รัก ( ช้าช้าได้พร้าเล่มงาม ) นะ...
ฉันว่านะ ในบรรดาเรื่องที่มันเยอะๆอยู่ในชีวิตเรา หากตัดความจำเป็นในเรื่องปากท้องออก เรื่องที่กวนใจเรามากที่สุดก็หนีไม่พ้นเรื่องรักๆ คุณว่าอย่างนั้นไหมคะ
มองดูตัวเองในเวลานี้ อาจจะด้วยความที่ผ่านอะไรมาเยอะพอสมควร ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองนิ่งขึ้นมากค่ะ กับความผันผวนของชีวิต หากถามว่าวันนี้ความรักของฉันเป็นอย่างไร และหากไม่มีความรักอีก จะอยู่ได้หรือไม่ จะทำได้หรือไม่
คำตอบย่อมเป็นไปในทางบวก
ในเมื่ออดีตกาลเก่าแก่ เคยมีอดีตคนรักพูดไว้กับฉัน ว่าอย่างฉันไม่มีทางจะอยู่คนเดียวได้ เขาบอกว่า ฉันนั้นเหมือนไม้เลื้อย ต้องมีที่ยึดเกาะ เหมือนธรรมชาติของไม้เลื้อยทั่วๆไปไงคะ ที่ไม่อาจจะดำรงอยู่ได้ด้วยตนเอง ต้องเลื้อยไปเกาะกิ่งไม้นั่นนี่ เพื่อมีชีวิตรอด
รับฟัง ด้วยความไม่เข้าใจในเวลานั้น อาจเพราะไม่เคยรู้สึกเลย ว่าในแต่ละครั้งที่เราพลาดนั้น เราควรจะเดินต่ออย่างไร หรือเก็บบทเรียนที่ได้จากความผิดพลาดมาทบทวนเพื่อเดินต่อได้อย่างไร
ไม่เข้าใจว่า ทำไมเวลาเลิกรากับคนรักเก่าไป ควรที่จะมีช่วงเวลานิ่งๆเพื่ออยู่กับตัวเองก่อน ก่อนที่จะมีรักใหม่ เขาเตือนไว้แล้วนะ แล้วมันก็จริงด้วย
เมื่อไม่เข้าใจ จึงไม่เคยเปิดใจ เมื่อไม่เปิดใจ จึงไม่เคยเห็นตัวเอง
เมื่อโตแล้ว ผ่านความเจ็บช้ำ ผ่านบทเรียนความรักมานับครั้งไม่ถ้วน จึงรู้ว่าที่ผ่านมาเป็นเพราะเราเองที่ไม่เคยเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทำความเข้าใจ ความต้องการของตัวเอง ไม่เคยรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ จากความรักในแต่ละครั้ง ไม่เคยเข้าใจตัวเองว่าเราเป็นคนแบบไหน ต้องอยู่กับคนแบบไหน
ฉันอยู่กับการลองผิดลองถูกมาตลอดชีวิต
ความรักแบบนี้ มันไม่มีกฏเกณฑ์หรือพิธีรีตองอะไรมารองรับอีกด้วย ไม่ต้องผ่านช่วงศึกษาดูใจ ไม่เชื่อลองถามคนใกล้ตัวที่รักเพศเดียวกันดูค่ะ นี่ไม่นับว่าหากพึงพอใจจะจบลงบนเตียงนอน ก็ไม่ต้องคิดมากว่าจะเป็นเรื่องเสียหาย
ดังนั้นจึงไม่แปลก ที่เมื่อคุณพบใครสักคนที่เคมีตรงกัน เรื่องนิสัยใจคอ เรื่องความต้องการของตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่ตามมาทีหลังเสมอ
ฉันไม่ได้พูดหลักลอยนะคะ เพราะตัวเองก็เคยเป็นแบบนั้น !!!
...
วันก่อน ฉันได้คุยกับน้องทอมรุ่นเยาวเรศ ฮ่าๆ ใช้คำโบราณไปนิดหนึ่งนะคะ ซึ่งแกก็หาแฟนได้รวดเร็วมากหลังจากอกหัก เร็วมากขนาดเช็ดน้ำตายังไม่ทันแห้งเลยนะ
น้องมีแฟนรวดเร็วทันใจสมกับยุคไฮเทค ซึ่งก็ได้ข่าวว่า สามวันดี สี่วันงอน ได้คุยกันก็ถามว่ามีความสุขไหมแบบนี้ น้องบอกคำที่ทำให้ฉันสะอึก(ในใจ)ว่า ดีกว่าอยู่คนเดียว ไม่อยากอยู่คนเดียว มันเหงา มีเข้ามาก็ต้องคว้าไว้ก่อน
ฮ้า !
คุณลองคิดดูสิคะว่า คำตอบของน้องแสดงนัยยะอะไร แสดงว่า ไม่มีใครอยากอยู่คนเดียว ใช่ไหมคะ แสดงว่า การมีใครก็ได้สักคน ดีกว่าไม่มีใครเลย ใช่ไหมคะ แสดงว่า เราเห็นความเหงาเป็นเรืองน่ากลัวใชไหมคะ
รับฟังที่น้องพูด ได้แต่ เหรอๆ อือๆ แล้วก็คิดว่า มันไม่ต่างอะไรกับฉันใช่ไหม ฉันในวันเก่า ก็ยังเคยคิดแบบนี้ ใครก็ได้ไง ไม่จำเป็นต้องคิดไกลๆ เอาไว้ก่อน ก็ตอนนั้นหัวใจกำลังอ่อนแอ ไม่มีใครสักคนโลกมันสีเทาๆอะไรจะขนาดนี้
ไม่ตัดสินว่าสิ่งที่น้องทำผิดหรือถูก อีกไม่นานน้องคงรู้ว่าตรรกะที่น้องคิด มันอันตรายอย่างยิ่งต่อชีวิตที่เหลือ
เพราะในยามที่หัวใจเราไม่แข็งแรง เราจะมองไม่ออกเลย ว่าคนที่เข้ามาในชีวิตเราตอนนั้น ใช่อย่างที่เราต้องการหรือไม่ จะเข้ากับเราได้จริงๆหรือ ดีไม่ดีเมื่อระยะหนึ่งค้นพบว่าไม่ใช่ เราก็ต้องมาอกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในที่สุดก็จะนำไปสู่ความรักที่ฉันเรียกว่า รักซ้ำซาก ไงคะ
เพราะเคยผ่านมาแล้ว จึงรู้สึกว่าบางครั้ง การที่เราไม่สามารถอยู่นิ่งๆกับตัวเองได้ เราจะไม่มีโอกาสได้เปิดใจเรียนรู้ความต้องการของตัวเองอย่างที่บอกด้านบน เมื่อเราอยู่กับความไม่รู้ เท่ากับเราประมาทต่อชีวิตของเราเอง ผลที่เกิดขึ้นก็ไม่ต้องไปโทษใครเลยค่ะ ตัวเราเองนี่ล่ะที่ไม่เคยช้าให้เป็น อยู่กับตัวเองให้เป็น
...
ฉันเองนั้นต้องขอบคุณบทเรียนชีวิต การที่ลุกขึ้นได้จากความผิดหวังครั้งล่านั้น ได้สอนให้กลับไปมองชีวิตตัวเอง และทำให้ได้เห็นว่า มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ซึ่งไม่เคยรักตัวเองเป็นเลยในวันวาน ( แล้วก็ดีแต่เถียงกับใครบางคนว่า อย่างฉันนี่หรือรักตัวเองไม่เป็น อืมม จริงด้วยแฮะ )
แต่กับวันนี้ที่ผ่านมาจนได้เรียนรู้แล้ว ฉันเป็นนักเรียนชีวิตที่ดื้อและแหกคอกจริงๆด้วย ต้องเจอเองก่อนจึงจะเชื่อ
ในฐานะที่น้ำร้อนลวกมาเยอะ เจ็บๆแสบๆมาก็ไม่น้อย อยากบอกว่า ในจังหวะชีวิตที่เร็วเกินไป บางทีเราต้องช้าให้เป็นบ้างนะคะ
ไม่งั้นต้องมาสมน้ำหน้าตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใครเขาจะมาเห็นใจกันบ่อยๆล่ะคะคุณ
อกหักซ้ำซากก็ไม่ใช่เรื่องสนุกหรอก
เชื่อฉันซี !!!
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 21:28:34 น. |
|
1 comments
|
Counter : 401 Pageviews. |
|
|
|
เหมือนดังที่กล่าวในเรื่อง "มัทธะพาธา"
ขออนุญาตอัญเชิญบทกลอนจากบทพระราชนิพนธ์ ร.6
"ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมนต์
ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดๆ
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป บ่ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ่ หวลคิดถึงเจ็บกายฯ"
"ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม" ...กานต์เห็นด้วยค่ะ
หากเร็วไป อาจกลายเป็น "เจอไม้งามเมื่อขวานบิ่น"
รึช้าไป ก็เหมือนในหนังเรื่องเพื่อนสนิท ที่หมูบอกรักกับดากานดา แล้วดากานดาก็ตอบกลับมาว่า "จะมาบอกอะไรตอนนี้"
555
ปล. เดินทางปลอดภัยนะคะพี่บี