Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2563
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 พฤษภาคม 2563
 
All Blogs
 

แม่กำปอง เชียงใหม่ --- อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย, วัดผาลาด, วัดพระธาตุดอยสุเทพ

แม่กำปอง - เชียงใหม่
23 - 27 มกราคม 2563

ตอนที่ 5...ออกจากห้วยตึงเฒ่า หมุดหมายต่อไป ตั้งใจจะไปวัดพระธาตุดอยสุเทพ
จิน - JinnyTent แนะนำว่า พี่หนูควรจะแวะวัดผาลาดที่อยู่ทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพด้วย...น่าสนใจค่ะ



26 มกราคม 2563 เรามาตรงช่วงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่รับปริญญาพอดี 



13.01 น. แวะกราบท่านครูบาศรีวิชัยก่อนค่ะ



ครูบาศรีวิชัยเป็นนักบุญแห่งล้านนาไทยผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเชียงใหม่และประชาชนโดยทั่วไป
ผู้ที่จะขึ้นดอยสุเทพมักจะแวะนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยเพื่อความเป็นสวัสดิมงคล



ครูบาศรีวิชัยเป็นผู้ริเริ่มชักชวนให้ประชาชนชาวเหนือร่วมแรงร่วมใจกันสร้างถนนจากเชิงดอยขึ้นไปสู่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ
โดยเริ่มลงมือ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2477 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2478 รวมระยะทาง 10 กม.



อนุสรณ์ลงจอบแรก







ถ้าไม่มีรถส่วนตัวก็ใช้บริการรถแดงแถวนี้ล่ะค่ะ



อีก 11 กม. ถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ



แวะวัดผาลาดกันก่อนค่ะ



วัดผาลาดเดิมสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ากือนา เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเสี่ยงทายเพื่อหาสถานที่สำหรับประดิษฐานพระบรมธาตุ 

เมื่อพระองค์อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่พระสุมณเถระนำมาจากสุโขทัย โดยประทับบนหลังช้าง เพื่อนำไปประดิษฐาน ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ พระองค์แวะวัดผาลาดเพื่อทรงพัก ก่อนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ เพราะเส้นทางลาดชันมาก แต่เป็นเส้นทางแสวงบุญเสมอมา



เป็นการก่อสร้างเพื่อพักระหว่างเดินทางสมัยโบราณที่วัดผาลาด ได้รับอิทธิพลพม่าอย่างชัดเจนได้แก่ หอพระ เจดีย์และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาเพื่อให้พุทธศาสนิกชนบูชา และพักอย่างน้อยเมื่อ 500 ปีมาแล้ว สถานโบราณนี้ได้รับการปฏิสังขรณ์ตลอดมา





ส่วนสาเหตุที่ตั้งชื่อว่าวัดผาลาดนั้น ผู้เฒ่า ผู้แก่บางท่านเล่าว่า เดิมเรียกว่า ผะเลิด เพราะคนที่ดินตามช้างมาตามลำธารน้ำตก แล้วเกิดลื่นหกล้มกันหลายคน บ้างก็ว่าช้างก็ลื่นเหมือนกัน จึงให้ชื่อว่า วัดผะเลิด ต่อมาเรียกว่า วัดผาลาด ตามชื่อน้ำตก





ร่มรื่นมากค่ะ เหมาะกับเป็นสถานปฏิบัติธรรม เห็นภาพจากเน็ต ช่วงหน้าฝนมีตะไคร่ มอสเขียว ๆ ขึ้นเกาะสวยไปอีกแบบ













เป็นวัดที่เต็มไปด้วยศิลปะกรรม สถาปัตยกรรมแบบพม่า















เสียดาย ช่วงที่เราไป น้ำไม่ค่อยมี













มองวิวเมืองไกล ๆ 



เต็นท์ของทุกวัด ทำเอาความสวยงามหายไปเยอะเลย













ลานปฏิบัติธรรม



เดินออกมาแล้วค่ะ



เจอนกยูงรำแพนหางพอดี



15.22 น. วัดพระธาตุดอยสุเทพ



เดินขึ้นบันไดนาคไป



300 ขั้น จิ๊บ ๆ 





ถอดรองเท้าไว้ด้านนอก ก่อนเข้าบริเวณด้านในพระธาตุ





วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย วัดมีความสูงจากระดับที่ราบเชียงใหม่ราว 689 เมตร และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,046 เมตร เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา มีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน











วัดพระธาตุดอยสุเทพ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1927 (จ.ศ. 746) ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่ ด้วยการทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคลเพื่อเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐาน พอช้างมงคลเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ มันก็ร้องสามครั้ง พร้อมกับทำประทักษิณสามรอบ แล้วล้มลง พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดดินลึก 8 ศอก กว้าง 6 วา 3 ศอก หาแท่นหินใหญ่ 6 แท่น มาวางเป็นรูปหีบใหญ่ในหลุม แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุลงประดิษฐานไว้ จากนั้นถมด้วยหิน แล้วก่อพระเจดีย์สูง 5 วา ครอบบนนั้น

ด้วยเหตุนี้จึงห้ามพุทธศาสนิกชนที่ไปนมัสการสวมรองเท้าใน บริเวณพระธาตุ และมิให้สตรีเข้าไปบริเวณนั้น ในปีพ.ศ. 2081 สมัยพระเมืองเกษเกล้า กษัตริย์องค์ที่ 12 ได้โปรดฯ ให้เสริมพระเจดีย์ให้สูงกว่าเดิม เป็นกว้าง 6 วา สูง 11 ศอก พร้อมทั้งให้ช่างนำทองคำทำเป็นรูปดอกบัวทองใส่บนยอดเจดีย์ และต่อมาเจ้าท้าวทรายคำ ราชโอรสได้ทรงให้ตีทองคำเป็นแผ่นติดที่พระบรมธาตุ

ในปีพ.ศ. 2100 พระมหาญาณมงคลโพธิ์ วัดอโศการาม เมืองลำพูนได้สร้างบันไดนาคหลวงทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปสักการะได้สะดวกขึ้น และกระทั่งถึงสมัยครูบาศรีวิชัย ได้สร้างถนนยาวตั้งแต่ช่วงสวนสัตว์เชียงใหม่ผ่านวัดพระธาตุดอยสุเทพและไปสิ้นสุดที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ โดยถนนที่สร้างนี้มีความยาวถึง 11.53 กิโลเมตร













ซ้าย - พระเมืองเกษเกล้า กษัตริย์องค์ที่ 12 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย
ขวา - พญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย
กลาง - พระมหากษัตริย์ไทย 3 พระองค์ ผู้สร้างเวียงเชียงใหม่ คือ พญามังราย พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหงมหาราช



ครูบาศรีวิชัย









พญามังรายมหาราช









ลานชมวิว



ฝุ่นเยอะค่ะ







16.26 น. ขึ้นมาได้ ขาลง สบาย ๆ ค่ะ









  ความเดิม  

ตอนที่ 1 พักที่สำราญชน แม่กำปอง
ตอนที่ 2 เที่ยวในแม่กำปอง
ตอนที่ 3 น้ำพุร้อนสันกำแพง
ตอนที่ 4 ห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2563
0 comments
Last Update : 21 พฤษภาคม 2563 19:35:34 น.
Counter : 2375 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnonnoiGiwGiw, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณmcayenne94, คุณอุ้มสี, คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณSweet_pills, คุณชีริว, คุณธนูคือลุงแอ็ด, คุณKavanich96, คุณNior Heavens Five, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณtuk-tuk@korat, คุณทนายอ้วน, คุณเนินน้ำ, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณkatoy, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณกาบริเอล, คุณschnuggy, คุณSai Eeuu


สายหมอกและก้อนเมฆ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




เป็นคุณแม่ของ 1 ลูกสาว และ 1 ลูกชายค่ะ

เป็นแม่บ้านฟูลทาม อาชีพ ขสมก.
(แปลว่า...ขอสามีกิน อ่านเจอที่ไหนไม่รู้ ชอบค่ะ เลยยืมมาใช้หน่อย)

เมื่อไหร่ที่พอจะจัดสรรเวลาได้...
จะไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวเสมอค่ะ...

โลกนี้แสนกว้างใหญ่ มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกมากมาย พบเจออะไรดี ๆ ที่พอจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย เลยเอามาแบ่งปันกัน

ลิขสิทธิ์...เป็นของบุคคลที่อยู่ในภาพ
ขอบคุณค่ะ

Friends' blogs
[Add สายหมอกและก้อนเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.