|
รู้หน้าไม่รู้ผิว รู้ใจไม่รู้จิต
โบราณเขามีสำนวนว่า.. รู้หน้าไม่รู้ใจ หมายถึงคนเรารู้จักหน้าค่าตา แต่ไม่รู้ว่าใจข้างในจริงๆเป็นยังไง
แต่กรณีของผมไม่เกี่ยวอะไรกับสำนวนที่ว่า เพียงแต่จะมีคนชอบมาแซวผมเรื่องหน้าบ่อยๆ ปกติก็คนในที่ทำงานนั่นแหละ ว่าผมมีเคล็ดลับอะไรหน้าถึงใส
วันนี้ก็อีกเหมือนกัน ที่คนแถวบ้านยิงคำถามผมด้วยคำถามเดียวกัน
ผมเองเจอมุกนี้ทีไร ผมก็จะอมยิ้มเขินๆ ไม่ใช่เพราะอายที่โดนแซว .. อันนั้นนิดหน่อย แต่ไม่มาก แต่เพราะที่จริงผิวผมก็มีปัญหาเหมือนชาวบ้านเป็นระยะๆแหละ
ผมเคยผิวแห้งมากจนอักเสบ ต้องไปหาหมอผิวหนัง เอาหยูกยามาทาเสียเป็นเดือนๆ พอหายผิวแห้งก็เจอปัญหาสิว เพราะกินทั้งอีฟนิ่งพริมโรส ทั้งทาโน่นนี่ หน้าเริ่มมัน เจอฝุ่นเข้าก็เป็นสิว
ตอนนี้มันก็แค่เริ่มปรับเข้าสู่สภาพปกติเท่านั้นเอง เลยไม่รู้จะตอบว่ามีเคล็ดลับอะไร เพราะไม่มี
ถ้าจะมีก็คงเรื่องที่ปกติผมจะไม่ค่อยเก็บสะสมความเครียด ก็เป็นบุญแหละครับ ที่เกิดเป็นชาวพุทธได้เรียนวิปัสสนา เลยเหมือนมีเครื่องกำจัดความเครียดไปโดยปริยาย
ตอนไปรักษาผิวกับหมอคนแรก ซึ่งเป็นหมอที่ชอบศึกษาปฏิบัติเหมือนกัน หมอก็ถามว่าผมนั่งสมาธิทุกวันหรือเปล่า วันละกี่นาที เวลานั่งสมาธิลงลึกไหม หมอบอกว่า ถ้าสมาธิลึก นั่งวันละ 15-20 นาทีพอแล้ว ถ้าไม่ลึก ก็ขอ 30 นาที เพราะการนั่งสมาธิจะช่วยปรับสมดุลย์ในร่างกาย และเพิ่มภูมิต้านทาน
ผมสังเกตพระที่ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติเก่งๆ จะเห็นว่าส่วนมาก ถึงท่านจะอายุมากๆแล้ว ผิวก็ยังเปล่งอยู่ อันนี้ เป็นผลพลอยได้ของสมาธิ รวมถึงพลังเมตตาของพระท่าน
แต่จะบอกว่า คนมักจะเข้าใจว่า การทำวิปัสสนาคือการนั่งสมาธิ อันนี้ไม่ถูกเท่าไหร่นะครับ
วิปัสสนา สามารถทำได้ในทุกอิริยาบถ ทั้งยืนเดินนั่งนอน หลับตา หรือลืมตา ไม่เกี่ยว ขอเพียงแค่.. มีสติสัมปชัญญะ รู้สิ่งที่เป็นปัจจุบัน อย่างเป็นกลาง
วิปัสสนา ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์ ของผู้มีคาถาอาคมอะไร อย่างที่หลายคนอาจเคยรู้สึกเหมือนตอนผมเด็กๆ เวลาได้ยินคำนี้
ไม่ได้ทำเพื่อให้มีฤทธิ์ มีเดช เหาะได้ หายตัวได้ หรือเพื่อเป็นผู้วิเศษ แต่เป็นการทำวิจัยศึกษาธรรมชาติของกายกับจิต ให้เข้าใจความจริงของมัน ความจริงบนสมมติฐานที่ว่า จะกายหรือจิตก็ไม่ใช่ตัวเรา มันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ บังคับไม่ได้
ว่ากันว่า คนที่ชอบหลักของเหตุผลจะเหมาะกับศาสนาพุทธ ก็เพราะเหตุว่า มันมีความเป็นวิทยาศาสตร์นี่แหละ พระพุทธเจ้าไม่ได้แค่บอกให้เชื่อ เชื่อนะ เชื่อสิ เชื่อเถอะ แต่บอกว่าอย่าเพิ่งเชื่อนะ ให้ลองทำดูเอง แล้วเห็นผลยังไงค่อยเชื่อ
พูดแบบนี้.. บางคนก็อาจจะนึกว่าผมนี่ดีหมดจด จากในสู่นอกหากิเลสไม่ได้ ถ้าพูดแบบทางโลก ประเมินแบบทางโลก ก็พอพูดได้ครับ ว่าไอ้หมอนี่เป็นคนดีพอใช้ แต่ถ้าพูดแบบเอาความจริงมาแบกันเห็นๆ จากที่นั่งวิจัยจิตตัวเอง
คงต้องบอกว่า.. ผมก็มีด้านมืด ด้านเน่า เหมือนคนทั่วไป ยังโกรธเป็น มีโลภ มีหลง มีเผลอคิดชั่วได้เนืองๆ
ก็เหมือนที่คนเห็นแต่หน้าผมตอนทุกอย่างมันสมดุลย์ดีอยู่ ไม่ได้แปลว่าผิวผมมันดีมาตั้งแต่เกิด ไม่ได้แปลว่า ไม่เคยมีปัญหาอะไร และไม่มีอะไรประกันได้ว่ามันจะใสเด้งเต่งตึงไปได้ตลอด
จะกาย หรือจิต มันก็มีความปกติเป็น ความเจริญ คู่ความเสื่อมไปทั้งนั้น
เชื่อไหม.. เมื่อวานผมยังรู้สึกว่าจิตมันใส เบาสว่าง กระจ่างดวง แต่วันนี้ตอนเย็น เพียงเพราะความคิดวูบสองวูบของผม มันก็ฉุดจิตผมให้ตกวูบลงไปอยู่ในความเสื่อมได้ง่ายๆ
ถามว่า..แล้วผมทำไง.. ผมโทรไปหาคนที่ปกติ ผมคุยด้วยแล้วจะสบายใจ ให้มันสงบลงหน่อยนึง วางหูแล้วก็ไม่ทำอะไรนอกจากคอยดู คอยรู้ทันความรู้สึก ผมเห็นว่ามันตกลง มันไม่สบาย แต่ผมไม่แก้ แค่นั่งสังเกตมันห่างๆ แล้วก็เห็นว่ามันอยากดิ้นเบาๆ เพราะมันไม่ชอบสภาพที่เป็น
พอรู้ทันตรงความรู้สึกว่ามันอยากหลุด จิตมันก็หลุดออกมา เหมือนตื่นขึ้นแว๊บนึง แล้วก็กลับเข้าไปนัวเนียกับความเสื่อมใหม่
ผมก็ปล่อยมันอีก เปิดเพลงฟังให้สบายใจ ถือว่าจิตจะตก ก็เรื่องของจิต เราไม่เกี่ยว เพราะจิตไม่ใช่เรา แล้วก็คอยไปสังเกตเนืองๆ ว่าพอจิตได้ยินเพลงที่ถูกใจ มันก็กลับเป็นสุข ชอบใจขึ้นมา ก็ตื่นขึ้นอีกวูบนึง
เท่านี้ก็คือการทำวิปัสสนาแล้วนะครับ ทำได้แค่นี้แหละ.. แล้วก็มานั่งเขียนบล็อค บอกเล่าเก้าสิบ
.. เออ.. นะ เขียนคำนี้ แล้วก็สงสัยว่า ทำไมต้องบอกเล่าเก้าสิบ ทำไมไม่.. บอกเล่า แปดสิบ บอกเล่าหกเก้า บอกเล่าสามสอง มั่งหนอ
ใครรู้เหตุผลว่าทำไมต้องบอกเล่าเก้าสิบ ช่วยบอกทีนะครับ จะขอบคุณ
วันนี้เอาเพลงที่เคยใส่บล็อคโน้นนนนน มาใส่อีกที พรุ่งนี้ผมจะเริ่มจัดรายการอีกครั้ง ใครบังเอิญอยู่ใกล้วิทยุ แล้วอยากหาอะไรแยงหูเล่นๆ ก็เชิญตามอัธยาศัยนะครับ
ผมจะไปเคาะสนิมที่ 99.5 ตอนบ่ายโมง ถึงสี่โมงเย็น แล้วคอยนับนะครับ ว่าผมจะพูดผิดกี่หน 5555
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2549 |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2549 23:57:38 น. |
|
22 comments
|
Counter : 1340 Pageviews. |
|
|
|
โดย: มะลิ IP: 58.8.89.185 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:12:10 น. |
|
|
|
โดย: random-4 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:54:05 น. |
|
|
|
โดย: jengly วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:01:12 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:03:02 น. |
|
|
|
โดย: Q. IP: 125.25.53.190 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:31:38 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:56:07 น. |
|
|
|
โดย: 'ปราย IP: 203.118.64.216 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:17:38 น. |
|
|
|
โดย: King Of Pain IP: 58.9.150.213 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:57:47 น. |
|
|
|
โดย: LTG IP: 58.8.102.132 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:25:23 น. |
|
|
|
โดย: เล็ก IP: 124.120.62.35 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:09:38 น. |
|
|
|
โดย: moodee IP: 124.121.137.43 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:15:24 น. |
|
|
|
โดย: neppen วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:3:03:15 น. |
|
|
|
โดย: Life's like that IP: 58.64.104.125 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:00:17 น. |
|
|
|
โดย: ป้าปูเป้ วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:17:41 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:18:20 น. |
|
|
|
โดย: Thebrightestsunisthepurestgun IP: 61.47.99.4 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:48:35 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:18:13 น. |
|
|
|
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:55:42 น. |
|
|
|
โดย: Serendipity_t 6939 IP: 222.123.126.128 วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:5:53:30 น. |
|
|
|
| |
|
|