ยามใกล้ค่ำ ข้างบึงน้ำด้านใต้ของบ้านป่าเป็นจุดหนึ่งที่ชอบไปนั่งมองฟ้า
และเงาไม้ในบึง นึกถึงครั้งหนึ่งที่เคยมีใครคนนั้นนั่งมองอยู่ด้วยกัน
แต่วันนี้ได้แค่นึกถึง ก็ไม่ได้เศร้าหรอก มันผ่านจุดนั้นไปนานแล้ว
![](//www.bloggang.com/data/n/nulaw-08/picture/1328015403.jpg)
เพียงแต่บางยามเย็นเมื่อฟ้าคลุ้มฝน ใจก็อาจหวั่นไหวหม่นหมอง
![](//www.bloggang.com/data/n/nulaw-08/picture/1328015734.jpg)
ด้วยแสงสีและมุมเงาแปรไปทุกนาที
![](//www.bloggang.com/data/n/nulaw-08/picture/1328015793.jpg)
บางครั้งก็นึกว่า บางความรักก็เหมือนน้ำกับฟ้าที่ไม่มีวันพบกัน
![](//www.bloggang.com/data/n/nulaw-08/picture/1328016056.jpg)
หรือจะพบกันบ้างก็เพียงเงาฟ้าบนผิวน้ำ
![](//www.bloggang.com/data/n/nulaw-08/picture/1328016218.jpg)
ที่แม้เพียงกรวดก้อนเล็กๆ ตกกระทบก็หวั่นไหวพร่าเลือน
![](//www.bloggang.com/data/n/nulaw-08/picture/1328016339.jpg)
อนิจจา
![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
ฟ้าคลุ้มฝน
(BSO Plays Suntaraporn
ราตรีนี้มืดไม่เห็นเพ็ญโสมส่อง
ดารามิผ่องมืดมัวทั่วมุม
ร้อนรนหมองไหม้เหมือนไข้รุม
ฟ้าดำมิดมืดเหมือนม่านคลุม
อกเรียมยิ่งคลุ้ม...กลุ้มรัญจวน
อัมพรสะท้อนดังครืน
ดังใจสะท้านสะอื้น
คงช้ำกล้ำกลืนปั่นป่วน
ฟ้าร่ำไห้เหมือนใจร่ำหวน
เปรียบหัวใจเรียมป่วน
พี่ครวญฟ้าครวญตรมใจ
เมื่อยามฝนตกหัวอกยิ่งคลุ้มคลั่ง
ดุจดังฉันหลั่งน้ำตาไหล
นิจจาโอ้ฟ้ายังร้องไห้
โถตัวข้าหรือจะทนได้
เศร้าใจให้ฝืนชื่นบาน
ฟ้าแลบดูแวบวับ
แปลบปลาบต้องหลับตา
เหมือนดังนภาร้าวราน
ตัวพี่ร้าวอุราช้านาน
ด้วยความรักทรมาน
อกเอ๋ยยิ่งคิดยิ่งร้าว...ราน
รักกำซ่านทรวงใน
![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)
![](//www.bloggang.com/emo/emo35.gif)