คำถามคงจะมีว่า ทำไมถึงเปลี่ยน และ เปลี่ยนทำไม
เมื่อเราเพิ่งรู้ความไปจนถึงครึ่งชีวิต เรามักเชื่อว่าความคิดและมุมมองของเรา
ถูกต้องหมด แม้ผู้ใหญ่จะว่ากล่าวตักเตือนว่าไม่ถูกต้อง เราก็มักไม่เชื่อฟัง
หรือหาทางขัดคำสั่งอยู่เสมอ เรียกได้เลยว่า นั่นเป็น วัยดื้อ
จนเมื่อมีประสบการณ์ในชีวิตมากขึ้น จึงเรียนรู้ว่า ที่เรา
เชื่อมาทั้งหมด อะไรถูก ทำต่อไปได้ และอะไรไม่ถูก สมควรต้องแก้ไข
หรือหยุดทำไปเลย การที่ยังดื้อดึงเอาแต่ใจตัวเองมักทำให้ผิดพลาดมากขึ้น
หรือไม่สงบสุข
บางคนเล่าว่า คนใกล้ๆตัวฉันเนี่ย อะไรๆก็ดีหมด
เสียอย่างเดียวที่เวลากินน้ำแกงร้อนๆ ชอบซดโฮกๆ ว่าแล้วก็พากเพียร
พยายามบอกใบ้ ว่ากล่าวตักเตือน ถึงขั้นห้ามซดน้ำแกงโฮกๆ จะได้
เป็นคนสมบูรณ์แบบไปเลย
ฟังแล้วก็นะ กลุ้มแทน จะเอาอะไรกันนักกันหนากับคนที่ก็รู้อยู่ว่า
ดีมากแล้ว โลกนี้ไม่มีหรอก คนสมบูรณ์แบบ ถ้าดีหมดแล้ว
ก็คงหมดเวรได้ลาจากเราไปเสียที จะเอาอย่างนั้นหรือเปล่า เห็น
มามากเลยที่คนอยู่ด้วยกันมาครึ่งค่อนชีวิต ยังพยายามเปลี่ยนแปลงอีกฝ่าย
อย่างเอาเป็นเอาตาย ทะเลาะกันถึงกับแยกบ้านกันอยู่ก็ยังทำ แล้วก็กลับ
มาทู่ซี้พยายามเปลี่ยนกันต่อไป
ทำไมไม่คิดบ้างว่า เรารักตัวตนเขาหรือมิใช่ ถ้าใช่ก็
ต้องรักเขาอย่างที่เขาเป็น ถ้าเขาเปลี่ยนอะไรได้บ้าง เขาอาจเปลี่ยน
ไปรักคนอื่นด้วย จะเอาอย่างนั้นหรือเปล่า สำหรับจขบ.แล้ว ขี้เกียจ
เสี่ยงตอนแก่ ถึงพี่เขาจะหูหนักไปบ้างแล้ว ก็ยังฟังเราได้ ถ้าไม่เหลือ
เขาเสียแล้ว จะพูดให้ใครฟังล่ะ น้ำลายจะบูดน่ะสิ
บางคนจะสังเกตว่า ผู้อาวุโสมักใจดี นั่นเป็นเพราะว่า ท่านเหล่านั้นเห็น
ชีวิตมามากจนวางลงได้เยอะ รู้ว่าสิ่งใดจะเป็นก็ต้องเป็น สิ่งใดจะเกิด
ก็ต้องเกิด เรามีหน้าที่ต้องรับสภาพ ต่อสู้กับสิ่งนั้นบ้าง และวางลง
เมื่อเห็นว่า เหลือบ่ากว่าแรงที่เราจะฝืนชตากรรม