ปารีส... ข้ารักเอ็งว่ะ
ปารีสเป็นเมืองที่ฝรั่งว่าโรแมนติคเหลือเกิน อันนี้เท็จจริงอย่างไร ไม่กล้ายืนยันเพราะไม่เคยไป ถ้าเมืองไทย ผมว่าเชียงใหม่เป็นเมืองโรแมนติคที่สุด ในความรู้สึกผมนะ ช่วงเดือนนี้ ผมได้ดูหนังเกี่ยวกับปารีส สองเรื่องในเวลาไล่เรียงกันโดยมิได้นัดหมาย เรื่องแรกคือ Paris Je T'aime เวลานึกคำแปลชื่อหนังภาษาไทย ผมไพล่ไปนึกถึงหนังของพจน์ อานนท์ทุกทีสิน่า เรื่องของหนังเป็นอย่างไร น่าจะหาอ่านกันได้ทั่วไป ในนิตยสารภาพยนตร์ หรือแม้แต่ในบล็อคของหลายๆคน สรุปสั้นๆว่า มันคือหนังสั้นของ 18 ผู้กำกับ ทั้งที่คุณคุ้นชื่อและไม่คุ้น ทั้งที่คุณเชื่อและไม่เชื่อ ว่าเขาจะทำหนังรักได้ อย่างเวส คราเวน เป็นอาทิ หนังทุกเรื่องมีตัวละครไม่ซ้ำกัน มีพล็อตจบในตัวของมันเอง แต่ทุกเรื่องพูดเรื่องเดียวกัน คือนาฏกรรมของความรักต่างรูปแบบ ต่างมิติ ที่ล้วนแต่เกิดขึ้นในมหานครแห่งรักที่ชื่อว่า ปารีส ตอนจบของเรื่อง ผมนึกไปถึงเพลงชื่อ Silly Love Song ของ พอล แม็คคาร์ทนีย์ พอลเขียนเพลงนั้น ด้วยแรงบันดาลใจมาจากคำเสียดสีของอดีตเกลอเก่า สมัยสี่เต่าทอง ที่ชื่อ จอห์น เลนน่อน เรื่องของเรื่อง จอห์น เลนน่อน ไปพูดผ่านสื่อว่า พอล เขียนแต่เพลงรักๆ I love you I love you ที่น้ำเน่า น่าเบื่อ ไร้สาระ แทนการตอบโต้ด้วยวิธีพูดใส่ไมค์กลับไป พอลกลับเขียนเพลงเพลงนึงขึ้นมาบอกว่า You'd think that people Would have had enough Of silly love songs I look around me and I see it isn't so นายอาจคิดว่าผู้คนเขาเอียนกับเพลงรักไร้สาระแล้ว แต่เรามองไปรอบตัวเรา มันไม่ยักเป็นงั้นว่ะ Some people wanna fill the world With silly love songs And what's wrong with that? I'd like to know 'cause here I go again I love you, I love you ใครบางคนยังอยากเติมโลกใบนี้ ด้วยเพลงรักเน่าๆ ไร้สาระ มันผิดตรงไหนอ่ะ? เราอยากรู้ เพราะเราจะเริ่มอีกแล้วนะ ฉันรักเธอ ฉันรักเธอ ผลก็คือ ประชาชนตอบรับความคิดของพอลเป็นอย่างดี จนเพลงนี้ขึ้นอันดับหนึ่งในหลายประเทศ ไว้ถ้าอยากฟัง จะเอามาให้ฟังนะครับ ปารีส ข้ารักเอ็งว่ะ น่าจะเป็นหนังที่พูดเรื่องเดียวกับเพลง Silly Love songs ของพอล สำหรับใครที่คิดว่า หนังรักจะต้องน่าเบื่อ และมาอีหรอบเดียวกันหมด นึกแล้วก็น่าเสียดาย ที่จอห์น เลนน่อน ไม่ได้เป็นเกย์ และไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ไม่งั้นหลังจากดูหนังเรื่องนี้ เขาอาจจะหันไปมองพอล แล้วพูดว่า.. "เฮ้ย เพื่อน.. กูรักมึงว่ะ" ส่วนอีกเรื่องที่ตามมาในเวลาห่างกันไม่กี่วัน คือเรื่อง 2 วัน ในปารีส ดารานำและผู้กำกับ คือสาวปารีเซียงแท้ๆ ชื่อ จูลี่ เดลพี ใครที่เคยดู Before Sunrise กับ Before Sunset ได้ยินชื่อเธอคงร้องอ๋อ กันทุกคน หนังอาศัยบทสนทนาโต้ตอบที่คมคาย ชวนอึ้ง ในสูตรเดียวกัน เป็นการเดินเรื่อง แถมยังเป็นเรื่องความรักของหนุ่มอเมริกันและสาวฝรั่งเศสเหมือนกันอีกต่างหาก สองเรื่องนี้ เล่าพล็อตมากไม่ค่อยได้ เพราะเล่าน้อยจะไม่ค่อยน่าดู เล่ามาก คุณก็จะรู้เรื่องและดูไม่สนุก เอาเป็นว่า เป็นสองเรื่องที่คนชอบอ่านบล็อคผม น่าจะดูแล้วแฮปปี้คล้ายกัน เพราะถ้าทนอ่านบล็อคนี้มาได้ ก็แปลว่า คุณกับผมดูหนังเรื่องเดียวกันได้แหละน่า พูดถึงปารีส มีเกร็ดมาเล่าให้ฟังอีกเรื่อง ผมชอบเล่าเรื่องนี้ เวลามีคนไม่ค่อยกล้าพูดภาษาต่างชาติ เพราะกลัวผิด หรือมีคนชอบบอกว่า คนไทยออกเสียงชื่อเมืองนั้น เมืองนี้ผิด ครั้งนึงตอนจัดรายการ เคยมีคนทักว่า ผมอ่านชื่อเมือง New Ark ผิดว่า "นิวอาร์ค" เพราะที่ถูก ฝรั่งจะออกเสียงว่า "น็วคร์" ทั้งๆที่จริงๆ มันก็มาจากการออกเสียงว่า นิวอาร์ค เร็วๆนั่นแหละ ผมจะบอกว่า ฝรั่งนี่แหละ ตัวออกเสียงชื่อชาวบ้านผิด ประจำโลก เมืองหลวงเราชื่อเดิมว่า บางกอก ผมไม่เห็นฝรั่งที่ไหนออกเสียงถูกเลย ได้ยินทุกวันนี้ ก็เรียก แบงค่อกๆ จนพวกเราเองต้องเรียกผิดตามไปด้วย จะเพราะกลัวฝรั่งจะบอกว่าเราออกเสียงเมืองหลวงตัวเองผิด ก็คงไม่ใช่ แต่ก็ต้องกลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจเรา เลยต้องทนอ่านไปแบบนั้น หรืออย่าง Paris นี่ เจ้าของบ้านเมืองแท้ๆ เขาเรียกของเขาว่า "ปาครี" นะครับ พวกฝรั่งชาติอื่นนั่นแหละ ไปเรียกว่า "แพ-ริส" ฉะนั้นถ้าคนไทยจะเรียกว่า ปารีส ผมก็ไม่รู้สึกว่าเราต้องอายใครนะ หรือถ้าจะคิดอย่างนั้น เราก็ต้องถือว่าประเทศ "ญี่ปุ่น" นี่ เรียกผิดนะครับ เพราะคนญี่ปุ่นเองเขาเรียกชาติตัวเองว่า นิฮอน หรือ นิฮ่ง อะไรสักอย่าง ทีฝรั่งยังเรียกว่า Japan ได้เลย เราจะเรียก ญี่ปุ่น ไม่ได้หรือ ส่วนตัวแล้ว ผมว่า จะเรียกอะไรก็ได้นะครับ มันเป็นแค่สมมติบัญญัติ จะเรียกว่า อเมริกา ยูเอสเอ เมืองลุงแซม มาเฟียโลก ก็ไม่แปลก ขอให้คุยกับคนที่ต้องการคุย เข้าใจก็แล้วกัน แอบสปอยล์นิดนึง ว่า เรื่องการสื่อสารที่มีปัญหา ก็เป็นพล็อตสำคัญอันนึงของ 2 days in Paris ครับ อดไม่ได้สิน่า อีตาแอสตัน เรื่องแรกออกจากโรงไปแล้ว รอสนับสนุนดีวีดีของลิขสิทธิ์ได้ปลายเดือนนี้ ส่วนเรื่องหลังยังฉายอยู่ที่ลิโด้นะครับ วันนี้ เอาเพลงฝรั่งเศสมาฝากให้เข้าบรรยากาศ สองเพลงครับ เพลงที่สองต้องคลิก Play เองนะ จะไม่อยู๋ 4 วัน ไปสร้างกุศล กลับมาแล้วจะเอาบุญมาฝากนะครับ
Create Date : 16 ตุลาคม 2550
Last Update : 21 ตุลาคม 2550 8:50:22 น.
33 comments
Counter : 1732 Pageviews.
โดย: POL_US วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:1:13:56 น.
โดย: ผ้าเช็ดหน้า วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:1:30:40 น.
โดย: JewNid วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:7:11:56 น.
โดย: hunjang วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:7:52:57 น.
โดย: aston27 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:9:58:50 น.
โดย: aston27 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:10:03:25 น.
โดย: joblovenuk วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:12:06:58 น.
โดย: มาดามเด๊ปป์ (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:12:18:20 น.
โดย: Piterek วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:21:19:49 น.
โดย: azamiya วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:21:42:07 น.
โดย: maxpal วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:23:51:45 น.
โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:8:17:08 น.
โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:8:20:24 น.
โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:8:26:21 น.
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:13:10:25 น.
โดย: ไซโคแมน วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:17:00:16 น.
โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:23:34:15 น.
โดย: aston27 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:8:04:10 น.
โดย: Devonshire (Devonshire ) วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:19:28:40 น.
โดย: aston27 วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:20:37:33 น.