มายเฟรนด์มา พาไข้ขึ้น !!!
ว่ากันว่าโลกนี้ปรวนแปรไปหมดแล้ว อะไรๆที่เคยอยู่อย่างนั้นก็เปลี่ยนไป อะไรๆที่เคยอยู่ในที่ทางของมันก็ไม่อยู่
ฉันว่าไม่ใช่แค่โลกหรอกที่ปรวนแปร แต่คนก็ปรวนแปรด้วย
วันก่อนที่มีการตรวจสุขภาพกันแบบเป็นหมู่มวล ตรวจยกบริษัท ฉันถูกซักประวัติเรื่องโรคประจำตัว เมื่อก่อนฉันไม่คิดว่าตัวเองมีโรคประจำตัวนะคะ และไม่ใช่เรื่องเท่ที่จะต้องมี เพราะโรคมันไม่ใช่ของหวานที่ต้องพึงรับประทานแล้วจะอารมณ์ดีมีความสุข
ฉันกรอกในใบประวัติว่าตัวเองมีโรค IBS อยู่คู่กายมาเจ็ดแปดปีแล้ว เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย ขึ้นอยู่กับความปรวนแปรของร่างกายและจิตใจ เพราะไอ้โรคนี้มันชอบมากับความเครียด ซึ่งบางทีเราไม่รู้ตัว
หมอถามว่า ถามจริง คุณเครียดอะไร ฉันจะไปรู้เหรอคะ ก็ทำงานทั้งวัน ทำนั่นทำนี่ ไอ้สิ่งที่มันไม่ชอบใจมันก็คงจะมี มันก็อาจมีส่วนทำให้ความเครียดเกิดขึ้นได้
พยายามแล้วนะ มันก็ยังมี
ระบบในร่างกายพากันรวน ทั้งที่เราก็คิดว่ามันไม่มีอะไรแล้วนะ
ยังมีอีก นอกจาก IBS ฉันยังมีอาการไมเกรน ฮ้า !! ทันสมัยจริงๆ โรคที่ฉันเป็น เป็นโรคที่มากับความเครียดทั้งนั้นเลย
ไมเกรน ( หรือมายเฟรนด์ของฉัน ) มักจะขึ้นมาเวลาที่มีสิ่งเร้ามากระตุ้น เช่น เครียด ( อีกแล้ว ) ฟังเพลงเสียงดังเกินไป ตากแดดจัดจ้าเกินไป ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดกระบอกตา ร้าวไปที่ขมับ เหมือนใครเอาอะไรมาทุบหัว ปวดตุบๆๆๆๆ เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย บางที เหมือนรู้สึกว่าตัวเองเดินอยู่บนเรือ ลอยไปลอยมา ซึ่งเป็นอาการที่ทรมานมาก
เป็นทีหนึ่ง ต้องอดทนค่ะ
วันสองวันนี้มายเฟรนด์มาหาฉัน ฉันปวดหัวแบบนี้สองวันติด แค่นั้นยังไม่พอ เมื่อบ่ายนี้ อยู่ดีๆก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดตัว ร้าวตัว และเป็นไข้
พระเจ้า !! ฉันไข้ขึ้น
ฉันซัดพาราไปหนึ่งเม็ด บวกกับ ยาที่ชื่อ นิวโรเบียน ที่จริงยาตัวนี้น่าจะเป็นวิตามิน B 12 ที่ช่วยรักษาอาการปลายประสาทอักเสบ จากนั้นก็นอนพัก แต่นอนไม่หลับเลย อากาศข้างนอกร้อนเปรี้ยงแต่ในตัวฉันหนาวสั่น ต้องนอนห่มผ้าเลยทีเดียว
หนึ่งชั่งโมงครึ่งผ่านไป อาการหนาวสั่นค่อยลดลง แต่อาการปวดร้าวตัวและมายเฟรนด์ของฉันยังไม่ไปไหน ทำไมมันรักฉันจังเลย รักแบบนี้ไม่เอานะคะ ไม่ชอบด้วยประการทั้งปวง
...
เมื่อเช้า ฉันได้หนังสือของพลอย จริยเวช มาค่ะ เป็นหนังสือเล่มโตชื่อ HAPPY & HEALTHY หนังสือเล่มนี้มาจากการปฏิบัติจริงของเธอที่ใช้เวลากว่าสองปีในการฟื้นสุขภาพ จากที่ไม่ดีๆ และแย่ๆ เธอกลับมามีสุขภาพดี น้ำหนักลด และแข็งแรงขึ้นได้
ฉันอ่านผ่านๆก่อนแล้วพบว่าวิธีของเธอก็ไม่ได้พิสดารอะไรเลย ทั้งหมดอยู่ที่ความตั้งใจของเราที่จะปรับและเปลี่ยนวิถีชีวิตเสียใหม่
เมื่อเราพบว่าวิถีชีวิตเดิมของเราไม่ทำให้เราเป็นสุขแล้ว หรือพบว่ามันทำให้เราแย่ลงๆๆ ความสุขลดระดับลงอย่างน่าใจหาย สวนทางกับอายุที่มันมากขึ้นๆๆๆ
ฉันเชื่อว่าชีวิตที่มีคุณภาพนั้นเรื่องเงินไม่ได้เป็นองค์ประกอบหลัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีเงินนำพาความสะดวกสบาย และความสุขมาให้ แต่การที่เราตะบี้ตะบันไขว่คว้าหาเงินเพื่อนำมาซื่อความสุขในภายหลังโดยที่เรามัวแต่รอเวลาว่า ฉันจะสุขในอีกสิบปีข้างหน้า แล้วปล่อยให้ตัวเองวิ่งวนหาเงินเป็นหนูถีบจักร ไม่รู้จักทำให้ตัวเองมีความสุขตั้งแต่วันนี้ การมีเงินมากๆจะมีความหมายสำหรับเราจริงๆหรือ
วิถีชีวิตที่เราจะมีความสุขไปพร้อมๆกับการมีสุขภาพดี น่าจะเป็นยอดปรารถนาของเราค่ะ แต่การจะทำอย่างนั้น หรือมีอย่างนั้นได้ คงจะต้องเริ่มจากตัวเราจริงๆ
..
วันก่อนฉันวางแพลนจะผลิตการ์ดปีใหม่ให้บริษัท ตอนที่นั่งเสิร์ชหาคำอวยพรในอินเตอร์เน็ตเพื่อที่จะเอาไปใช้ในการ์ดนั้น ฉันคิดว่าคำอวยพร ที่เราปรารถนาที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น ความสุข ความมั่งคั่ง ความ สมหวังและความมีสุขภาพดี
แต่จะมีใครสักกี่คนรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในคำอวยพรนั้นจะเป็นจริงขึ้นมาได้ ตัวเรานีแหละสามารถทำให้มันเกิดขึ้น
เทวดาหน้าไหนก็ไม่ช่วยเราจริงๆค่ะ เพราะเทวดาก็คงมีงานเยอะอยู่แล้ว อย่าผลักภาระนี้ไปให้ท่านอีกเลย ทำด้วยตัวเองนี่แหละ ทำก่อน
บอกตัวเองด้วยค่ะ และอยากฝากความปราถนาดีบอกคุณ
สุขสันต์วันอาทิตย์นะคะ !!
Create Date : 27 กันยายน 2552 |
Last Update : 27 กันยายน 2552 15:27:47 น. |
|
7 comments
|
Counter : 574 Pageviews. |
|
|
|
รักษาตัว รักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ
เมื่อเย็นวันเสาร์ เอ๋ ไปออกกำลังกายด้วยการวิ่งมาค่ะ
วิ่งมากไป มากจริง ๆ วิ่งไปได้งัย 7.5 กิโล ที่สวนลุมฯ (สวนลุมรอบละ 2.53 กิโล) กลับมาถึงบ้าน เดี้ยงเลย
ปวดหัว ตุ๊บ ๆ ตลอด มองอะไรไม่ได้เลย คลื่นไส้ เมื่อคืนจึงงดเข้าเน็ต 1 วัน
วันนี้ดีขึ้นแล้ว เดี๊ยวเย็นนี้ไปวิ่งใหม่
ขอให้หายเร็ว ๆ น่ะค่ะ พี่สาว