บ้ากระบอก
 | |  | | บ้ากระบอก
ตอนที่ไปกรุงเทพฯเมื่อสองวันก่อน รู้สึกอยากเดินทางคนเดียวโดยรถทัวร์ จะได้นั่งหลับตาคิดอะไรเพลินๆ บ้าง ก็เลยนั่งรถเมล์ท้องถิ่น ที่เราเรียก รถหวานเย็น จากแถวบ้านเพื่อไปขึ้นรถทัวร์ที่ตลาดปากช่อง
รถหวานเย็นนี่ดีนะครับ ค่าโดยสารถูกมาก แต่ต้องใจเย็นๆ หน่อย เพราะเขาจะจอดรับส่งตามความต้องการของผู้โดยสาร ไม่มีป้ายให้หยุดคอยหรอกครับ แล้วถ้าผู้โดยสารประจำมีสัมภาระมากๆ คนขับก็จะเลี้ยวเข้าซอยเล็กซอยน้อยเข้าไปรับถึงที่เลย มิใยว่าผู้โดยสารคนอื่นจะต้องรีบไปแค่ไหน แต่คนท้องถิ่นเขาเข้าใจกันครับ จะไปรถนี่ก็ต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆ ยกเว้นวันหยุดที่มีนักท่องเที่ยวมากๆ นั่นแหละ ความเร็วรถจะขึ้นอย่างพรวดพราดเลยครับ เพราะต้องทำเวลาให้ได้วันละหลายๆ เที่ยว
พอไปถึงปากช่อง ซื้อตั๋วรถทัวร์แล้วก็ขึ้นไปเลือกนั่งตรงช่องหน้าต่างกว้างๆ ผู้โดยสารไม่เยอะครับ นั่งคนละสองที่สบายๆ ได้ที่เหมาะแล้วก็หยิบสมุดบันทึกประจำตัวและปากกาออกมาด้วย เผื่อคิดอะไรดีๆ ได้ จะได้จดไว้
แต่พอใกล้รถจะออกก็มีสตรีนางหนึ่ง แต่งเนื้อแต่งตัวสะดุดตาพอสมควร อายุอานามประมาณเลยหลักสี่ไปไม่เกินดอนเมืองหรอกครับ ก้าวย่างขึ้นรถมา แล้วก็มาหยุดนั่งแปะลงที่เก้าอี้ข้างหลังหนูหล่อนั่นเอง ทุกคนก็มองดูเธออย่างเป็นเรื่องปกติน่ะครับ
สักครู่หนึ่ง ความไม่ปกติก็เริ่มขึ้นตามที่มันไม่น่าจะเป็น เมื่อเธอผู้นั้นเริ่มคุยมือถือกับใครไม่รู้ เธอบอกว่าเธอกำลังจะไปกรุงเทพฯเพื่อไปตามหลานสาวลูกของพี่ชายซึ่งพ่อส่งไปเรียนหนังสือด้วยความลำบากยากแค้นเพราะฐานะไม่ได้ดีเท่าไหร่ แต่หลานสาวของเธอเอาแต่ใช้เงินมากมายเที่ยวเตร่จนใจแตก หนีตามผู้ชายไปเสียแล้ว เธอเลยต้องรับหน้าที่มาตามกลับเพราะขืนให้พ่อมาตามเอง ต้องมีตายหลายศพเพราะหัวแบะ ทุกรายละเอียดเธอแจกแจงถี่ยิบจนเห็นภาพเหมือนนิยายน้ำเน่ายังไงยังงั้น กว่าจะจบเรื่องก็นานมาก แต่หนูหล่อและเชื่อว่าผู้โดยสารทุกคนก็คงเคยชินกับคนชอบใช้มือถือคุยเรื่องส่วนตัวอย่างเสียงดังฟังชัดโดยไม่สนใจว่าใครจะได้ยินบ้าง
ความผิดปกติเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอเล่าจบก็ตัดสายนั้นแล้วต่อสายใหม่ เล่าเรื่องราวเดิมตั้งแต่ต้นจนจบ รายละเอียดทุกขั้นตอนแทบจะเหมือนกันไม่ตกหล่น
คิดว่าทุกๆ คนคงคิดเหมือนหนูหล่อว่าเธอจบสายนี้แล้วคงหยุด แต่อนิจจังอนิจจาเอ๋ย เธอต่อสายใหม่ทุกรอบที่จบ เหมือนแผ่นเสียงตกร่องเลยครับ เธอคุยเรื่องนี้อยู่เป็นชั่วโมง แล้วจึงเปลี่ยนเรื่องใหม่ เป็นชีวิตแต่วัยเด็กของเธอ เน้นตอนสำคัญว่า ตอนเป็นสาววัยเอ๊าะนั้น ไปเป็นช่างเย็บเสื้อ อยู่แต่ในห้องเย็บผ้า ไม่ต้องออกไปไหนเลย จนผิวขาวผ่องน่ากินไปทุกสัดส่วน เวลาลงไปซื้ออาหารตอนกลางวัน แม่ค้าพ่อค้ามักขอให้เธอยืนอยู่นานๆ จะได้มองให้เต็มอิ่ม
เธอเล่าเรื่องนี้วนเวียนอยู่อีกสี่รอบ รอบสุดท้ายไม่ทันจบตอนเธอลงที่รังสิต เลยต้องแนบมือถือไว้ที่หู เดินจ้อหายไปในฝูงชน
*********
แบบนี้แหละครับ เมื่อตอนที่เพิ่งนิยมใช้มือถือกันใหม่ๆ แล้วขนาดมือถือก็ประมาณกระบอกโทรศัพท์ เขาเรียกคนพูดมือถืออย่างเมามันว่า ไอ้บ้ากระบอก
หนูหล่อก็เลยไม่ได้จดอะไรที่คิดได้เอง ที่เก็บมาเล่าได้เนี่ยก็จำมาขึ้นใจ แต่ถ้าถามว่า รำคาญมั้ย เข็ดรถทัวร์มั้ย ก็ไม่รำคาญและไม่เข็ดหรอกครับ คิดว่าเธอคงผิดปกติมากกว่าบ้ากระบอกด้วยซ้ำ แล้วสังเกตตอนเธอเดินลงจากรถไป เธอก็ยังน่ากินอยู่นะครับ
เพียงแต่รู้สึกว่า เดี๋ยวนี้ คนใช้มือถือเกรงใจคนอื่นน้อยลงทุกวัน
วันนี้หนูหล่อก็เลยจะหยุดเปิดเพลงประจำบล็อกสักสองสามวันนะครับ อิอิ พักผ่อนหูน่ะครับ
    
บีจีเป็นอาทิตย์อัสดงเมื่อวันเพ็ญเดือนอ้ายครับ เอามาฝากกัน
| |  | |  |
Create Date : 14 ธันวาคม 2551 |
|
30 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2552 23:26:21 น. |
Counter : 1422 Pageviews. |
|
 |
|