ้างเลย
ถ้าเป็นฝ่ายรับ ก็ไม่ควรนิ่งเฉยอย่างเดียว ถ้าสิ่งที่ได้มันไม่ตรงกับที่ต้องการ หรือมันน้อยจนคุณเหี่ยวเฉา ก็ต้องพูดกัน บอกกัน คุยกัน คุยกัน นี่คนละความหมายกับด่าทอ ต่อว่านะครับ คุยครับคุย.. speak ก็พอ ไม่ต้อง blame
แต่ก็ไม่ควรที่เราจะเรียกร้องเอาๆ ไม่สิ้นสุด
ทางสายกลางในโลกนี้มีเสมอ.. แต่เราจะหาเจอหรือไม่ เท่านั้นเองครับ
สวดมนต์ก่อนนอนแล้วจะนอนหลับฝันดี ครับ
Create Date : 15 พฤษภาคม 2549 |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2549 11:23:12 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1832 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ป้าปูเป้ IP: 58.8.166.139 วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:52:44 น. |
|
|
|
โดย: ลูกบัว IP: 203.156.0.241 วันที่: 16 พฤษภาคม 2549 เวลา:1:03:17 น. |
|
|
|
โดย: ซออู้ วันที่: 16 พฤษภาคม 2549 เวลา:1:52:08 น. |
|
|
|
โดย: มิงค์ IP: 210.213.6.58 วันที่: 16 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:36:28 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 16 พฤษภาคม 2549 เวลา:11:25:27 น. |
|
|
|
โดย: run to me วันที่: 16 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:15:10 น. |
|
|
|
โดย: Walkerahead IP: 124.121.175.239 วันที่: 28 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:42:26 น. |
|
|
|
โดย: Auntie (สะพานดาว ) วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:41:13 น. |
|
|
|
โดย: (คนหล่อ)หน้าตาดีไม่แฟน จิงๆนะ IP: 125.26.196.165 วันที่: 29 ตุลาคม 2550 เวลา:21:42:11 น. |
|
|
|
| |
|
|
คุณaston27 เอาทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์มาบรรยายซะเห็นภาพเลย
(ไม่เสียแรง ที่จบจากสถาบันที่ มีชื่อเสียงด้านเศรษฐศาสตร์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย..ถึงจะไม่ได้เรียนฟิลด์นี้โดยตรงก็ตาม..อิอิ)
เอ่อ..แล้วเกิดมีคนถามถึงตัว multiplier ล่ะคะ จะมาเปรียบกับอะไรดีน้อออออ
รีบนอนรีบตื่นค่ะ พรุ่งนี้รถคงติดมากอย่างเคยเพราะอยู่ในช่วงเปิดเทอมวีคแรก..
เฮ้ออ เบื่อจัง