หมวดงานเขียน เกร็ดเล็กๆน้อยๆในการไปธุดงค์ และชมขบวนแห่พระเขี้ยวแก้ว Perahera 2018 ที่ศรีลังกา ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต
Nature Sounds of a Forest for Relaxing-Natural Soothing Sound of a Waterfall & Bird Sounds VIDEO credit: YouTube & Uploader johnnielawson
เนื่องจากจขบ.ไม่สามารถเขียนเรื่องราวครั้งนี้ในแบบไดอารี่หรือท่องเที่ยว เพราะไม่มีความสามารถในการเขียนแนวนั้นๆ จึงขอนำเกร็ดเล็กๆน้อยๆ มาเล่าสู่กันฟังนะคะ การไปศรีลังกาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่แรกก็ไม่เคยคิดว่าจะไปที่นั่นมากกว่า 1 ครั้ง แต่ก็เหมือนมีวาสนาผูกพัน เลยมีเหตุให้ได้เดินทางไปเพื่อกิจทางพระศาสนาอีก สองครั้ง แต่การไปสองครั้งก่อนที่ได้บันทึกไว้แล้วก็มีเหตุให้ภาพที่ลงไว้หาย หมดเพราะเว็ปฝากรูปมีปัญหา แต่ก็ไม่ได้ยึดติดกับอะไรๆที่ผ่านไปแล้วและ ไม่ได้พยายามให้หวนคืนไปแก้ไขเพื่ออัพใหม่ ที่ไปครั้งนี้ก็เพื่อไปเยี่ยมนมัสการพระพุทธรูปองค์เล็กๆที่ส่งไปถวายสมเด็จ พระสังฆราชของศรีลังกาและท่านประทานให้วัดหนึ่งซึ่งเจ้าอาวาสเป็นหลานของ ท่าน วัดนี้ก็มีอายุถึงสองพันปีและขณะนี้กำลังพัฒนาเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรม ค่าใช้จ่ายฟรี แต่เราคิดว่า คนไปใช้บริการต้องตั้งใจและมุ่งมั่นมากเพราะเป็น ศาลาเล็กๆเพื่อผู้มาปฎิบัติพักได้คนเดียวเท่านั้น คนใจไม่ถึงคงยากเพราะ สถานที่วิเวกมาก น่าสนใจแต่คงยากจะได้ไปอีก ออกอ่าวไปเล็กน้อย กลับมาจุดสต๊าตใหม่เด้อค่ะ ทริปนี้ก็อย่างที่บอก เราตั้งใจไปกราบเยี่ยมพระพุทธรูปที่เราส่งไป และกราบ นมัสการสมเด็จพระสังฆราช อีกงานหนึ่งคือชมขบวนแห่พระเขี้ยวแก้ว Perahera ส่วนโบราณสถานที่เราตั้งใจไปอีกในครั้งนี้ครั้งคือในแถบ อนุราชปุระ โปโลนนารุวะ ดัมบุลลา สิคิริยา นูวาระคิริยะ โคลัมโบ นีกัมโบ ภารกิจที่จะกระทำนอกจากที่กล่าวมาทั้งสองอย่างแล้ว ก็คือเข้านมัสการพระเขี้ยวแก้วและถวายผ้าห่มเจดีย์ที่วัดเกลานียา พระเจดีย์นี้เป็นที่เก็บพระแท่นที่พระพุทธเจ้าได้ทรงใช้แสดงธรรม เมื่อครั้งที่เสด็จมาที่ศรีลังกาครั้งที่ 3 จขบ.ไปครั้งนี้สุขภาพไม่ค่อยดี ไม่ค่อยได้ถ่ายภาพ คงจะเพียงเล่าให้ฟังได้บ้างเท่านั้น ถ่ายภาพและเล่าเรื่องพาท่องเที่ยวไม่เป็นจริงๆ การไปกราบพระคุณเจ้าหลายองค์ เยี่ยมชมสถานที่สำคัญๆทางศาสนาหลายแห่งนี้ มีโอกาสได้นั่งสมาธิ ถวายของและปัจจัย รวมทั้งได้แจกของ เช่น ขนมและแว่น สายตาเป็นทานแก่ผู้ที่มาอยู่ณที่นั้นๆด้วย ชาวบ้านรับของแจกอย่างมีระเบียบ และแสดงท่าทีขอบคุณอย่างยินดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อได้รับแจกพระเครื่อง เพราะที่นั่นถือเป็นของที่ชาวพุทธอยากได้ไว้บูชาและเป็นสิ่งหายากมาก เลยอยากบอกไว้ว่า ถ้ามีโอกาสได้ไปทำบุญที่นั่น อย่าลืมนำพระเครื่องที่ ท่านอาจจะมีมากจนไม่มีที่เก็บรักษาหรือรุ่นเดียวกันแต่มีมากกว่าหนึ่ง องค์ ไปแจกบ้างจะได้บุญไม่น้อยเลยค่ะ แค่เห็นผู้รับดีใจจนน้ำตาคลอ มากขนาดนั้น เราก็อิ่มใจอย่างประเมินไม่ได้ พระเครื่องนี้ไม่จำเป็น ต้องเป็นที่มีราคาค่างวด วัดที่ศรีลังกาเป็นสถานที่สงบเงียบ เข้าไปแล้วจะพบพุทธศาสนิกชนเข้าไปนั่ง สวดมนต์บนพื้นทรายในวัด บ้างก็นั่งสมาธิ มีกิจกรรมทางศาสนาเป็นครั้งคราว เรื่องราวของศรีลังกาก็มีผู้เขียนเชิงท่องเที่ยวกันไว้มากแล้ว หาอ่านได้ไม่ยาก ขอแนะนำงานเขียนของ Maeboon ค่ะ เธอไปเกือบทุกแห่งที่เราไป แต่ก็จะ มีหลายแห่งที่เราไปแต่เธอไม่ได้ไปเพราะอยู่นอกเส้นทางที่ทัวร์ไปกัน ทั้งนี้ เพราะเรามีไกด์ท้องถิ่นที่เคยเข้ามาบวชในไทย 5 พรรษา พูดไทยและ เข้าใจพุทธศาสนามากรวมทั้งใกล้ชิดพุทธศาสนาแบบศรีลังกาอย่าง มากเช่นกัน ไกด์ผู้นี้ให้การนำเที่ยวแก่ผู้หลักผู้ใหญ่จากไทยเสมอ ส่วนการชมขบวนแห่ Perahera คงต้องหาชมจากยูทูป ยากจะถ่ายภาพมาให้ชม เพราะขบวนมีความเคลื่อนไหวอย่างมากทั้งระบำไฟและระบำต่างๆรวมทั้งการ เดินของช้างจำนวนมาก เราเองก็ตื่นตาตื่นใจกับการชมเป็นอย่างยิ่งด้วย โชคดีที่ได้ชมอย่างใกล้ชิดเพราะเราพักที่โรงแรม Queen's Hotel ซึ่ง เก่าแก่ระดับมรดกโลกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประทับแรม ได้เห็นห้องนั้นซึ่ง ทางโรงแรมยังรักษาไว้เป็นที่ระลึกถึง แต่สภาพโรงแรมโดยทั่วไป เก่ามากกกกก ดีที่ไลน์อาหารยังคงแบบอังกฤษยอดเยี่ยม แต่จขบ.ก็กิน ได้เฉพาะพวกที่นิ่มๆเหลวๆเคี้ยวง่ายๆ ถึงกระนั้นก็อิ่มจนจุกทุกมื้อ ต้องพยายาม กินค่ะ เดินทางปีนเขาเข้าถ้ำเยอะมาก อาหารพื้นเมืองไม่ถูกจริตระดับกิน ไม่ได้เลย เวลาออกเดินทางจากทุกโรงแรม ไกด์คือคุณกะญานจะขอ ให้โรงแรมแพ็กไปให้เป็นพิเศษทุกวัน ยกเว้นวันที่ไปวัดที่เราส่ง พระไปถวายซึ่งทีแรกทางวัดแจ้งว่า จะมีอาหารกลางวันที่ ทางวัดจัดให้ เราก็นึกว่าชาวบ้านคงจัดทำตามแบบ ศรีลังกา แต่ปรากฎว่าท่านให้จัดอาหารจีนอย่างดีระดับ ยอดเยี่ยมของที่นั่นเลี้ยงเรา ต้องห้ามลูกหลานเอาของที่ติดตัว ไปออกมากินเด็ดขาด ยังงัยแม่ก็ต้องกินอาหารที่ท่านจัดให้ให้เต็มคราบ และปรากฎว่าอาหารมื้อนั้นอร่อยมาก คงเพราะเราปลื้มใจในหลายๆกรณี เล่าเรื่องค่อนข้างสับสน ต่อไปนี้จะมีภาพที่ได้มาบันทึกไว้พอประมาณนะคะ ภาพแรกได้มาจากการเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระสังฒราชศรีลังกา เป็นที่ประทับใจ มากเพราะท่านดูสมถะ กุฎิตกแต่งเพียงง่ายๆ ไม่มีสิ่งใดที่เรียกได้ว่าหรูหรา ทรงมีปฎิสันฐานอย่างเป็นกันเอง เมื่อทรงทราบว่าเป็นวันเกิดของพ่อ ท่านก็ ประทานพระพุทธรูปแบบศรีลังกา เป็นองค์เล็กๆให้มาสักการะ ได้ถ่ายภาพ กับท่าน และอย่างที่เห็น ตามประเพนีของที่นั่น เราต้องไม่นั่งหันหลัง ให้พระสงฆ์หรือพระพุทธรูป จึงต้องนั่งเอียงๆเช่นนั้น คณะเรามี เพียงหกคน สุภาพบุรุษที่คุกเข่าอยู่ใกล้พระบาทของสมเด็จพระสังฆราช คือคุณกะญาน ไกด์ของเรานั่นเอง ส่วนจขบ.คือยัยป้าหัวกระเซิงนั่นเลยค่ะ สาเหตุที่น่าเกลียดได้ขนาดนั้นก็เพราะ ไปแบบป่วยมากพอสมควร ไม่ได้ เตรียมไปควบคุมทรงผมให้เรียบร้อย กะว่าหวีให้ดีก็พอ แต่ช่วงนั้นมี พายุแรงมากตลอดทั้งวัน เดินกลางแจ้งแทบทรงตัวไม่อยู่ หน้าตา หัวหูก็ได้ประมาณนั้นละค่ะ แถมไม่รู้ด้วยว่า ตัวเองดูน่าเวทนาขนาดนั้น ก่อนลากลับ สมเด็จฯท่านทรงมีพระเมตตาให้จัดน้ำชาและน้ำตาลอ้อย (Jaggery) มาเลี้ยงพวกเรา น้ำตาลอ้อยนั้นมิได้ให้ใส่ลงในถ้วยชา แต่ให้อมไว้แล้วค่อยๆ ดื่มชาตามไป รสชาดดี ชุ่มคอมาก นับเป็นวาสนาอันหาที่สุดมิได้ สาธุ เป็นที่น่าสังเกตว่า เวลาไปกราบพระสงฆ์ที่นั่น ท่านจะให้จัดน้ำชาแบบนี้ให้เสมอ ต่อไปก็มีภาพช้างในขบวนแห่ Perahera มาให้ชมสักจำนวนนะคะ เชือกแรกตกแต่ง สีขาวเป็นเชือกที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วองค์จำลอง ศรีลังกาจะไม่นำพระเขี้ยวแก้ว ออกมาจากที่เก็บรักษาเพราะเหตุที่ให้ความระมัดระวังความปลอดภัยอย่างสูงสุด ส่วนอาคารข้างล่างนั้นเป็นที่ที่เราจะเข้าไปนมัสการพระเขี้ยวเก้ว ซึ่งท่านธรรมาราม เลขาของสมเด็จพระสังฆราชจะเป็นผู้นำเข้าไป เช้าวันที่นัดกัน สิ่งที่ประทับใจ มากเลยก็คือ ท่านธรรมารามเดินทางมาที่โรงแรมควีนส์ที่เราพักโดยรถตุ๊กตุ๊ก ไปถึงแล้วท่านก็ลงจากรถ สั่งให้เราผู้เฒ่าทั้งสองขึ้นรถตุ๊กตุ๊กนั้นไปที่ ทางเข้าซึ่งห่างจากที่นัดพบเพียงร้อยเมตรแต่ฝนกำลังพรำๆ ส่วน ท่านเดินไปกับคณะที่เหลือ เป็นความประทับใจที่นึกไม่ถึงจริงๆ ท่านมาแบบชาวบ้านทั่วๆป และยังห่วงใยเราผู้เฒ่าทั้งสอง ปฎิเสธว่าเดินไปได้ ท่านก็ไม่ยอม เรากลับทำตัวไม่ถูก เพราะนึกไม่ถึงว่าพระเถระผู้ใหญ่ระดับนั้นจะเรียบง่ายและติดดิน ได้มากขนาดนี้ นับเป็นความเมตตาของผู้ทรงศีลที่เรายากจะ ลืมความประทับใจนี้ ได้เข้าไปถวายสักการะและถวายผ้าจีวรคนละผืน ปัจจัยใส่ซองและพานพุ่มของ คณะด้วย จากนั้นท่านธรรมารามก็นำชมภายในจนทั่ว นับเป็นโอกาสพิเศษที่ ประชาชนศรีลังกาเองก็ยากจะได้มีประสบการณ์นี้ แต่ก็ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ สำหรับพระพุทธรูปที่เราถวายไปที่วัดพระทอง Ridee Vihara นั้น เป็นพระพุทธรูป ปางสมาธิประจำวันเกิดของเรา ครั้งนั้น เราส่งไปพร้อมพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ประจำวันเกิดของพ่อด้วย แต่สมเด็จฯท่านคงจะได้เก็บปางไสยาสน์องค์เล็กๆนั้น ไว้ที่กุฎิของท่านและส่งปางสมาธินี้มาไว้กับปางไสยาสน์เก่าแก่ของวัดนี้ซึ่ง ก่อนหน้านั้น ได้ขอบินฑบาตรชาวพุทธไทย ส่งช่างไปทำทองให้ใหม่ พี่ปูมีส่วนร่วมในการจัดทำนี้ด้วย ทรงจัดให้อย่างเรียบง่ายแต่งดงาม และดีต่อใจมากจริงๆ วิหารนี้เวลาไม่มีกิจใดๆก็จะปิดเสมอ มีเรื่องเล็กๆน้อยๆที่น่าจะได้เล่าอีกมาก แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีแรงทำอะไรมาก แค่นี้ก็เขียนวกวนมาหลายวัน ไว้ถ้ามีอะไรน่าเล่าอีกค่อยกลับมาเขียนต่อนะคะ ขอลาไปด้วยดอกไฮเดรนเยียร์ที่โรงแรมแกรนด์โฮเตลที่ Little England ความจริงเวลาไปศรีลังกาก็ต้องไปชมสวนแบบอังกฤษสองสามแห่ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้ไปช่วงฤดูดอกไม้บานก็หาดอกไม้ชมยาก จะชม ดอกไม้งามต้องไปช่วงเมษายน-มิถุนายน วันนี้จึงพอมีงามสุดๆเพียงเท่านี้นะคะ ลาไปด้วยภาพน้ำตกบนไร่ชาในวันที่มีหมอกหนา คงจะขาดเรื่องสำคัญไปหากจะไม่เล่าถึงบริการทัวร์จาก Jetwing Travels เราใช้รถบัสขนาดเล็กแบบข้างล่างนี้ซึ่งดูจะใหม่กว่าคันนี้ คณะเรามีเพียง 6 คนเพราะเชื่อว่า จะไปทำบุญ แห่ไปกันมากๆจะไม่สงบ พอใช้ รถขนาดนี้ ครึ่งคันหลังรถจึงเป็นที่เก็บของที่ขนไปเพื่อทำบุญ อีกครึ่งคันก็นั่งๆ นอนๆกันไปได้เลย บริษัททัวร์จัดไกด์ที่เราเลือกไปเอง คนขับรถและพนักงาน บริการในรถ ที่ดูแลพวกเราอย่างดีตลอดทาง กรี๊ดจะเอาอะไรตามข้างทาง เป็นจอดซื้อกันเลย ที่พักระหว่างการเดินทางก็ใช้บริการโรงแรมของ Jetwing ทั้งหมดที่จะมี ในท้องถิ่นที่เราไป ที่เหลือก็เลือกที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ ทั้งหลาย ทั้งปวงนี้ก็ฝากภาระไว้กับคุณกาญานนั่นแหละค่ะ ก่อนลาไปขอฝากภาพหญิงชราที่หน้าตาหัวหูกระเซอะกระเซิงไปตลอด การธุดงค์จนกระทั่งวันกลับ ที่โคลอมโบลมไม่ค่อยแรงเท่าไร ดีใจจะ ได้กลับบ้านอีกด้วย คิดถึงเจ้านุ้งน่ะแหละ หน้าตาเลยเบิกบานขึ้น ภาพจากซ้ายไปขวานะคะ ภาพที่ 1 ตอนเช้าก่อนออกเดินทางทุกวันก็พอดูได้ ภาพที่ 2 ระหว่างวัน ภาพที่ 3 ก่อนขึ้นเครื่องเดินทางกลับบ้าน selfie ที่ ชายหาดมหาสมุทรอินเดียหน้าโรงแรม Jetwing Blue โคลอมโบ จัดภาพเล็กๆหน่อย จะได้ไม่ประจานมาก แหะๆ
ขอแบ่งบุญที่ได้กระทำแด่ทุกท่านที่มาเยี่ยมชมนะคะหมวดงานเขียน ┕━━━━╗✹╔━━━━┙
เข้ามาอ่านเจอพอดี ประทับใจภาพสุดท้ายที่สุด
"ภาพหญิงชราที่หน้าตาหัวหูกระเซอะกระเซิง" นี่ไม่จริงนะคะ
หน้าตายังดูสดใสอิ่มบุญอยู่เลยค่ะ
คิดถึงเจ้านุ้งแล้วใช่มั้ยคะเลยรีบกลับ อิอิ
ทักทายยามเช้าค่ะพี่ภา ^__^