แ บ บ ไ ท ย ๆ ง่ายๆเข้าว่า
สวัสดีค่ำวันเสาร์ค่ะคุณ
กลับมาแล้วค่ะ บล็อกร้างไปหลายวันทีเดียว วันหยุดได้พักแล้ว
มาเขียนบล็อกต่อ ความสุขค่อยกลับมาค่ะ
ล่วงเข้าสู่ late night แล้ว คงทานข้าวกันแล้วนะคะ
ส่วนฉัน วันนี้ฉันไม่ได้ทำกับข้าวเอง อาศัยฝากท้องกับน้องผู้แสนจะขยันทำอาหาร วันนี้เขาทำอาหารญี่ปุ่น ราวกับยกฟูจิมาไว้ในบ้าน
อะไรจะบังเอิญ ฉันเพิ่งได้หนังสือเรื่อง เกี่ยวโต รักเธอมากกว่าที่เคยรัก
ของฮิมิโตะ ณ เกียวโต มาเมื่อเย็น
คือเพราะฉันชอบอ่านที่ฮิมิโตะ หรืออีกนามหนึ่งคือ คำ ผกา เขียน
เมื่อเธอลุกขึ้นมาเขียนเรื่องเมืองที่เธอเคยไปใช้ชีตอยู่หลายปีดีดัก ฉันเลยเออออที่อยากจะอ่าน
เกียวโต .. ญี่ปุ่น..
ประเทศนี้อยู่ไกลออกไป แต่สำหรับฉัน คนญี่ปุ่นไม่ได้อยู่ไกลนะคะ
คนญี่ปุนนั่งอยู่ใกล้ฉันแค่เมตรสองเมตร เฮ่อ.. นายค่ะนาย
นายญี่ปุ่นนั่งอยู่ไม่ไกล ชายตามองก็จะสบตากันได้
ตึกที่นั่งทำงานอยู่ในย่านสีลม เรานั่งทำงานอยู่ที่ชั้น 13 ของตึกนี้
รู้กันว่าเป็นตึกของญี่ปุ้น บริษัทญี่ปุ่นเช่าออฟฟิศอยู่ในตึกนี้เยอะมาก
เราเดินสวนกับหนุ่มญี่ปุ่นทั้งหนุ่มทั้งแก่ทุกวัน
ก็พอจะเห็น จะรู้บ้างค่ะ ว่าคนญี่ปุ่นกับคนไทยนี่ หากว่าด้วยนิสัยแล้ว
ดูจะคนละเรื่องกันเลยนะคะ
คนญี่ปุ่นมีวินัยเรื่องเวลาสูงมาก ส่วนคนไทย นัดเวลาไหนแปลว่าจะ
ไม่ตรงเวลาทุกนัด คนไทยสบายๆเอามากๆ ส่วนคนญี่ปุ่นคร่ำเคร่ง
เรื่องการทำงาน เขาจะมาทำงานเช้า และกลับช้ามาก ( กรุณาลากเสียง
ยาวๆด้วยค่ะ ) ในขณะที่คนไทยเผ่นกลับบ้านกันหมดแล้ว อย่างตรง
เวลาเมื่อเลิกงาน 55
ฉันยังเคยสงสัยว่า พวกเขาจะคิดอะไรอย่างไร จะอึดอัดบ้างไหมนะ
เมื่อต้องทำงานอยู่ร่วมกับคนไทยจำนวนมาก ด้วยนิสัย 'แบบไทยๆ'
คุณก็คงรู้ว่าแบบไทยๆ คืออะไร
อืมม ฉันกำลังคิดว่าแบบไทยๆ คือ อะไรก็ได้ ง่ายๆเข้าว่า น่ะค่ะ
ญี่ปุ่นที่ถูกส่งมาประจำที่เมืองไทย แม้จะอยู่นานก็ตาม แต่พวกเขาก็
หาได้เปลี่ยนแปลงหรือกลืนไปกับวัฒนธรรมไทยๆ ไม่ เท่าที่เห็น
พวกเขามีความเป็นชาตินิยมสูงมากค่ะ และพวกเขาก็ใช้นิสัยแบบญี่ปุ่นๆ
นั่นแหละ ในการทำงานหรือแม้แต่หลังเลิกงาน
คือคร่ำเคร่ง เอาจริงเอาจัง ไม่เล่นหัว ไม่อะไรก็ได้ แบบไทยๆ
ฉันไม่คิดว่านิสัยการทำงานแบบญี่ปุ่น เป็นเรื่องดีค่ะ เพราะการทำงาน
หนักไม่ได้แปลว่าคนๆนั้นจะทำงานดี ตลอดจนไมได้แปลว่าผลของ
งานจะออกมามีคุณภาพเสมอไป
หากวัดกันที่ผลงาน ระหว่างคนสองคนที่สามารถ manage ตัวเองให้
ทำงานในเวลางานได้ แล้วไปมีชีวิตหลังเลิกงาน มีความสุขในวิถีของตัวเอง กับอีกคนที่เอาแต่คร่ำเคร่ง เข็มนาฬิกาบอกเวลาอื่นๆที่แปลว่า
ควรจะไปทำอย่างอื่นได้แล้ว แต่กลับไม่ไป
คนสองคนนี้อาจจะได้งานเหมือนกัน คุณภาพของงานเท่ากัน
แต่ใครจะมีความสุขกว่ากันล่ะคะ
ฉันเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าการทำงานหนัก ไม่ได้แปลว่าเราทำงานดี แต่การรู้จักจัดการบริหารชีวิตไม่ให้เวลาทำงานมาเบียดบังเวลาส่วนตัว ใช้ชีวิตหลังเลิกงานได้ต่างหากคือการ manage ชีวิตที่ถูกต้อง
การทำงานหนักแบบที่คนญีปุ่นทำกัน แบบที่นายๆทำให้เห็น เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่เคยเห็นคล้อยตามเลยค่ะ
ฉันยังคิดเลยว่าการที่คนญี่ปุ่นสร้างตัวละครอย่างโดเรมอน หรืออิ๊กคิวซังให้เกิดขึ้นมานั้น มันสะท้อนอะไรบางอย่างหรือไม่
...
แต่นายญี่ปุ่นบางคนก็น่ารักนะคะ เขาพยายามจะหัดพูดภาษาไทย
แล้วภาษาไทยนี่ เวลาพูดไม่ชัด อย่างที่ชาวต่างชาติเขาพยายามจะหัดพูด มันก็ฟังดูน่ารักดีเหมือนกัน
ยามที่เราได้ยินคนต่างชาติพูดภาษาเรา มันน่าภูมิใจออกค่ะ
จริงมั้ยคะ
ไฮ่ ( ค่ะ ) !!
| Create Date : 04 เมษายน 2552 |
| Last Update : 4 เมษายน 2552 22:12:32 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 360 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
