ปล่อยให้มันเป็นแค่คำถาม
สิบกว่าปีที่ใช้ชีวิตอย่างนี้มา มีคนพูดให้ได้ยินหลายครั้งหลายหนจนปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนเข้าใจอย่างนี้ค่ะว่า
การเป็นทอมหรือดี้ เนี่ย เดี๋ยวก็หายได้
อยากจะบอกว่าจริงๆแล้ว การเป็นอะไรอย่างนี้ไม่ใช้โรคนะคะ หากใครผ่านไปผ่านมาแล้วยังสงสัยหรือคิดอย่างนี้อยู่ อยากให้เข้าใจเสียใหม่ นี่ไม่ใช่อาการของการเป็นโรคที่ต้องมีการรักษานะคะ ส่วนหายได้หรือไม่ได้ อย่าให้ต้องบอกเลยค่ะ ฉันคิดว่าของอย่างนี้อยู่ที่ใจของแต่ละคน บางคนอาจรู้สึกว่า การเป็นอย่างนี้ไม่มีความสุข เขาก็อาจจะลองเปลี่ยนวิถีชีวิตดูใหม่ ไปใช้ชีวิตในแบบที่คนส่วนใหญ่ในสังคมใช้กัน ก็เป็นได้
เมื่อก่อนนี้ฉันเคยคิดว่าปัญหาใหญ่ของการใช้ชีวิตอย่างนี้คือการต้องปกปิดครอบครัว ซึ่งอาจไม่รู้ว่าเราเป็นอะไรอย่างไร ในวัยอย่างนั้นนะคะ ยังเข้าใจว่าการต้องแอบซ่อนคือปัญหาหนักอึ้งซึ่งไม่รูจะแก้อย่างไรแล้ว จะหาใครมาเข้าใจเราได้ นี่คือความลำบากของการต้องเก็บงำสิ่งที่เป็นความลับเอาไว้
ยามนั้น เห็นจะมีแต่หนังสือแปลกที่มีคอลัมน์ของ โก๋ ปากน้ำ เท่านั้นเองค่ะ ที่เปิดโลกทัศน์ของฉันให้กว้างขึ้นได้ อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ไม่ใช่แค่เรานะ ที่เป็นอย่างนี้คนเดียว
แต่มาถึงวันนี้หากย้อนกลับไปมองแล้ว นั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปกลุ้มใจเลยค่ะ หากถามว่าแล้วอยู่อย่างไร ผ่านมาได้อย่างไร ทั้งที่ครอบครัวหรือทางบ้านไม่ได้ทราบเลยว่าเรามีแฟนเป็นผู้หญิงนะ
ก็อยู่มาได้แบบปกติธรรมดานี่เอง ไม่ได้คิดจะต้องไปเรียกร้องทวงสิทธิ์ของการมีอยู่หรือต้องไปป่าวประกาศว่าฉันเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แล้วต้องได้อย่างนั้นอย่างนี้ค่ะ
การที่ต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้กับตัว จริงอยู่แม้มันจะอัดอั้น เมื่อถูกรุกเร้าด้วยคำถามว่า "อายุเท่าไหร่แล้ว" "อยู่คนเดียวไม่ดีนะ แก่ๆแล้วจะทำยังไง" "แต่งงานได้แล้วนะ" คำถามเหล่านี้ไม่ได้มีผลต่อเราเลยด้วยซ้ำ
เมื่อปล่อยให้มันเป็นแค่คำถาม และเราก็ยังใช้ชีวิตตามแต่ที่เราพอใจ เพียงแต่ไม่ได้ละเลยชีวิตส่วนอื่นที่ต้องปฏิบัติ ทั้งต่อครอบครัว คือการยังเป็นลูกสาวที่ดีของพ่อแม่ และการทำหน้าที่ในชีวิตที่ต้องทำในส่วนอื่นๆ ขณะที่ชีวิตส่วนตัวก็ยังใช้อย่างที่อยากใช้ มีความรักกี่ครั้งก็ยังเลือกรักในแบบที่เราเป็น
ก็ไม่เห็นว่าการมีชีวิตแบบหญิงรักหญิง จะเป็นอะไรที่หนักอึ้งอีกเลย เพราะเราไม่มองว่าการเก็บงำไว้นั้นจะเป็นปัญหาที่เราต้องไปแบกรับมัน ลองคิดดูสิคะว่า วันๆที่ต้องทำงานหนักและเหนื่อยแล้วนั้น เรามีปัญหาให้แก้อีกกี่ร้อยพัน มันอาจจะหนักหนาว่าการที่เราเป็นทอมเป็นดี้นี่ซะอีก
เรื่องของการปกปิดที่ตัวเองเป็นอะไรสำหรับฉันแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรคำนึงเลย ฉันคิดว่าแค่เรารู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และรู้ว่าเราทำอะไรได้บ้าง ก็น่าจะพอแล้ว ที่จะทำให้เราใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขได้ไม่ว่าเราจะเป็นทอม เป็นดี้ หรือเป็นหญิงรักหญิง ชนิดแท้หรือไม่แท้อะไรก็ตาม
ตัวเราเองเท่านั้นที่ต้องเลือกที่จะใช้ชีวิตให้เป็น การที่คนอื่นจะมองว่าเราเป็นอะไรไม่สำคัญเท่ากับเรารู้ว่าเราต้องการอะไรและทำอะไรได้บ้างหรอกค่ะ
เชื่อฉันเถอะ
Create Date : 08 ตุลาคม 2548 |
Last Update : 8 ตุลาคม 2548 13:14:57 น. |
|
2 comments
|
Counter : 454 Pageviews. |
|
|
|
เห็นด้วยกับบทสรุปของคุณค่ะ