Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2560
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
3 พฤษภาคม 2560
 
All Blogs
 
พระธาตุลำปางหลวง แม่กลางหลวง กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ (6)




ทริปนี้ วันที่  3 - 5  ธันวาคม  พ.ศ. 2559

ความเดิมตอนที่แล้ว  ขึ้นชมพระมหาธาตุเจดีย์ ทั้ง 2 องค์ แล้ว

13.30 น. ปะป๊าขับรถขึ้นมาข้างบน ที่ดอยอินทนนท์ต่อ




เห็นหมอกลง เห็นอุณหภูมิ ณ วันนั้น เทียบกับอากาศ ปัจจุบัน ณ วันนี้ เนาะ  






วันหยุดยาว คนเยอะค่ะ




ณ เวลา 13.37 น.




มาถึงกันแล้วเนาะ คนเยอะยังไงก็ต้องไปเดินล่ะ




ตรงนี้คนเยอะตลอด ๆ เลยค่ะ 




หน้าหมอกเทียบกับดอกไฮเดรนเยีย ดอกใหญ่มากกก




พระสถูปพระเจ้าอินทวิชยานนท์ หรือ กู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์




นั่งรอแม่ถ่ายรูป








....หลังจากที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี เสด็จกลับประทับเป็นการถาวรที่นครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2457 พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญประโยชน์แก่ประชาชนและนครเชียงใหม่ และได้ประกอบพระราชกรณียกิจไว้หลายอย่าง พระองค์พอพระทัยในการเสด็จประพาสในที่ต่าง ๆ ทอดพระเนตรภูมิประเทศที่ไกลและกันดาร แม้จะหมิ่นต่ออันตรายก็ไม่ทรงท้อถอย เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2458 พระองค์ได้เสด็จประทับแรมบนยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในพระราชอาณาจักร พระองค์ได้ประทับอยู่ 2 ราตรี และได้โปรดให้สร้างพระอัฐิเจดีย์ โดยได้ทรงใช้หินก้อนใหญ่ก่อขึ้นมาเป็นรูปเจดีย์ และได้บรรจุพระอัฐิของพระบิดาพระเจ้าอินทวิชยานนท์ฯ ไว้ ณ ที่นั้น

เมษายน 2499 คณะนิยมไพร นำโดยนายบุญเสริม ศาสตราภัย ได้เดินทางฝ่าความยากลำบากและความหนาวเย็น ขึ้นไปสำรวจ และได้ถ่ายภาพไว้

ลักษณะกู่ที่ไปพบครั้งนั้น คือ ตรงกลางมีกู่ก่ออิฐถือปูนเป็นรูปคล้ายปล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 75 ซม. สูงประมาณ 2 ฟุตเศษ ด้านบนเปิดโล่ง ด้านหนึ่งกู่นี้ลักษณะคล้ายถูกทำลาย ส่วนอีก 3 ด้านที่เหลือ มีลักษณะก่ออิฐถือปูน ส่วนบนมีร่องรอยว่าถูกทำลาย รอบ ๆ กู่จะมีก้อนหินสุมทับเอาไว้สูงประมาณ 1 เมตร ที่ตั้งของกู่ในครั้งนั้น คือที่ประดิษฐานกู่ในปัจจุบันนี้

ปี พ.ศ. 2518 กองทัพอากาศได้สร้างเจดีย์เล็กองค์หนึ่งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ และเป็นการเทิดพระเกียรติแด่พระเจ้าอินทวิชยานนท์ฯ อีกทั้งให้เป็นสถานที่ไว้เคารพสักการะสำหรับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการบนดอยอินทนนท์นี้ โดยได้ก่อสร้างเจดีย์ด้านหน้าของพระอัฐิเดิม และได้สร้างรั้วเหล็กล้อมของเดิมไว้

20 พฤษภาคม 2529 คณะเจ้านายบุตรหลานสาย “เจ้าเจ็ดตน” คณะสงฆ์และคณะทหารอากาศ ได้เห็นพ้องต้องกันว่าพระอัฐิเดิมนั้นได้ทรุดโทรมไปมากจึงได้จัดหาทุนเพื่อสร้างพระอัฐิเจดีย์ใหม่แทนองค์เดิมซึ่งได้ล้อมรั้วเหล็กไว้นานแล้วนั้น ในที่สุดก็ได้ร่วมกันประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และได้ทำการก่อสร้างพระอัฐิเจดีย์องค์ใหม่ขึ้นครอบฐานองค์เดิม จนแล้วเสร็จดังได้ปรากฏอยู่ทุกวันนี้

ปัจจุบันดอยอินทนนท์เป็นอุทยานแห่งชาติ มีประชาชนชาวเชียงใหม่และนักทัศนาจรต่างถิ่นและต่างประเทศได้ขึ้นไปสักการะกราบไหว้พระอัฐิเจดีย์ (กู่) พระเจ้าอินทวิชยานนท์ฯ (เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ 7) พระบิดาของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในรัชกาลที่ 5 ที่ประดิษฐานอยู่บนจุดสูงสุดของประเทศไทย






หมุดหลักฐานแสดงจุดสูงสุดแดนสยาม




ดอยอินทนนท์ เดิมชื่อ "ดอยหลวง" หรือ "ดอยอ่างกา" คำว่า "ดอยหลวง" หมายถึง ภูเขาสูงใหญ่ ส่วน "ดอยอ่างกา" นั้นมีเรื่องเล่ากันว่า ห่างจากยอดดอยอินทนนท์ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 300 เมตร มีหนองน้ำ แต่ก่อนมีนกกาไปเล่นน้ำ กันมากมายจึงรวมเรียกว่า ดอยอ่างกา ต่อมาในสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ ฯ เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ( ปี พ.ศ. 2414 ถึง 2440 ) พระองค์มีความหวงแหนป่าไม้มาก โดยเฉพาะดอยหลวงแห่งนี้ จึงได้รับสั่งไว้ว่า หากพระองค์ถึงแก่พิราลัยแล้ว ให้นำพระอังคารของพระองค์มาไว้ ณ ยอดดอยหลวงด้วย ครั้นเมื่อปี พ.ศ. 2440 พระเจ้าอินทวิชยานนท์ ฯ ถึงแก่พิราลัย ราชธิดา คือ เจ้าดารารัศมี (พระราชชายาในรัชกาลที่ 5) จึงได้อัญเชิญพระอังคารของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ ฯ มาประดิษฐาน ณ พระสถูป บนยอดดอยหลวง เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของชาวเขาและประชาชนทั่วไป ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา จึงได้ เปลี่ยนชื่อเป็น "ดอยอินทนนท์" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา




ถ้าเป็นช่วงฤดูฝน คงเขียวชอุ่ม ชุ่มฉ่ำกว่านี้










14.09 น. ทางลงจากดอยอินทนนท์ค่ะ




เห็นเค้าจอดรถถ่ายรูปกัน เลยบอกปะป๊า เราจอดบ้างสิ Smiley












ไปต่อค่ะ  Smiley






ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (ขับรถผ่าน ยิงโลด)




14.42 น. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เพิ่งเคยมาครั้งแรก



สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เลขที่ 202 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ราษฎรที่อาศัยบนพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงและเผ่าม้ง ซึ่งบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ทำไร่เลื่อนลอย ปลูกข้าวไร่ ข้าวโพด และฝิ่น ส่งผลให้ป่าที่เคยสมบูรณ์กลายสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม 

ความเป็นมาของสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ที่จะช่วยเหลือชาวเขาเหล่านั้นให้มีพื้นที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง และได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ทางด้านการเกษตรแผนใหม่ ปรับปรุงฐานะความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ด้วยการหันมาทำการเกษตรแบบถาวร อันเป็นที่มาของการจัดตั้ง “สถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์” ในปี พ.ศ.2522 ณ บริเวณบ้านขุนกลาง เพื่อเป็นสถานีวิจัยของมูลนิธิโครงการหลวงอีกแห่งหนึ่ง ดำเนินงานวิจัยด้านไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผัก และไม้ผล รวมทั้งถ่ายทอดผลงานวิจัยไปสู่การส่งเสริมให้เป็นรายได้ของครอบครัวเกษตรกรทั้งชาวกะเหรี่ยง และ ม้งในหมู่บ้านรอบๆ สถานีฯ พร้อมกับการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานพัฒนาด้านสังคมและการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธารและโปรดให้เป็น “สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์” ในปี พ.ศ.2550

//www.royal-inthanon.com/Home




จองบ้านพักที่นี่ จองยากมาก 



มีค่าเข้าชม คุ้น ๆ ว่า 20 บาท แต่เดินดูดอกไม้ ถ่ายรูปนี่ก็คุ้มเกินคุ้มค่ะ




ไฮเดรนเยีย สีสวย ดอกใหญ่  ชอบ ๆ 




ถ่ายมาเยอะมาก รวม ๆ บ้างเนาะ

















บีโกเนีย




รักเร่ 






หงส์ขาว




ละลานตาไปหมด ส่องไปเหอะ สวยทุกดอกค่ะ




โครงการหลวง ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ในหลวงของพวกเรา






คงจะได้กลับมาที่นี่อีกค่ะ


















ไปแล้วค่ะ








หงส์ดำ




นกเป็ดน้ำ




สตรอเบอรี่ ด้านหน้าทางเข้าโครงการหลวง




ซูมไกล... น้ำตกสิริภูมิค่ะ




ฝากบล็อกอีกซักระยะนะคะ









Create Date : 03 พฤษภาคม 2560
Last Update : 3 พฤษภาคม 2560 19:03:51 น. 0 comments
Counter : 3630 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณMaeboon, คุณmoresaw, คุณzungzaa, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtuk-tuk@korat, คุณชีริว, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณเนินน้ำ, คุณSweet_pills, คุณรัชต์สารินท์, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณกะว่าก๋า, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณเรียวรุ้ง, คุณmambymam, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณTui Laksi, คุณlovereason, คุณtoor36, คุณmariabamboo, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณหอมกร, คุณปรัซซี่, คุณClose To Heaven, คุณRinsa Yoyolive, คุณThe Kop Civil, คุณร่มไม้เย็น, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณAppleWi


สายหมอกและก้อนเมฆ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [?]




เป็นคุณแม่ของ 1 ลูกสาว และ 1 ลูกชายค่ะ

เป็นแม่บ้านฟูลทาม อาชีพ ขสมก.
(แปลว่า...ขอสามีกิน อ่านเจอที่ไหนไม่รู้ ชอบค่ะ เลยยืมมาใช้หน่อย)

เมื่อไหร่ที่พอจะจัดสรรเวลาได้...
จะไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวเสมอค่ะ...

โลกนี้แสนกว้างใหญ่ มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกมากมาย พบเจออะไรดี ๆ ที่พอจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย เลยเอามาแบ่งปันกัน

ลิขสิทธิ์...เป็นของบุคคลที่อยู่ในภาพ
ขอบคุณค่ะ

Friends' blogs
[Add สายหมอกและก้อนเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.