เปิดใจเรื่องการทำบล็อก
ผ่านมาแล้ว ทักทายกันก่อนผ่านไปนะครับ
เปิดใจเรื่องการทำบล็อกหนูหล่อทำบล็อกมาจะครบสี่เดือนแล้ว เป็นกำหนดทดลองงานที่ตั้งไว้ให้ตัวเองว่าจะทำต่อไปหรือไม่ แต่มิตรภาพในบล็อกแก็งค์นี้สวยงามเกินกว่าที่หนูหล่อจะจากไปโดยไม่เปิดใจแก่เพื่อนๆ บ้างเมื่อคุณ BrettAnderson และเพื่อนๆ อีกหลายคนชวนให้มาเปิดบล็อกนั้น ก็ชั่งใจอยู่นาน เพราะภาระหน้าที่หลายอย่างกินเวลาไปมากจนนึกไม่ออกว่าจะเอาเวลาที่ไหนมาดูแลบล็อกแต่ในที่สุดเมื่อมีเพื่อนมากๆ เข้า ก็รู้สึกว่าการไม่มีหลักแหล่งของ ตัวเองเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จึงตัดสินใจเปิด บอกได้เลยว่า ณ ขณะนั้น เพื่อนในบล็อกแก็งค์กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของหนูหล่อไปแล้วแต่ตั้งแต่นั้นมาจนบัดนี้ ก็ยังไม่มีเวลาทำอะไรใส่บล็อกตัวเองให้เป็นเรื่องเป็นราวอย่างที่เคยตั้งใจไว้ ลักษณะบล็อกจึงเป็นเรื่องใกล้ๆ ตัวเท่าที่พอจะหามาเล่าสู่กันฟังได้ พอให้เป็นที่ได้ติดต่อพูดคุยกับเพื่อนๆ และผู้ที่เคารพนับถือและที่มาเปิดใจนี่ ก็ไม่ใช่เพราะคิดว่าเพื่อนๆ ไม่ชอบใจที่หนูหล่อ ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยม หรือไปให้กำลังใจทุกครั้งที่เปลี่ยนหน้าบล็อกหรอกครับ เพื่อนๆ มีน้ำใจกับหนูหล่อมากกว่านั้น เพียงแต่คิดว่าถึงเวลาที่จะทบทวนว่า ถ้าไม่มีเวลาทำอะไรๆ ที่การเล่นบล็อกคาดหวัง ทำให้ทำบล็อกต่ำกว่ามาตรฐาน ก็ควรจะหยุดไปเสียก่อนที่จะกลายเป็นบล็อกรกๆ มีเวลาทำได้ดีกว่านี้แล้วค่อยกลับมาเล่นใหม่หนูหล่อเข้ามาในบล็อกแก็งค์ด้วยระยะเวลาอันสั้นมาก ต้องเรียกว่า รู้จักอย่างผิวเผิน อยากได้ความคิดเห็นจากเพื่อนๆ ว่า บล็อกแก็งค์และสังคมนี้คาดหวังอะไรบ้าง เพื่อหนูหล่อจะได้เอามาทบทวนว่า ตัวเองสามารถทำได้ตามนั้นหรือไม่ ทุกวันนี้เหมือนเข้ามาคุยเล่นเฮฮาไร้สาระ ไม่รู้ซึ้งในกติกามรรยาททั้งที่เป็นกฏและข้อควรรู้เท่าใดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คอมเม้นท์ของทุกๆ ท่านจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจเข้ามาเล่นบล็อกด้วย และขอฝากบล็อกนี้ไว้นานสักหน่อยนะครับ มีเรื่องสุขภาพและภารกิจเร่งด่วนต้องไปจัดการหลายเรื่อง จะมีเวลาให้บล็อกน้อยลงกว่าเดิมอีกจึงเห็นควรต้องมาเปิดใจเสียที แล้วจะหาเวลาเข้ามาฟังความคิดเห็น ของทุกๆ ท่านครับ
พี่หนูหล่อคะ...อ่านบล๊อคพี่วันนี้แล้วเศร้าจังนะคะ
ความรู้สึกแรกเลยคือเหมือนกับพี่จะส่งสัญญาณว่าพี่จะหยุดเล่นบล๊อคแก๊งค์
พี่จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นนะคะ....พี่ทิ้งบล๊อคไว้อย่างนี้แล้วนานๆเข้ามาทีก็ได้
เหมือนกับครั้งหนึ่งที่พี่เคยไม่อยากให้เราเลิกบล๊อคแก๊งค์...แล้วเราก็เชื่อพี่ไงคะ
หลายคนมีเหตุผลแตกต่างกันออกไปในการทำบล๊อค....แต่สำหรับพี่ถ้าติดงานหรือไม่มีเวลาพี่ก็ทำบล๊อคไว้เพื่อให้เพื่อนๆเข้ามาคุยด้วยก็ได้ค่ะ
เพื่อนที่เข้ามาคุยด้วยกับพี่อย่างสม่ำเสมอ แม้จะห่างหายไปบ้างแต่ก็พยายามแวะเวียนเข้ามาเม้นท์...พี่จะทิ้งเพื่อนพวกนี้ได้เชียวหรือคะ
เราว่าทุกบล๊อคจะมีเพื่นๆเข้ามาทั้งขาจร และ ขาประจำ...เพื่อนขาประจำคือเพื่อนที่พี่หนูหล่อจะทิ้งไปไม่ได้ค่ะ.
..................................
สำหรับเราการเล่นบล๊อคก็คือการอยากนำเสนอเรื่องราวและภาพถ่ายจากสวิสเซอร์แลนด์....และสนุกสนานกับการได้พูดคุยสนุกๆกับเพื่อนในบล๊อค
ไม่ต้องการทำบล๊อคซีเรียสที่เป็นวิชาการเกินไป...แต่ทำอะไรที่อยากทำ และนั่นคือตัวตนของเราจริงๆที่เราไม่ต้องเสแสร้ง ไม่ต้องวางมาด วางฟอร์ม เพราะไม่มีใครรู้จักเราว่าเราเป็นใคร
ฉะนั้นเราก็เป็นตัวของเราได้อย่างที่เราอยากจะเป็น...ไม่ใช่อย่างที่คนอื่นอยากให้เราเป็น...
สังคมบล๊อคคือสังคมที่เราคิดว่าเรานำเอาตัวตนจริงๆของเราออกมาคุยกับเพื่อนๆค่ะ...
พี่หนูหล่อ กับพี่แป๋งเป็นเพื่อนสองคนแรกของเราในบล๊อคแก๊งค์ ที่เราพูดคุยด้วยได้อย่างสนิทใจ สนุกสนานและเราสัมผัสได้ถึงความจริงใจและความรักที่เพื่อนให้กับเพื่อน....ถึงแม้พี่แป๋งจะห่างหายไปบ้างแต่เราเชื่ออยู่เสมอว่าพี่แป๋งยังอยู่กับเรา และไม่เคยทิ้งเรา และกับพี่หนูหล่อเราก็รู้สึกอย่างเดียวกัน
และนี่คือสิ่งดีดีที่เราได้จากบล๊อคแก๊ง..ที่ยังไม่นับรวมถึงเพื่อนๆที่น่ารักๆอย่างคุณจิ๊บกับคุณปูและอีกหลายคนที่บางครั้งมิตรภาพในโลกแห่งความเป็นจริงยังหาไม่ได้อย่างนี้
และเพราะสิ่งดีดีเหล่านี้เองค่ะที่เราเคยคิดจะปิดบล๊อคไปครั้งหนึ่ง...แต่ ต้องกลับเข้ามาเล่นใหม่ก็เพราะความรู้สึกดีดีจากเพื่อนๆที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองค่ะพี่หนูหล่อ
............................
พี่หนูหล่อ เราขอให้พี่หนูหล่อมีความสุขมากๆ และดูแลสุขภาพตัวเองให้มากๆนะคะ.....เราเป็นห่วงพี่อยู่เสมอค่ะ...และจะเข้ามาเยี่ยมบ้านนี้เป็นประจำค่ะ...พี่หนูหล่ออย่าทอดทิ้งกันนะคะ
แวะเอาพระจันทร์มาฝากค่ะ
คืนก่อนพระจันทร์เมืองไทยยิ้มสวยน่ารัก
แต่ทำไมคืนนี้..พระจันทร์ที่สวิสถึงได้เศร้าจังคะ
เป็นไงค๊าโดนหนามบ้านเราทิ่มแทง...เจ็บไหมเอ่ยยย
หมีเขียนบล็อกบำบัดอ้ะ
เขียนถึงแมวที่เลี้ยง เขียนถึงหนังที่ดู เขียนถึงหนังสือที่ชอบ เขียนถึงของที่ไปกินแล้วอร่อย บางครั้งก็เขียนถึงโลกภายในตัวที่บังเอิญผุดขึ้นมาระหว่างวันคืนแห่งความปั่นป่วน
รวมๆ คือเขียนถึงสิ่งที่บางครั้งไม่รู้จะพูดกับใครเพราะมันเป็นสิ่งที่คนรอบตัวเขาไม่มีความสนใจร่วมกับเรา แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่า มาเจอเพื่อนที่ชอบที่สนใจอะไรเหมือนกันในนี้เยอะเลย
อ่อ ไม่นับพวก "แวะมาเยี่ยม" หรือแปะกลิตเตอร์เพื่อหวังผลให้เรากลับไปคอมเมนต์นะ โดยส่วนตัวจริงๆ-ขอย้ำ-รู้สึกว่าความสัมพันธ์ฉาบฉวยแบบนั้น มันไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นเด็กกวนเมือง ถือกระป๋องสีมาพ่นกำแพงบ้าน