images by free.in.th images by free.in.th
Group Blog
 
All blogs
 
เรา นั บ ถื อ กันที่อะไร ?

คุณคะ

ฉันเสียศูนย์กับบางเรื่องในชีวิต ฉันไม่แน่ใจว่าจะเรียกอย่างนั้นได้
หรือไม่ แต่คิดว่าคงจะใช่ บางทีที่เราเซจากเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อาการเหมือนรถวิ่งกินเลนตลอดเวลา เป็นแบบนั้นน่ะค่ะ เราก็คงต้องตั้งศูนย์ถ่วงล้อกันหน่อย

คงไม่ต่างอะไรกับชีวิตคนเราเมื่อเสียศูนย์ ก็ต้องพยายามจะถ่วงให้มันเดินตรงทาง

วิธีการของคนแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันด้วย
ฉันเชื่ออย่างมาก ว่าเราเอาวิธีของใครมาใช้กับเราไมได้ทั้งหมด
เพราะองค์ประกอบในชีวิต ตลอดจนเงื่อนไขอื่นๆในชีวิตเรา
ย่อมต่างจากชีวิตของผู้อื่นแน่นอน

ฉันคิดว่าไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เรา
ต้องมีในชีวิตนี้ ไม่ว่าคุณจะเสียศูนย์ไปแค่ไหน

นั่นคือ ความศรัทธาและนับถือในตัวเอง

ออกจะดูงงๆ ว่าทำไมต้องมีสิ่งนี้ ปกติแล้วเราจะถูกสอนเสมอให้นับถือ
บุคคลอื่นๆ จากเหตุที่ว่า เพราะเขาโตกว่าเรา

แต่จริงๆแล้วเมื่อเราโตขึ้นและได้เรียนรู้ เราจะพบว่าบางสิ่งที่ทำให้
เรานับถือหรือศรัทธาคนอื่นๆได้ เพราะเขามีค่าควรแก้การเป็นแบบอย่างเพื่อให้เราเจริญรอยตาม

เป็นต้นว่าคุณงามความดี หรือ การมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับนับถือ การวางตัวอย่างสง่างาม ความสะอาดหมดจดไร้เรื่องติฉินนินทา และอื่นๆ

แต่สมัยนี้องค์ประกอบด้านบนอาจจะดูเชยๆไปบ้าง

เพราะคนสมัยนี้ ไมได้มองกันที่เนื้อในอีกต่อไปแล้ว เขาดูกันที่ 'เปลือก'
ค่ะคุณ คุณอย่าเถียงฉันนะ ว่าไม่จริง เพราะฉันเถียงคุณตายเลย ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่เชื่อลองดูสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณสิคะ ว่ามันมีบ้างไหม

และเปลือกที่สร้างปัญหาให้กับเรามากที่สุดหนีไม่พ้นเรื่อง 'เงิน'

อ๊าววว จริงนะคะ เขายอมรับนับถือกันที่เงินจริงๆ
รถรุ่นใหม่ ของใครเหนือกว่า บ้านหลังใหญ่ ของใครใหญ่กว่า
ตำแหน่งใหม่บนนามบัตร โอ้อวดใครได้โก้เก๋กว่า

นี่เรียกว่า 'เปลือก' นะคะ
แล้วใครสามารถสร้างเปลือกของตัวเองได้หนาตามากเท่าไหร่
ยิ่งจะกลายเป็นความดูดีมีหน้ามีตาได้มากเท่านั้น

ฉันไม่สงสัยอีกแล้วว่าทำไม 'คนดี' จึงเกิดอาการท้อแท้
ความดีจึงเสื่อมสูญ เพราะเรามองไม่เห็นประโยชน์ของการทำดี
เพราะมันยากยิ่งที่จะเข้าใจได้ว่า ทำไมเราทำดี แล้วไม่ได้ดี
แต่คนที่ทำไม่ดี กลับเจริญเอาๆ

สุดท้ายแล้วเรานับถือกันที่อะไร
คุณลองคิดดูนะคะ

...

ฉันเข้าใจดีค่ะว่าบางครั้งเราต้องมองดูสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วยความขัดเคือง นึกไม่ออกว่าเราจะไปเปลี่ยนสังคมจากดำเป็นขาวได้อย่างไร

แต่ระหว่างความถูกต้องดีงามที่ยังเหลือเอาไว้ยึดมั่น
ก็ทำให้เราสามารถอยู่อย่างทรนงสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
มากกว่าการกินอิ่มแต่ได้มาอย่างไม่ถูกวิธี หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
ไม่เห็นค่าหรือไม่ให้เกียรติผู้อื่น

ไม่รู้สิคะ ฉันเชื่อของฉันอย่างนี้ เชื่อทั้งๆที่ใครๆอาจจะบอกว่า
การคิดแบบนี้ 'เชยและโบราณ'

เพราะฉันเชื่อว่าพระพุทธเจ้าสอนเราเรื่องความดีมาตั้งสองพันกว่าปี
แล้วไม่ใช่หรือคะ หากมันไม่ใช่เรื่องถูกต้อง บัดนี้มันก็ควรจะเสื่อมสลาย

ทำไมเขาจึงสอนให้เราเป็นคนดี

แต่สังคมทุกวันนี้กลับยกย่องคนที่เปลือกนอก โดยมองข้ามความดีงาม
ไปเสียสนิท

...

เพราะผู้คนพากันเพี้ยนไปหมดแล้ว
หรือเพราะอะไรกันแน่คะ

ตอบฉันที ???


Create Date : 12 มีนาคม 2552
Last Update : 12 มีนาคม 2552 7:55:46 น. 8 comments
Counter : 480 Pageviews.

 
ถ้าพูดแบบปลง ๆ ตามแนวของหลวงพ่อพุทธทาส ก็ต้องบอกว่า
"มันเป็นเช่นนั้นเอง"

ไม่ว่าความดี ความชั่วมันตั้งอยู่ได้ไม่นาน

มันเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย

ในกาลที่โลกตกต่ำขั้นสุด
เมื่อผ่านมาแล้วก็จะมีความรุ่งเรืองทาง ศีลธรรม ขึ้นมา
แต่จะไม่มีพระพุทธศาสนา ไม่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ
มนุษย์จะเข้าใจ อยู่ได้เพียงหลัก ศีล สมาธิ

เหล่ามารทั้งหลายก็จะพากันวิตก อย่างเราวิตก กันว่า
ทำไม มนุษย์ เราเบียดเบียน กันน้อยลง ทำไม่โลกมนุษย์สงบขึ้น
นี่เป็นความวิตกของเหล่ามาร

ก็เช่นเดียวกันกับความวิตก ของเราในขณะนี้ที่ว่า
เหตุใดหนอ มนุษย์จึงสื่อมจากกุศล ทำชั่วกันมากขึ้น

มันจึงเป็นอย่างนั้นเอง

หากเราไม่ต้องมองภายนอก มองเพียงภายในจิตใจ ของเราก่อน
ฝึกอบรม ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่แต่ภายใน
คำตอบ และคำอธิบายทั้งหลายก็จะปรากฎให้เห็น ในเวลาที่เหมาะสมล่ะครับ

ตอบได้แค่นี้ครับ
ไม่รู้ว่าตรงกับใจบ้างหรือเปล่า


โดย: อัสติสะ วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:8:18:38 น.  

 
ฉันหวังว่า ประเด็นที่จุดไว้ในเช้านี้
ได้ทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมา ได้คิดต่อกันด้วยนะคะ

ขอบคุณคำตอบของคุณ อัสติสะ
ฉันว่า ธรรมะ คือของจริงที่สุด

มันเป็นเช่นนั้นเอง
จริงๆด้วยล่ะคะ

อืมม บางทีฉันก็คิดเหมือนกันว่าสถานการณ์บางสถานการณ์ที่มันเข้ากระแทกเรามันต้องบอกอะไรเราบ้าง

มันต้องมีคำตอบใช่ไหมคะ


โดย: บี (bewae1001 ) วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:8:51:05 น.  

 
บางที ความดี ความเล็ว เรายังต้องมาถกกันก่อนว่า มันคือ อะไรด้วยซำ้ไป

การฆ่า โดยตัวมันเอง เป็นความเล็วไหม หรือมันเล็ว เพราะเราเองคิดว่ามันเล็ว ถ้าถามความคิดผม ผมก็ว่ามันเล็ว เพราะทำให้สิ่งอื่่น ต้องหยุดการดำเนินวิถีชีวิต ของมันเอง แต่ การฆ่า เพื่อการยังชีพ เช่น สิงโฆ่ากว่าง เพื่อเอามาเป็นอาหาร การฆ่านั้นเล็วไหม? ในเมื่อสิงโตไม่ได้กินพืช เป็นอาหารตามธรรมชาติ

ดี หรือเล็ว เป้นมาตรฐานที่สังคมในแต่ละยุคสมัย เป็นผู้กำหนด ก่อนนี้ว่าดี ตอนนี้อาจจะเล้วก็ได้ในการกระทำเดียวกัน

มนุษย์เราไม่ไช่อะไรอื่น นอกจาก วัตถุชีวภาพ ที่อุบัติขึ้นมาตามธรรมชาติ
ถ้าเราะละวางอัตตา ความเป็นตัวของตนเองได้

ทำดี ไม่ได้ดี เราเองก็รู้อยู่แก่ใจ ทำไมต้องให้คนอื่นเขามายกย่อง บูชา
ขอโทษนะครับ ที่เห้นต่างออกไป




โดย: ทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์ พ่อน้องโรส (คนตาพิการ ) วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:9:40:30 น.  

 
มิเป็นไรมิได้ค่ะ
เห็นต่าง ไมได้แปลว่า ขัดแย้ง

การเห็นต่างคือวิถีแห่งการสร้างสรรค์
มิฉะนั้น โลกนี้คงมีแต่สีเพียงสีเดียว

ฉันว่าโลกเราหลากหลาย ความคิดของเราก็หลากหลาย

ฉันไม่อาจจะบอกท่านๆที่อยู่สูงกว่า ว่าแบบนี้ดี
หากว่าฉันคิดว่ามันไม่ดี

แต่วิธีการของเรา ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นเขาจะเห็นด้วย

แต่ฉันยังยึดมั่นอยู่ว่า คำว่า ดี หรือ ความดี
ต้องเกิดขึ้น ทำขึ้น โดยการที่เราสบายใจ

และไม่เบียดเบียนผู้อื่น

ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ทั้งกาย ทั้งใจ ค่ะ


โดย: bewae1001 วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:9:53:12 น.  

 
เพราะหัวข้อค่ะ ทำให้คลิ๊กเข้ามาอ่าน
เห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะ

ไม่ต้องเสียศูนย์นะคะ ทำใจให้ร่มเย็นดีที่สุดค่ะ
เป็นกำลังใจให้


โดย: ดา ดา วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:9:54:07 น.  

 
ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนมีธรรมชาติของสิ่งนั้นเอง คำว่า"ธรรมชาติ"ก็เป็นส่วนผสมของความเป็นสิ่งๆนั้นเองกับกรรมของสิ่งนั้น

ณ เวลาปัจจุบันของตัวเราเอง การจะฉุกคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามธรรมชาติของสิ่งใดสิ่งหนึ่งก้ยากแล้ว พอฉุกคิดได้ก็มักมีคำถามสำหรับสิ่งนั้นตามมามากมาย แล้วก็จะเจอปัญหาว่าไม่เห็นคำตอบ คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เบื่อท้อที่จะใคร่ควรไตร่ตรองให้เป็นความต่อเนื่องจดจ่อจนพอจะเห็นคำตอบ จุดนี้ยิ่งยากขึ้นไปอีกแต่ไม่ยากเกินที่ทำได้

ค่ะรู้กับไม่รู้ เข้าใจกับไม่เข้าใจ แจ้งกับไม่แจ้ง

เราจะนับถือใคร ตัวเราน่านับถือไหม เปลือกหรือแก่น มีคำตอบให้รู้โดยไม่ต้องถามใคร



โดย: คนใจว่าง IP: 61.19.225.227 วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:9:56:13 น.  

 
ทักทาย - Hi5 กราฟฟิคสำหรับคอมเมนต์


โดย: funkylady วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:10:44:57 น.  

 
จริงแล้วการปรุงแต่งภายนอกก็เพืยงเพื่อให้คนอื่นยอมรับว่ามีบ้านมีรถ แต่จริงแล้วอาจเป็นหนี้แบงค์อยู่มากมายแต่คิดผิดงั้ยค่ะ อยากทำให้คนอื่นยอมรับ ก็เป็นวิธีการของแต่ละคนว่าจะปรุงแต่งเปลือกนอกเค้าได้มากน้อยให้คนยอมรับได้แค่ไหน นะค่ะ แต่อย่างลืมว่าคนเรา หลอกคนอื่นหลอกได้แต่อย่าหลอกตัวเองค่ะ เพราะความจริงก้คือความจริงค่ะ ปรุงแต่งยังงั้ยก็หนีความจริงไปไม่พ้นค่ะ บทความดีอย่างนี้ดีนะค่ะทำให้ได้มองอีกในแง่มุมใหม่ แล้วจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนอีกนะค่ะ


โดย: นู๋ดีค่ะ (kun_isara ) วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:10:52:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bewae1001
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




***************
// อย่ารอให้ป่วยก่อนแล้วจึงคิดนะคะ

นวภัทร ( บี )
นักเขียนอิสระ และ ที่ปรึกษาแผนประกันชีวิตและการเงิน
โทรศัพท์มือถือ 089-1459977

ความรู้อื่นๆ :
ผ่านการอบรม basic skilsl in counselling psychology กับอาจารย์พงศ์ปกรณ์ พิชิตฉัตรธนา @ ชมรมจิตวิทยาสมาธิ

ขอฝากเว็บไซต์ของอาจารย์พงศ์ปกรณ์ค่ะ http://www.medihealing.com

EMail ของผู้เขียน : Mybusy2004@yahoo.com
Facebook ของผู้เขียน : Parawee Nasaree

สำนักพิมพ์สะพานจัดพิมพ์นิยายหญิงรักหญิงของฉัน ( ดวงดาวดอกไม้ 2 เล่มจบ และนิยายขนาดสั้น ดอกไม้กับดอกไม้ ( ปกหนังสือด้านบน ) สั่งซื้อได้ที่นี่ค่ะ คลิกเลย!!

จำนวนบล็อก ณ ขณะนี้ 1147 บล็อกค่ะ
เริ่มเขียน 6 กันยายน 2548 บล็อกเก่าๆค้นได้จากกรุ๊ปบล็อกผู้หญิงสีรุ้งปี 53 นะคะ

ยินดีแบ่งปันความรู้และสิ่งที่มีประโยชน์ผ่านข้อเขียนในบล็อกนี้ และหากต้องการนำไปใช้ต่อหรือลงเผยแพร่้ในที่ใดก็ตาม กรุณาแจ้งก่อนนำไปใช้ที่ email ด้านบน ขอบคุณค่ะ





Parawee Nasaree

Create Your Badge

New Comments
Friends' blogs
[Add bewae1001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.