wish lists ของฉัน .. สั่งลาปีเก่า .. สวัสดีปีใหม่ค่ะ !
เมื่อครู่หลังแข็งปั่นนิยาย 'ดวงดาวดอกไม้' ตอน 39 จบแล้วส่งให้คุณคนอ่านแปะให้ใน leslady ( เข้าใจว่ายังไม่ได้แปะตอนนี้ ต้องรอเธอสักนิดก่อนค่ะ ) ฉันมานั่งนึกๆว่าใช้เวลากับการเขียนนิยายเรื่องนี้นานเหลือเกิน นี่ฉันเขียนข้ามปีมาเกือบสี่ปีได้อย่างไรเนี่ย ถ้าเป็นการทำงาน ฉันก็ประเมินว่าตัวเองทำงานนี้ได้ช้ามาก เกิน deadline ไปนานโข ทั้งๆที่ฉันไม่คิดว่าจะต้องเขียนให้เสร็จเมื่อไหร่ อาศัยว่าใช้วิธี 'ไปเรื่อยๆ' จนคนเขียนอย่างฉันยังมึนค่ะ จริงๆมันควรจะจบในเวลาหนึ่งปีนะคะถ้าฉันขยันเขียน และไม่มีข้ออ้างให้กับตัวเองเช่น
-ไม่มีอารมณ์(เขียน) -ไม่ว่างแล้ว ต้องทำงานจริงๆก่อน -ไม่ได้เขียน เพราะไม่มีเวลา -ไปเที่ยวก่อนนะ
แต่ทั้งหมดทั้งปวงก็คือเพราะฉันไม่ลงมือไง หรือไม่ก็ลงมือช้ามากๆ นี่ไงนิสัยอีกอย่างที่ไม่ค่อยดี เพราะคำว่า 'ทำเลย' มันไม่ค่อยมา ต้องรออารมณ์ก่อนทุกที
มีหลายเรื่องในชีวิตค่ะ ใช่ว่ามีเพียงเรื่องนี้ อ๊ะ อย่าเถียงฉันว่าคุณไม่เคยเป็น เพราะฉันคิดว่านี่คือนิสัยเบสิคที่สุดแล้วของมนุษย์อย่างเรา
ไหนๆก็ปีใหม่แล้ว อะไรที่ลด ละ เลิกได้ ฉันก็ว่าน่าจะดีที่เราจะตั้งเป้าให้ตัวเองใหม่นะคะ วันก่อนอ่านหนังสือของคุณหมอวิธาน เขาแนะนำให้เราเขียน 'บันทึกคำขอ' จะขอกับใครไม่รู้แหละ แต่เมื่อเราเขียนคำขอ หรือ wish lists นี่แล้ว เราจะเห็นเลยว่าในบรรดาคำขอที่เราขอ บางข้อมันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่เกินจริง
เขียนนี่ต้องให้ make sense ด้วยนะคะ ไม่ใช่ขอให้ตัวเองเป็นซูเปอร์แมน อันนั้นออกจะเกินจริง ใครหน้าไหนก็คงบันดาลให้คุณไม่ได้หรอก
ฉันเห็นว่าบันทึกคำขอ หรือ wish lists นี่ดีค่ะ ฉันได้ลองทำดู ปรากฏว่าคำขอนี่ มันแสดงให้เห็นสิ่งที่อยู่ลึกๆในใจเราได้เลยนะ และเมื่อเราขอไปแล้ว ก็ขอให้ตั้งมั่นในสิ่งที่เราขอด้วย และที่สำคัญที่สุดเมื่อขอแล้วใช่ว่าเราควรจะนั่งตบยุงรอไปเรื่อยๆ แต่การขอที่ว่านี้คือการ program ใจ เมื่อเราเชื่อในสิ่งที่เราขอ มันอาจจะเป็นจริงขึ้นมาได้ในสักวัน
ฉันคงไม่ได้พูดว่ามันคือปาฏิหารย์หรืออะไร แต่ตลอดมาฉันเชื่อในพลังของความคิดทาง + ฉันยังหัดที่ใช้ชีวิต(ในมุมที่ไม่รู้) อยู่ทุกวันค่ะ เพราะแรงขับเคลื่อนแบบนี้จะทำให้เรามีชีวิตอยู่อย่างไม่ว่างเปล่าเกินควร
สลัดอะไรทิ้งไปในปีเก่าแล้ว เริ่มต้นใหม่ให้สวยงามด้วยจิตใจที่ดีๆ -ดีกว่านะคะ
.....
คุณรู้ไหมว่าเรามีเวลาในชีวิตกันคนละกี่วัน เขาบอกว่าคร่าวๆเลยนะคะ ประมาณสามหมื่นวัน สามหมื่นนี่ฟังดูแล้วเหมือนจะไม่น้อยเลย แต่มันก็ไม่ได้มากนะคะ
ลองคิดดูว่าเราหายใจทิ้งไปทุกวัน ผ่านวัน ผ่านคืนไปเร็วขนาดไหน เพราะนี่เราผ่านมา 365 วันแล้ว รอบแล้วรอบเล่า วันคืนไปเร็วเสมอนะคะ แค่เราเผลอ เราก็ใช้ชีวิตมาแล้วครึ่งนึง น่าใจหายไหม แถมเรายังไม่รู้จริงๆนะคะว่าเรายังเหลืออีกกี่วัน ยังย่ำโลกใบนี้ไม่หมดเลย ยังไม่ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้วยตาตัวเองเลยสักอย่าง โอย ชีวิตยังมีอะไรทำอีกตั้งเยอะ แต่เราจะทำมันได้หมดไหมนี่
ดีเหลือเกินแล้วที่ชีวิตนี้ไม่หลงทาง ตั้งมั่นจะทำให้ชีวิตดีเสมอ เพื่อให้วันเวลาทั้งหมดในชีวิตหมดไปกับการทำดี
ปีนี้ฉันตั้งเป้าจะทำบุญให้มากค่ะ แทนที่จะแพลนเที่ยวอย่างเดียวเหมือนทุกปี แต่ปีนี้ตั้งใจจะเปลี่ยนเข็มชีวิต ไปทำบุญให้มากขึ้น ปกติแพลนเที่ยวสองเดือนต่อครั้ง หากแต่ปีนี้อยากเพิ่ม อาจจะไปทำบุญตามที่ต่างๆ ไม่จำเป็นว่าจะต้องไปทำบุญที่วัด เราทำที่ไหนก็ได้ ทำกับใครหรืออะไรก็ได้ ทำแบบที่ทำแล้วสบายใจ ทำเท่าที่เราทำได้ มีคนอีกเยอะ มีสัตว์อีกหลายชีวิตที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา
ทำอะไรดีๆ
แค่คิดก็ยิ้มได้แล้วนะคะ
...
บรรทัดนี้ส่งท้ายบล็อกในฐานะบล็อกแรกของปี 53 ขออวยพรกันอีกที แล้วเริ่มต้นปีใหม่ดีๆด้วยกันนะคะ สำหรับแฟนนิยาย สัญญาว่าจะเขียนให้จบในปีนี้ นี่เป็นหนึ่งใน wish lists ของฉันเลยค่ะ
ขอบคุณที่ตามอ่านและเอาใจช่วยกันมาตลอด ทั้งแฟนบล็อก แฟนนิยาย
สวัสดีปีใหม่นะคะ !!
Create Date : 02 มกราคม 2553 |
Last Update : 2 มกราคม 2553 14:25:26 น. |
|
10 comments
|
Counter : 422 Pageviews. |
|
|
|
--