"ถนนสายนี้...มีตะพาบ" โจทย์ประจำหลักก.ม.ที่ 125 "เรื่องฮาๆ...ที่ยากจะฮา"
"ถนนสายนี้...มีตะพาบ" โจทย์ประจำหลักก.ม.ที่ 125 "เรื่องฮาๆ...ที่ยากจะฮา" โจทย์ของคุณ tifun [ท่านที่ยังติดตาม "ดอกเสี้ยวบาน" เชิญที่นี่ครับ]
อ่านโจทย์แล้วก็สรุปความเอาว่า มันน่าจะเป็นชีวิตประจำวันของคนเขียน มันก็ยากอยู่เพราะครอบครัวคนบ้านป่าเนี่ย โลกส่วนตัวสูงกันทุกคน แบบว่า ทุกคนมีห้องที่รับแขกส่วนตัวได้เลย ใครมีแขกมาก็พากลับไปคุยกันที่ห้อง จะทำของกินหรือฟังเพลงอะไรยังงัยก็ว่าไป แล้วเวลาอยู่พร้อมหน้ากันเองก็แค่ทักทายกันไปตามเรื่อง ที่จะนั่งคุยเฮฮานั้นมีน้อยมาก แต่เราก็สำราญดีกับโลกส่วนตัวเช่นนี้ มันก็เลยทำให้ผมซึ่งถนัดจะฮาอยู่พอสมควรต้องมาเปิดวิกที่บล็อกแก็งค์นี่แหละ
สำแดงอารัมภกถามายาวยืดแล้ว ก็เพื่อจะบอกว่า คิดอยู่หลายวันเลยว่าจะเขียนอะไรได้มั่งว้าา ตรู เรื่องฮาๆในชีวิตประจำวันเนี่ยนะ มีอะไรจะพออนุโลมให้ฮาโดยปริยายได้มั่ง คิดๆแล้วก็ชักจะอยากจอดกิโลนี้สักครั้ง แต่คุณเป็ดบอกว่า จัดไปเลยเพ่ อ่ะนะ ผมมันพวกบ้ายุ
สี่ห้าปีมานี้ พ่อมีปัญหาเรื่องการได้ยิน ก็หูเสื่อมน่ะครับ เป็นธรรมดาของคนวัย 86 แต่แม่ไม่อยากจะยอมรับ เคี่ยวเข็นให้พ่อไปหาหมอและหาเครื่องช่วยฟัง แต่พ่อก็บอกว่าหาแล้ว แต่มันเสื่อมไปจนเครื่องช่วยฟังก็ช่วยอะไรไม่ได้ แม่ก็ยังไม่ยอมรับ บอกว่ามันต้องมีหนทางสิ คือแม่กลัวว่าพ่ออาจจะถึงวันหนึ่งที่ไม่ได้ยินเลย ความวิตกกังวลนี้ทำให้แม่อารมณ์เสียทุกทีที่พ่อไม่ได้ยินว่าแม่พูดอะไรด้วย
จริงๆแล้วหูพ่อเสื่อมไปข้างหนึ่งประมาณ 70% อีกข้างยังดีกว่าครึ่ง นับว่ายังได้ยินมากพอสมควรเพราะพ่อก็ยังฟังและดูทีวีอยู่ทุกวัน แต่เวลาที่พ่อจดจ่อทำอะไร จะไม่สนใจว่าใครอื่นจะพูดอะไรด้วย เป็นคนสมาธิดี สามารถตั้งใจทำเรื่องยากๆในท่ามกลางผู้คนโวยวายได้เสมอ ส่วนแม่นั้น หูมีประสิทธิภาพสูงเกินเหตุ ขนาดพ่อดูทีวีอยู่ด้านใต้สุดของบ้าน แม่ซึ่งนั่งทำงานอยู่ทางเหนือสุดของบ้านก็บอกได้หมดว่าพ่อดูเรื่องอะไรบ้างเป็นเช่นนี้มาตลอด ใครมาเห็นก็จะแปลกใจว่าสองคนนี้ปรับตัวเข้าด้วยกันได้อย่างไร ผมตอบให้ได้ง่ายมาก เมื่อคนคู่หนึ่งอยากร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน มันก็จะมีจุดหนึ่งทีเขาจะประนีประนอมยอมเข้ากันให้ได้
แต่หลายๆครั้งเมื่อพ่อได้ยินน้อยลงเรื่อยๆ แล้วแม่ลืมตัว พูดกับพ่อด้วยเสียงตามปกติพูดไปจนจบแล้วพ่อก็เฉยๆ แม่ต้องเพิ่มโทนเสียง ถามว่า ได้ยินหรือเปล่า แรกๆพ่อจะตอบว่า ไม่ได้ยิน เรื่องอะไรหรือ แม่จะของขึ้นอย่างแรง... โอ๊ยยย ตายแล้วชั้น ต้องพูดใหม่หมดหรือเนี่ย... พ่อก็จะมองแม่อย่างรู้สึกผิดมาก ทำให้แม่รู้สึกตัวว่า บ้าไปเยอะ ก็จะพูดใหม่ดีๆว่า ไว้หายเหนื่อยแล้วค่อยเอาใหม่นะ พ่อพยักหน้าแล้วคงบอกอะไรกับตัวเองสักอย่าง
หลายวันต่อมา มีตลาดนัดใกล้บ้าน พ่อบอกว่า จะไปเดินเล่นสักหน่อย แม่รีบสั่งว่าเดินชิดๆริมถนนนะ เดี๋ยวรถมาข้างหลังแล้วไม่ได้ยินจะโดนรถเฉี่ยวเอา พอพ่อหยิบกุญแจจะออกไปจากบ้าน แม่ก็สั่งซื้อของสองสามอย่าง พ่อก็พยักหน้า แต่พอกลับมา แม่ถามหาของที่ฝากซื้อ พ่อถามว่าฝากตอนไหน แม่บอกว่าตอนจะออกจากบ้านไป พ่อหน้าเสียอีก บอกว่าไม่ได้ยิน แม่ถามว่า แล้วพยักหน้าทำไม พ่อว่ากลัวจะโกรธ แม่อึ้งกิมกี่ไปเลย
มันก็เลยมาถึงจุดที่แม่คิดว่า ลำพังพ่อต้องลำบากในการฟังก็เป็นภาระที่ต้องอดทนมากแล้ว คนที่จะต้องประนีประนอมในเรื่องนี้จึงน่าจะเป็นตัวแม่เอง ดังนั้น เมื่อแม่จะพูดอะไรกับพ่อ แม่จะเรียกให้พ่อตั้งใจฟัง แรกๆฟังจบแล้ว แม่จะขอให้พ่อบอกก่อนว่าแม่พูดเรื่องอะไร ซึ่งพ่อก็จะบอกได้ถูกต้อง แม่ก็ขอสัญญาว่า ได้ยินจริงจึงค่อยพยักหน้ารับนะพ่อ
พวกเราก็เลยมีโอกาสได้ฮาๆในชีวิตประจำวันขึ้นบ้าง คือเวลาแม่บอกอะไรพ่อต่อหน้าเรา แล้วพ่อพยักหน้ารับ พวกเราจะพร้อมใจกันส่งเสียงว่า
"ได้ยินจริงป๊าววววววว"
เป็นที่เฮฮากันทั้งบ้าน
บาปกรรมหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ แต่พ่อก็สบายใจขึ้น และแม่ก็ทำใจกับการที่พ่อได้ยินน้อยลงได้มากขึ้น ครั้งล่าสุดที่เราได้ยิน แม่ถามว่า ถ้าพ่อไม่ได้ยินอะไรเลย จะทำอย่างไร พ่อบอกว่า เขียนเอา เตรียมสมุดไว้แล้ว แม่ถึงกับน้ำตาไหลพรากราวกับทำนบแตก
ครับ เรื่องฮาๆ ที่ยากจะฮา
แต่เราทุกคนก็ทำใจกันไว้แล้วว่า ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น มันต้องมีทางแก้ไข เพียงขอให้พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุขเหมือนเช่นที่อยู่กันมากว่าครึ่งศตวรรษ
ภาพประกอบ: เอื้องม่อนไข่
Richard Clayderman (Mariage d'amour)
Special thanks to uploader: Richardyimjiajun
Create Date : 04 มีนาคม 2558 |
Last Update : 4 มีนาคม 2558 20:07:31 น. |
|
35 comments
|
Counter : 1933 Pageviews. |
|
|
|
มันเป็นความสมดุลย์อยู่นะคะ
พ่อไม่ค่อยได้ยิน
แต่แม่หูดี อิอิ...
เห็นด้วยเลยนะคะ คนสองคนที่แตกต่างกัน
ถ้ารักจะอยู่ด้วยกัน ก็ต้องปรับตัวเข้าหากันได้ในที่สุดค่ะ
แต่ยังไงก็ขอให้ทั้งพ่อและแม่มีสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ