|
เวลา เงินเดือน ชีวิต

สมัยนึง ผมเคยเป็นคนเข้มงวดในเรื่องเวลามากจนตึงเปรี๊ยะ
ผมเลยติดนิสัยตั้งเวลานาฬิกาแต่ละเรือนให้เร็วกว่าความจริงประมาณ 10 นาที กะว่าจะได้ทำอะไรเร็วกว่าชาวบ้าน ไม่สาย ไม่ช้า
แต่หลังจากนั้นระยะนึง ผมค้นพบว่า ผมก็แค่หลอกตัวเองเท่านั้น เพราะใจมันก็รู้อยู่ตลอดเวลาว่า นาฬิกามันเร็วกว่าชาวบ้านอยู่ 10 นาที เสมอ
อีกอย่างที่ผมเคยชอบทำคือ.. ถ้ามีนัดสำคัญที่ต้องตื่นเช้ากว่าปกติ ผมจะตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วกว่าเวลาที่ควรตื่น ประมาณ 15 นาที เช่นควรจะตื่น ตี 5 ครึ่ง ก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ตี 5 15 นาที
แล้วที่สุดมันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเราก็รู้สึกว่า มันยังนอนขี้เกียจได้อีกหน่อย เพราะนอกจากนาฬิกาจะเร็วกว่าเวลาจริง ยังตั้งปลุกเผื่อไว้เสียอีก พอปิดตาลง งีบต่อ เผลอๆจะตื่นหลัง ตี 5 ครึ่งไปซะก็มี
ที่สำคัญ ไม่ว่าเราจะตั้งนาฬิกาให้เร็ว หรือช้ากว่าความจริง เราก็ยังมีเวลาวันละ 24 ชม. เท่าเดิม
ยังมีสุขบ้างทุกข์บ้างเหมือนเดิม ทุกอย่าง ก็ยังเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเหมือนเดิม
อีกเรื่องนึง.. ปกติ เงินเดือนคุณผู้อ่าน ออกวันไหนกันครับ?
ตั้งแต่เรียนจบมา ผมทำงานมาแล้วหกบริษัท แต่ละที่มีกำหนดวันจ่ายเงินเดือน เหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง
บางที่เงินเดือนออกก่อนสิ้นเดือน 5 วันบ้าง 3 วันบ้าง บางที่ก็จ่ายเงินเดือนทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือน แต่ช้าที่สุดก็คือสิ้นเดือน
สมัยย้ายที่ทำงาน ที่เคยรับเงินเดือนตอนสิ้นเดือน แล้วมารับเงินเดือนก่อนสิ้นเดือน 5 วัน ผมดีใจแทบแย่
คือถ้ามองเผินๆ ก็เหมือนเราได้สิทธิพิเศษ ได้เงินเดือนตั้งแต่ยังทำไม่ครบเดือน
แต่เอาเข้าจริงๆ ผมก็พบว่า มันดีเฉพาะเดือนแรก เพราะหลังจากนั้นรอบเวลาในการใช้เงิน มันก็คือ 30 วันเท่ากันแหละ
เราจะได้เงินเดือนก่อนสิ้นเดือนกี่วัน หรือสิ้นเดือนพอดี ถ้าจัดการไม่ดี มันก็ร่อแร่ได้พอกัน
ชีวิตก็เหมือนกัน บางวันมันจะทุกข์มากกว่าสุข บางเดือนจะสุขมากกว่าทุกข์ไปบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ จะสุขสั้นทุกข์ยาว หนาวมากกว่าอุ่น ก็ไม่เป็นไร
มันต่างก็ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเสมอกัน และที่แน่ๆ มันจะวนกลับมาใหม่ในที่สุด เกิดแล้วดับ ดับแล้วเกิด เกิดแล้วดับ สลับไปมา
ไม่แต่ตัวเราหรอก มองทุกอย่างในโลกนี้ ก็คล้ายๆกัน ฉะนั้น ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้น เหมือนเห็นคลิปฉาว มันก็โอ๊ยๆ อ๊าวๆ ราวๆนั้น แล้วก็ผ่านไป 
บ้านเมืองมันเจริญๆอยู่ แล้วก็เสื่อม มีอัศวินขี่ม้าขาวมา เริ่มตากฝนนาน จนม้าชักจะไม่ขาว เจริญได้ ก็เสื่อมได้ เสื่อมได้ ก็เจริญได้
ถามว่า..แล้วความสุข ความพอดีจะอยู่ตรงไหน ตอบว่า.. อยู่ที่ใจที่เป็นกลาง เห็นถูกว่ามันก็เป็นของมันอย่างนั้นเอง
คำว่า.. ใจที่เป็นกลาง ก็เป็นคำที่คนเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่บ่อยๆ วันก่อน มีคนถามว่า.. เอ๊ะ.. ถ้าพี่โดนคนเข้าใจผิดมายืนด่าๆๆๆๆ พี่ก็ต้องเป็นกลาง วางเฉยเหรอ
ผมตอบไปว่า.. ธรรมะ นี่เอาไว้แก้ทุกข์ทางใจนะครับ ไม่ได้เอาไว้แก้ปัญหาทางโลก
คนมาด่า ถ้ามีสติเห็นความโกรธไวๆ (ไม่ได้ห้ามโกรธ แต่โกรธแล้วรู้ไวๆ รู้แล้วไม่ต้องอยากให้หาย) ความโกรธก็ไม่ท่วมใจ ใจก็เย็นพอจะแก้ปัญหาด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติ
อะไรที่สมควรบอก ก็บอก ใครที่พูดด้วยได้ ก็พูด อะไรที่ไม่สมควรบอก ก็อย่าบอก ใครที่พูดด้วยไม่รู้เรื่อง ก็พูดเท่าที่พูดได้
ไม่ได้แปลว่าต้องหูหนวก เป็นใบ้ ตาบอด ไม่รู้ ไม่ฟัง ไม่พูด ไม่เห็นอะไรเลย
แต่บางที กับบางคน ในบางเวลา พูดไปก็สองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง นะครับ

สุขสันต์วันหยุดชดเชยครับ 
Create Date : 30 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 2 สิงหาคม 2550 8:23:00 น. |
|
13 comments
|
Counter : 1608 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: srisawat วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:16:45 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:59:50 น. |
|
|
|
โดย: snpk (snpk ) วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:13:27 น. |
|
|
|
โดย: Hobbit วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:42:12 น. |
|
|
|
โดย: ยาเขียว วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:38:17 น. |
|
|
|
โดย: ยิ้มหวานฯ (joyaccy ) วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:12:33 น. |
|
|
|
โดย: Q.NUH วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:04:57 น. |
|
|
|
โดย: azamiya วันที่: 5 สิงหาคม 2550 เวลา:18:22:03 น. |
|
|
|
| |
|
|