แค่คำว่า 'ขอโทษ' บางทีอาจไม่พอ...
เช้าวันอาทิตย์
ฉันมีความสุขดีค่ะ แม้สัปดาห์นี้จะไม่ได้ไปไหนไกลกว่ารัศมีบางพลีก็ตาม
เมื่อวานนอนอ่านหนังสือสบายใจ มีอยู่เล่มหนึ่งของคุณวรัตตา ภัทโรดม ชื่อ เปลี่ยนความคิดชีวิตเปลี่ยน หนังสือเล่มนี้วางแผงมานานแล้วแต่ฉันไม่สะดุด อาจเพราะไม่ได้สนใจ อยากจะอ่านหนังสือฮาวทู
จวบจนวันศุกร์ เมื่อคิดว่าจะต้องหาอะไรเป็นของขวัญให้เจ้านาย ซึ่งทำงานเป็นวันสุดท้าย จึงไปเดินร้านหนังสือ และเลือกเล่มนี้มา
เลือกเล่มนี้ เพราะเนื้อหาในเล่ม soft พอที่จะเข้าใจง่าย แม้จะเป็นเรื่องธรรมะ แต่มันคือธรรมะที่สอดแทรกในชีวิตประจำวัน และไม่ใช่ฮาวทูค่ะ แต่เป็นประสบการณ์ของผู้เขียน
ตอนแรกฉันเลือกหนังสือธรรมะหลับสบายของ ท่าน ว วชิรเมธี แต่พลิกเนื้อหาข้างในแล้ว เป็นเรื่องของการขจัดความโกรธ ว่าด้วยคนที่โกรธ วีนแตก และใช้อารมณ์เป็นใหญ่
ไมได้ค่ะ ไมได้ นายฉันปกติเธอเป็นคนขี้วีน โมโหง่ายอยู่แล้ว ฉันกลัวเธอจะรับไม่ได้ว่าฉันให้หนังสืออะไรกับเธอ
เหมือนไปว่าเธอหรือเปล่า ทั้งที่ฉันเจตนาดี
การให้อะไรใคร บางทีก็ต้องคิดดีๆ คิดหน้าคิดหลัง จะเอาแต่พอใจเราคงไม่ได้ บางอย่างเหมือนดาบสองคมนะคะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม้เราจะเจตนาดี แต่คนรับก็มีสิทธิ์แปรเจตนาเราเป็นอื่นได้ ดีไม่ดี พาลโกรธเอาด้วย
เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน ดูหัวหนังสือแล้วเข้าท่า ในเล่มมีบางบทที่พุดเรื่องความโกรธด้วย แต่พูดจากตัวตนของผู้เขียน ที่เมื่อก่อนที่จะเข้าไปปฏิบัติธรรม เธอก็เป็นคนขี้วีน โกรธง่าย โมโหง่ายเหมือนกัน
ธรรมะช่วยเปลี่ยนเธอเป็นคนใหม่ หลังจากได้ปฏิบัติธรรมอย่าง จริงจัง อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วทำให้นึกถึงเข็มทิศชีวิต ของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ที่อ่านแล้วได้คิดอะไรเช่นเดียวกัน
หากคุณสนใจ ลองอ่านนะคะ
.......
วานนี้อยู่บ้าน ทานข้าวเย็นกับน้อง เออจริงด้วยสิ ฉันอยู่ไม่ติดบ้านมานาน โดยเฉพาะวันหยุด แทบไมได้นั่งลงใช้โต๊ะกินข้าวที่บ้าน
ความสุขในบ้าน เป็นสิ่งที่ยั่งยืนนะคะ แม้ว่ารอบตัวเราจะเป็นอย่างไร นอกบ้านจะเจออะไรมา แต่ขอให้ในบ้านเป็นที่ที่อบอุ่นเถอะ
แต่ไม่รู้เป็นอะไรนะคะ กับคนใกล้ตัวเรามักจะไม่ค่อยเกรงใจเขา ไม่ค่อยแคร์กัน บางทีเรามักจะเกรงใจคนอื่นมากกว่าคนที่อยู่ ใกล้เรา หรือสนิทกับเรา ( เช่น คนรัก เพื่อนสนิท หรือพี่น้อง )
อาจเพราะนั่นคือมารยาทสังคม
แต่เมื่ออยู่ในบ้าน หรืออยู่กับคนที่เราสนิทด้วย เราอาจไม่ต้อง ใส่หน้ากาก ระยะเกรงใจมันก็น้อย
ไม่แปลกเลยที่เราจะทำอะไรโดยไม่สนใจว่าคนที่อยู่รอบตัวเรา อยู่ในวงกลมที่ใกล้เรา จะได้รับแรงกระแทกจากเรามากมาย ขนาดไหน
ฉันเองเคยเจอการถูกกระทำในลักษณะนี้ เมื่อไม่มีระยะ เราจะโดนทุกอย่างค่ะ เขาไม่พอใจอะไรอย่างไรเขามาลงกับเราได้หมด แล้วไม่รู้เป็นกงกรรมกงเกวียนหรืออะไร พอเราเจอแบบนี้มา เราก็จะ (เผลอ) ไปลงกับคนอื่นๆ เหมือนโดมิโน
โดนกันเป็นทอดๆ
ไม่ดีนะคะ เมื่อเราอาละวาดวีนแตกใส่ใคร แล้วมาคิดได้ทีหลังด้วย แค่คำว่าขอโทษบางทีอาจไม่พอด้วยซ้ำ
ฉันคิดว่าเราควรได้ทบทวนว่าเราเป็นอย่างนี้จริงหรือเปล่า หากไม่มีระยะเกรงใจให้กันเลย บางทีความสัมพันธ์มันอาจจะค่อยๆ ปริแตก ร้าว โดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้
จะวีน จะว่า จะโกรธ ใคร ต้องคิดหน้าคิดหลัง นับหนึ่งถึงสิบก่อนนะคะ ฉันกำลังหัด แต่ไม่รู้จะทำได้ถาวรเมือ่ไหร่ หัดใจเย็นและใช้สติให้มากกว่าอารมณ์
วันนี้วันอาทิตย์ อย่าได้เผลอโกรธอะไร หรือใครเชียวนะคะ เว้นสักวัน
วันจันทร์ .. พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีค่ะ (ฮา)
Create Date : 07 กันยายน 2551 |
Last Update : 7 กันยายน 2551 10:22:31 น. |
|
1 comments
|
Counter : 453 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ปดด IP: 222.123.135.154 วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:11:18:26 น. |
|
|
|
| |
เคยดูรายการเจาะใจที่เชิญเธอมาสัมภาษณ์
ไม่แน่ใจว่าชื่อตอน สมการความสุข หรือเปล่า
เรื่องราวของเธอน่าสนใจดีค่ะ
เมื่อรู้สึกโกรธ...อย่าลืมคิดที่จะให้อภัย
การเก็บความโกรธ ความเกลี่ยดเอาไว้ในใจ
เท่ากับว่าเป็นยอมรับให้เหตุการณ์ที่มาทำร้ายเรา
คนที่ทำร้ายเรา หรือความผิดของตัวเราที่อาจจะเป็นเพียงแค่หนึ่งครั้งนั้น เข้ามาทำร้ายเราต่อไปเรื่อยๆ
โดยไม่มีที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ต้องไม่หลงลืมว่า
"การให้อภัยตัวเองมีความสำคัญพอ ๆกับการให้อภัยคนอื่นๆด้วย"