คนใจร้อน กับปัญหาที่ต้องจัดการ
อาทิตย์แรกของปีผ่านไปแล้วสิ สามวันทำงานที่ผ่านมา ฉันเหมือนกระอักเลือดเหลือเกินค่ะ มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นชวนให้ฉันอยากหนีไปไหนไกลๆเสียจริงๆ
นึกอีกที บางทีการเอาปัญหามาทิ้งในบล็อก มันก็ไม่ดีนักหรอกนะคะ เหมือนเราไปรื้อ ไปทำให้แผลที่เกิดขึ้น ยิ่งเป็นแผลเรื้อรัง ไม่รู้จักหาย
หลายอย่างค่ะ จากที่ฉันพบเจอแล้วได้รู้สึก ว่าในการทำงานนั้น การจัดการกับงานไม่ยากเท่าจัดการกับคนเลย เมื่อเราไปทำงานแท้ๆ กลับต้องไปจัดการกับคน ซึ่งดีร้ายก็ส่งผลต่อการทำงานของเราด้วย
โชคไม่ดีของฉันอย่างหนึ่ง คือเข้าไปทำงานทั้งที่สถานการณ์ของแผนกนั้นเป็นไปอย่างอึมครึมมาก หัวหน้าที่ใหญ่กว่ากับลูกน้องที่รองลงมา ไม่ชอบหน้ากันและแสดงออกอย่างเปิดเผย
ฉัน ซึ่งเข้าไปใหม่ จึงไม่ได้รับความร่วมมือในการทำงานเท่าที่ควร และยังต้องพยายามทำงานภายใต้ภาวะกดดันของหัวหน้าที่ใหญ่กว่า ที่ใจร้อนมากๆ เสียอีก
เคยผ่านคนชนิดที่เรียกว่า "จะเอาอะไรต้องได้เดี๋ยวนั้น" มาแล้ว กลับยังต้องมาเจออีก ตลกไม่ออกจริงๆนะคะ
แล้วฉันก็หนีสถานการณ์เลวร้ายนั้นมาได้ เพราะโอกาสของคนที่หยิบยื่นให้ แต่กลับกลายเป็นว่าโอกาสนั้น ทำให้ฉันต้องมาเจอแบบเดิม และเดียวกันอย่างหลีกไม่พ้น
เฮ้อ.......
อย่างไรก็ตาม ฉันตั้งข้อสังเกตลึกๆในใจค่ะ ว่าทำไมบุคลิกอย่างฉันจึงดึงดูดคนประเภทนี้เหลือเกิน
คนรักก็ใจร้อน ขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญไม่ใช่เล่น ยังมีหัวหน้าที่ใจร้อน ออกแนวๆเดียวกันอีกด้วย
เมื่อวานจึงเหมือนกับระเบิดลง
ระเบิดที่ทำให้ฉันเสียความมั่นใจไปมากโข แต่แล้วภายหลังจากการเคลียร์กัน ทุกอย่างสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ใจฉันไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย ฉันยังรู้สึกเสมอกับคำพูดที่เขาพูดถึงการทำงานของฉัน พาลให้ฉันระทดระท้อใจ หนักใจ จนถึงกับต้องพยายามตั้งสติหาทางออกให้ตัวเอง
พี่เขาขอให้เข้าใจและเห็นใจเขา
ฉันนั่งนิ่ง หัวจิตหัวใจด้านชาไปหมดแล้วในเวลานั้น จะให้ทำอย่างไรได้หรือคะ ฉันเสียความมั่นใจไปแล้ว ไร้เรี่ยวแรงที่จะเรียกมันคืน ความช่างคิดของฉันทำให้ฉันตื่นนอนตั้งแต่ตีสาม กว่าจะหลับอีกทีก็เกือบสว่างแล้ว
ถึงเวลานี้ ฉันที่เคยตั้งใจว่าจะเรียนรู้ทุกอย่างให้ได้ ก็ยังนั่งตั้งสติ พยายามคิดที่จะจัดการกับชีวิตตนเอง ฉันจะทำอย่างไรกับวันที่ยังเหลืออยู่
ไม่ง่ายหรอกค่ะ คนรักบอกว่า อย่าไปคิดมาก ปล่อยมันไปเสีย เธอบอกว่าฉันไม่ควรจะไปพูดกับหัวหน้า แต่ฉันไม่เห็นด้วย เมื่อหัวหน้าเรียกไปฉันจึงเปิดอกพูด เท่าที่ฉันพูดได้ หัวหน้าของฉันจึงขอให้ฉันเข้าใจและเห็นใจเธอด้วย เธอต้องการให้ฉันมาช่วย แต่ความใจร้อนของเธอก็เป็นสิ่งที่ฉันรับไม่ได้ แถมยังหวั่นใจว่าจากนี้ ฉันต้องอดทนกับความใจร้อนของเธอได้ถึงระดับไหน
เธอขอโทษฉัน และบอกว่า ที่ฉันบอกเธอไปนั้น เธอก็ยอมรับแต่จะให้เธอทำยังไงล่ะ
ฉันบอกตรงๆว่า ละเหี่ยใจมากๆล่ะค่ะ เมื่อกลับมาคิดว่า ก่อนหน้าที่ฉันมาอยู่ที่นี่ ฉันก็เคยเจอคนในทำนองเดียวกันนี้ และแน่นอนว่า อำนาจที่เขามีก็ทำให้ฉันต้องท่องคำว่า อดทน อดทน อยู่บ่อยๆ
เมื่อคุยกันแล้ว เธอสบายใจ บอกกับฉันว่า ถ้าไม่ไหวขอให้บอกเธอ และขอให้ช่วยเธอให้สุดความสามารถ เธอรู้ว่าฉันทำงานดี แต่บางทีมันก็ไม่ทันใจเธอ ( ฉันคิดว่าเธอมองฉัน ประเมินฉันด้วยแว่นในแบบของเธอนั่นเองค่ะ แว่นของคนใจร้อนที่งานทุกอย่างวัดกันที่เวลา ทั้งที่งานนั้นเป็นงานสร้างสรรค์ ซึ่งถ้าคิดไม่ออกเสียอย่าง ก็ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ในความเป็นจริง ไม่มีหรอกค่ะที่คิดไม่ออก หรือไม่ได้ มีแต่คิดได้แต่จะดีหรือไม่ดีเท่านั้น ) แถมยังบอกฉันว่า ฉันเป็นหัวหน้าของเด็กๆเหล่านั้น ควรจะต้องจัดการทุกอย่างแทนเธอได้หมด
ทั้งหมดนี้คือฉันเพิ่งเข้าไปทำงานที่นั่นไม่ถึงสองเดือนดีนะคะเนี่ย
อย่างไรก็ตาม เธอบอกฉันว่า ที่เธอเลือกฉัน เพราะความรู้สึกบางอย่าง เธอแอบเห็นฉันก่อนที่เธอจะรู้ว่า ฉันคือ candidate ในตำแหน่งนี้ และเธอว่า เธอรู้สึกถูกชะตากับฉันอย่างไรก็ไม่ทราบ
ฉันก็ไม่ทราบค่ะ รู้แต่อะไรอีกแล้วที่ดึงดูดให้ฉันมาเจอแต่คนใจร้อน ไม่ใช่ร้อนธรรมดา ร้อนมาก
ฉันเองก็ใจร้อนนะคะ แต่จะใจร้อนในเรื่องอื่นๆที่ไม่ใช่เรื่องงานที่ฉันมักจะเอาอยู่น่ะค่ะ แต่ก็ไม่รู้ทำไม ฉันกลับต้องมาเจอคนที่ร้อนกว่าอยู่ร่ำไป
ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงคิดว่า ไม่ได้แล้ว ฉันเป็นอะไร ดึงดูดแต่คนแบบนี้ทั้งนั้น ฉันเองหาสาเหตุไม่ได้ แต่อยากแก้มันอย่างน้อย ฉันจะได้ไม่ต้องมารับอารมณ์คนและถูกมองว่าทำอะไรไม่ทันใจอีก ฉันเกลียดความรู้สึกนี้มาก
คนรักของฉัน เธอบอกว่า ให้ทำเท่าทีทำได้เท่านั้น เธอแนะนำว่า ฉันควรอยู่เฉยๆจะดีกว่า พูดน้อยๆ ทำมากๆ ก็ดีค่ะ ฉันอยากพูดน้อยๆเหมือนกัน เพราะฉันเองก็เบื่อ พูดมากไปก็ไม่เห็นมีอะไรดีเลย
และไม่ต้องเสียความมั่นใจ เพราะการประเมินด้วยเกณฑ์อะไรก็ไม่รู้เช่นนี้
ฉันจำได้ดีกว่า ช่วงที่ทำงานใหม่ๆ เคยถูกหัวหน้าคนที่สองที่สามในชีวิต เขวี้ยงงานใส่หน้าฉันเลยค่ะ พี่เขาบอกว่า เอ็งคิดได้แค่นี้หรือ เท่านั้น ฉันก็บ่อน้ำตาแตก แต่ความพยายามของฉันมีมากกว่านั้น ฉันจึงทำหนักขึ้น มากขึ้น จนวันหนึ่ง พี่เขาก็บอกฉันว่า ไม่ต้องเอางานมาให้เขาดูทุกอย่างหรอก เขาไว้ใจแล้ว
สามปีของการอยู่กับพี่คนนี้ คือสามปีที่ฉันเสียทั้งน้ำตาและเสียทั้งความมั่นใจค่ะ แต่แล้วก็กลับคิดได้ว่า ถ้าเขาไม่เคี่ยวฉันขนาดนี้ ฉันคงไม่มีวันได้เก่งกาจและได้ความภาคภูมิใจในตัวเองกลับมา
ชีวิตการทำงานที่จริงจึงไม่ได้อยู่แค่การทำงานเลย มันอยู่ที่สิ่งแวดล้อมค่อนข้างมากอีกด้วยค่ะ
วกกลับมาถึงปัจจุบันนี้ ฉันยังคงต้องทำงานต่อไป และยังต้องผจญกับสิ่งที่คาดไม่ถึงอยู่อีก ตำแหน่ง manager ของฉันที่ได้มาในวันนี้ ทำให้ฉันหวนนึกถึงเพลงยิ่งสูงยิ่งหนาวของพี่เต๋อมาก
ฉันอาจจะหนาว แต่เชื่อว่าเธอที่เป็นหัวหน้าของฉันในวันนี้หนาวยิ่งกว่าแน่
เธอบอกกับฉันว่า เมื่อได้ฉันมา เธอรู้สึกอุ่นใจ เหมือนว่าเธอมีฉันอยู่ข้างๆเธอแล้ว เธอเองก็กลัวฉันจะโกรธ ไม่พอใจแล้วก็พาลจะไป ไม่อยากทำ เธอไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะมันเสียทุกอย่าง เสียทั้งความรู้สึก และเหมือนจะตอกย้ำว่าเธอล้มเหลว
ฉันย้อนเธอกลับไปว่า ในการที่ใครสักคนจะอยู่ในที่ทำงานนั้นไม่ได้ บางทีไม่ใช่เพราะงาน จริงใช่ไหมคะ
ฉันมีเรื่องในใจมากค่ะ จนคิดว่าแม้จะมาระบายออกในนี้แล้วก็ใช่ว่ามันจะหายไปเสียหมด บางทีฉันแทบไม่อยากคิด ยิ่งคิดซ้ำๆ มันก็ไม่เจอทางหนีทีไล่เสียที ฉันคิดว่างานนี้คงหนีไม่ได้ หากหนีก็จะเจอแบบนี้อีกแน่ๆ จึงคิดว่าฉันจะไม่หนีมันไปไหน แต่จะสู้ให้ถึงที่สุด
ฉันคิดว่าเธอคงจะรู้สึกอะไรบางอย่างค่อนข้างมาก จะว่าไปแล้วเหมือนเธอเองก็โดดเดี่ยว จากสังคม สภาพแวดล้อม ในขณะที่ฉันเองเมื่อใกล้ชิดเธอมากๆเข้า เรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานจึงเหมือนจะกลายเป็นเรื่องเดียวกัน
ซึ่งฉันคิดว่ามันไม่ดีเลย
บางครั้งเคยคิดว่า ฉันจะหนีห่างออกมาจากความสัมพันธ์ที่เป็นส่วนตัวบ้างจะดีกว่า ทิ้งระยะออกมาสักนิด ให้เหลือแค่การเป็นสายงานตามบังคับบัญชาเท่านั้น ฉันพยายามจะทำค่ะ แต่ไม่รู้จะได้ผลแค่ไหน
เธอบอกกับฉันว่า ระหว่างฉันกับเธอ แม้ระยะเวลาแค่นี้จะน้อยนัก แต่เธอรู้สึกเหมือนว่าฉันรู้ใจเธอที่สุด เหตุผลของเธอฉันไม่ปฏิเสธหรอกค่ะ มันคงจะจริง เพราะฉันก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เวลาสถานการณ์ใดเกิดขึ้น ฉันจึงไวต่อมันมาก
แต่มันก็คือดาบสองคมสำหรับฉันเช่นกัน
วันนี้จึงอยู่ที่ว่า ฉันจะจัดการอย่างไรเท่านั้น ไม่ให้ตัวเองถูกกระทบจนบาดเจ็บ ในขณะที่ต้องทำงานและต้องรักษา relation นั้นอย่างมีระยะประมาณหนึ่ง
ความรู้สึกของฉันมันบอก ว่าหากฉันจัดการตัวเองไม่ได้ดีอีก ฉันต้องเจออะไรซ้ำๆ อีกเป็นแน่ และต่อให้มันจะเกิดขึ้นหนักเบาแค่ไหน นั่นคงเป็นอีกครั้งที่ฉันต้องหนี
แต่วันนี้ฉันจะสู้ก่อนนะคะ ฉันจะไม่หนีปัญหาอีกแน่นอน
Create Date : 07 มกราคม 2549 |
Last Update : 7 มกราคม 2549 15:53:48 น. |
|
2 comments
|
Counter : 520 Pageviews. |
|
|
|
วันนี้เรื่องต่างๆคงดีขึ้นแล้วมั้งคะ